วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 893 คนเลวที่ไม่ยอมให้เราผ่านไปได้ดีๆนั้นคือใคร
ตอนที่ 893 คนเลวที่ไม่ยอมให้เราผ่านไปได้ดีๆนั้นคือใคร
สิบสองรออยู่ด้านนอนเป็นเวลานานมาก โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั้นหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ดูเพราะไม่แปดก็ต้องวัจสาที่โทรมา
และสายพวกนี้ก็ต้องเป็นอำเภอพักรักแน่ๆที่บังคับให้พวกเขาโทรมา
ที่ระเบียงชั้นสามสามารถเห็นรถของธัชชัยที่จอดไว้ตรงทางเข้าปากอ่าวได้
……
“หม่ามี๊….หม่ามี๊สุดที่รัก…..หม่ามี๊ที่ดีที่สุด ลูกชายสุดที่รักกลับมาแล้วครับ!”
นี่การทำตัวน่ารักมันติดง่ายขนาดนั้นหรอ? เพิ่งทำตัวน่ารักๆกับพ่อมาแล้วก็มาทำตัวน่ารักใส่หม่ามี๊วัจสาต่ออีก. ในมือของเขาก็ถือโทรศัพท์ใหม่เอี่ยมมาเครื่องนึง
วัจสาที่กำลังจัดโต๊ะอยู่กับพ่อครัวแต่ท่าทางของเธอเปลี่ยนไปไม่เหมือนที่เคยสัญญาเอาไว้
“ตะวันกลับมาแล้วหรอ? หิวมั้ยครับ?” วัจสาคุกเข้ารับเด็กน้อยที่พุ่งเข้ามาหา
“ไม่หิวครับ! กินกับพ่อข้างนอกมาแล้ว!”
วัจสาไม่ถามอะไรต่อเพราะเธอไม่อยากที่จะไปขวางความสัมพันธ์พ่อลูก
“สิบห้า ไม่เห็นหรอว่าพ่อบุญธรรมก็อยู่เหมือนกันนะ?” น้ำเสียงของอำเภอพัดรักมีความน้อยใจอยู่น้อยๆ
เมื่อเห็นหลานรักหอมกับหม่ามี๊เสร็จก็ไปพัