สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 365 ความล่าเอียง
ตอนที่ 365 ความล่าเอียง
หยุนเถียนเถียนลูบศีรษะตนอย่างเคอะเขิน “คนพวกนั้นพูดเรื่องชวนให้เข้าใจนางผิด แม้ฝหรงจะดูงี่เง่าไปบ้าง และเข้าออกสมาคมกวีกับพี่ชายนางอยู่หลายครั้งกระนั้นนางก็เป็นคนเชื่อถือได้!”
“แม้จะมาจากตระกูลพ่อค้าวาณิช แต่ข้าเห็นว่าครอบครัวของท่านต้องการสตรีที่สามารถจัดการบ้านเรือนได้ดีเป็นแน่! ทั้งท่านละนางต่างก็เผชิญสภาพเดียวกันคือลังเลเรื่องแต่งงาน ด้วยเหตุนี้จึงเหมาะสมนัก!”
ได้ยินเช่นนั้นแล้วจางชิงเฟิงก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนว่าหญิงสาวตรงหน้ากําลังทําหน้าที่แม่สื่อให้ตนเสียแล้วยิ่งพูดเขาก็ยิ่งอายด้วยไม่ทันตั้งตัว
กระนั้นหยุนเถียนเถียนก็เป็นคนที่เชื่อใจได้ ดังนั้นหญิงที่คบค้ากับนางได้ก็คงไม่ใช่คนเลวด้วย อนึ่งหยางฝูหรงก็เป็นคนร่าเริงนัก แม้ว่าจะนางจะไม่ใช่คนหลักแหลมหรือมีเหตุผลเท่าใด แต่การลองให้นางได้แต่งเข้าเรือนก็น่าสนใจอย่างยิ่ง
หยุนเถียนเถียนมองดูท่าทีของจางชิงเฟิงก่อนจะพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ข้ารู้ว่าการสําคัญเช่นนี้ไม่อาจผลีผลามได้อีกอย่างท่านเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หรงมากนักจึงไม่ควรด่วนตัดสินใจด้วยอย่างไรเสียข้ากับฝูหรงต่างก็เป็นสหายกันและข้าก็รู้สึกว่าท่านเป็นคนมีอุปนิสัยใจคอดีและไว้วางใจได้ยิ่งนัก!”
“เหตุนี้ข้าจึงได้มาทําหน้าที่เป็นสื่อรักให้กับท่านไงเล่าถึงบัดนี้มันจะเป็นเพียงความคิดอยู่เท่านั้นก็ตาม หากท่านให้โอกาสข้าแล้วไม่ทราบว่าท่านรังเกียจจะให้โอกาสฝูหรงด้วยหรือเปล่า?”
จางชิงเฟิงรู้สึกได้ว่าหญิงตรงหน้าคงไม่ใช่คนธรรมดา และนางก็คงยินดีให้คําแนะนําแก่เขาด้วย
ด้วยเหตุนี้จางชิงเฟิงจึงพยักหน้าตกลง
นี่เป็นครั้งแรกที่หยุนเถียนเถียนได้ทําเรื่องเช่นนี้จึงรู้สึกประหม่าอย่างมิอาจเลี่ยงครั้นนางเห็นจางซิงเฟิงตบปากรับค่าแล้วนางจึงเร่งจัดแจงนัดหมายให้เขาก่อนรีบออกจากบ้านสกุลหลไป
หยางฝูหรงนั่งเก้ออยู่ในสวนคอยหยุนเถียนเถียนกลับมา ทว่าหยิ่งซื้อเอ่อกลับปรากฏกายขึ้น
“เหตุใดเจ้าจึงมาหาเถียนเถียนอยู่ทุกวี่วันนะ? เจ้าแอบรักหยุนเคอใช่หรือไม่ หยิง ชื่อเอ่อ… หากเจ้าชอบเขานักก็ให้พ่อเจ้าไปสู่ขอเขาเสียสิ”
เมื่อหยิ่งซื้อเอ่อถูกสาวไส้เช่นนั้นก็ชักหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย
“หยางฝูหรง… เจ้าอย่าได้แสเรื่องของข้านักเลย เจ้ามาบ้านข้าในฐานะแขก เช่นนั้นจงอย่าได้ยุ่งกับธุระของเจ้าบ้าน อย่าได้คิดว่าข้าจะไม่รู้เชียว ว่าตัวเจ้าเองก็คง จะตกหลุมรักคุณชายหยุนด้วยแน่ ข้าดูออกนะ!”
หยางฝูหรงอ่าปากเหวอด้วยความตะลึงอยู่พักใหญ่
“หยิ่งซื้อเอ่อ เจ้าคงมิได้เสียสติใช่ไหม? ใครมันจะไปตกหลุมรักหยุนเคอได้กัน ถึง เขาจะหล่อเหลาก็จริงแต่ข้าก็ยังไม่อยากจะเห็นหน้าเขาเลย ข้าเองก็รู้ดีว่าเจ้าเข้าหา เถียนเถียนก็เพื่อหยุนเคอนั่นแหละ อย่าคิดว่าจะไม่มีใครมองความคิดของเจ้าออก เชียว!”
หยุนเถียนเถียนเห็นทั้งสองคนกําลังคุยกันอยู่แต่ไกล ทว่านางก็ไม่รู้ว่าทั้งสองกํา ลังพูดเรื่องอะไรกันแน่ อย่างไรเสียก็เห็นได้ว่าบรรยากาศในวงสนทนานั้นคงไม่ดี เท่าไรนัก
บัดนั้นหางตาหยิ่งซื้อเอ่อก็ชําเลืองไปเห็นหยุนเถียนเถียนแล้ว นางก็รีบระลึกถึงสิ่ง ที่ผู้เป็นแม่เคยทํามาก่อน กล่าวคือบัดนี้นางมีแผนบางอย่างในใจแล้วนั่นเอง
หยางฝูหรงที่กําลังบันดาลโทสะสังเกตเห็นทันทีว่าท่าทางของคู่กรณีดูผิดปกติไป
จู่ ๆ หยิงซื่อเอ๋อหยุดปากไม่พูดไม่จา ตามด้วยปั้นหน้าแดงบีบน้ําตาจนดูเหมือนกับ หยางฝูหรงเป็นฝ่ายรังแกนางเสียอย่างนั้น
เมื่อครู่นางก็เป็นฝ่ายมาชวนทะเลาะ บัดนี้ก็มาแสร้งร้องไห้เช่นนี้อีก นึกแล้วหยางฟู หรงก็ยิ่งรู้สึกเดือดกว่าเดิม
“หยิงซื่อเอ่อ! อย่าคิดว่าว่านิ่งเฉยแล้วเจ้าจะเป็นฝ่ายถูกเชียว… หยุนเคอไม่มีทาง ชอบเจ้าหรอก!”
หยางฝูหรงยืดแขนออกไปด้วยอารมณ์ แม้จะออกแรงในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ถึงตัว หยิงชื่อเอ๋อเลย จึงไม่มีทางที่จะทําให้ใครล้มได้จริง ๆ
ท่วาเหตุก็ไม่เป็นดังคาดเมื่อหยิงชื่อเอ่อล้มลงและเกลือกกลิ้งตกบันไดไป
หยางฝูหรงตกใจในทันที ก่อนรีบพูดด้วยความตื่นตระหนก “หยิ่งซื้อเอ่อ… เจ้าทําบ้าอะไรกัน? ข้ายังไม่ทันได้ผลักเจ้าเลย”
หยิ่งซื้อเอ่อพูดพร้อมน้ําตาที่นองหน้า “ข้าก็บอกท่านแล้วไงว่าข้าต้องการเป็นมิตรกับแม่นางหยุนจริง ๆ ไยต้องผลักข้าด้วย…ท่านเป็นใครจึงกล้ากีดกันข้าไม่ให้ผูกมิตรกับผู้อื่นได้เล่า?”
เมื่อหยุนเทียนเถียนเข้ามาใกล้แล้วนางก็เริ่มจับความได้
ส่วนหยางฝูหรงเมื่อมองเห็นหยุนเถียนเถียนแล้วก็นึกหวั่นใจว่ามิตรรักจะเข้าใจตนผิดว่าเป็นคนโฉดชั่วไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
หยางฝูหรงรีบอธิบายแก้ต่าง “เถียนเถียน… นั้นมิใช่อย่างที่เจ้าคิดนะ ข้าไม่ได้ผลักนางแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่านางล์มได้อย่างไร!”
หยุนเถียนเถียนยิ้มพลางลูบศีรษะหยางฝูหรงเป็นการปลอบประโลม
“ข้าอยู่กับเจ้ามาเสียนานไยจะไม่รู้นิสัยเจ้ากัน? ต่อให้เจ้าทําเช่นนั้นจริงก็คงเป็นเพราะนางนั่นแหละยั่วโทสะเจ้า…หยิงซื่อเอ่อ ท่านจงคิดให้ดีว่าสู่หรงผลักท่านจริงหรือเปล่า หากแน่ใจแล้วก็จงพูดออกมาเสีย ถ้าหากท่านไม่ว่าอะไรข้าก็ใคร่เชิญพ่อของท่านออกมาตัดสินหน่อยจะว่าอย่างไร”
“ท่านที่เป็นเจ้าบ้านถูกหยางฝูหรงที่เป็นแขกผลักลงไปกองกับพื้นเช่นนั้นข้าก็ไม่อาดตัดสินได้” คุณหนูหยิ่ง…ท่านพอจะนึกเหตุการณ์ออกไหม?”
หยิงซื่อเอ่อฉงนใจนักว่าเหตุใดหยุนเถียนเถียนถึงเชื่อในตัวหยางฝูหรงถึงเพียงนี้ แต่ในเมื่อฉากได้ดําเนินไปแล้วนางก็จ่าต้องเล่นต่อให้สุด
“นางเป็นคนผลักข้า! ที่ข้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อจะรอท่านกลับมา ทว่าจู่ๆ แม่นางหยางก็โผล่มาแล้วปรามาสข้าว่าเป็นเพียงหญิงอนและไม่คู่ควรจะเป็นสหายกับท่านด้วย!”
เนื่องจากหยิงซื่อเอ่อยืนกรานหนักแน่น หยุนเถียนเถียนจึงยิ้มพลางให้หญิงสาวด้านข้างไปเชิญข้าหลวงมา
ข้าหลวงหยิงกําลังอยู่ในหน้าที่ราชการ ที่แรกที่มีหญิงนางหนึ่งมาเชิญไปเขาก็ไม่ใส่ใจนัก แต่เมื่อได้ยินว่าหยุนเถียนเถียนเป็นคนเชิญจึงรีบวางธุระในมือแล้วเร่งไปหานาง
เมื่อมาถึงเขาก็เห็นว่าลูกสาวตนกําลังร่ำไห้และยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนคนถูกรังแก แม้จะยังไม่เข้าใจนักว่าเกิดอะไรขึ้นกระนั้นเขาก็ยังจําได้ว่าลูกสาวผู้นี้กําลังคิดที่จะแต่งงานกับหยุนเคอเพื่อเข้าใกลรัฐทายาทซึ่งแน่นอนว่าเขาจาเป็นต้องปกป้องนางเป็นสําคัญ
“ซื่อเอ่อ…เจ้าเป็นอะไรไป? ผู้ใดทําร้ายเจ้างั้นหรือ?”
หยุนเทียนเถียนกล่าวเชิงเย้ยหยัน ท่านข้าหลวงนี่ช่างเฉียบแหลมยิ่งนัก! ท่านยังไม่ทันจะถามอะไรก็รู้เสียแล้วว่านางถูกรังแก! ก็เป็นเช่นเดียวกับที่ท่านเคยตัดสินมาก่อนใช่หรือไม่?”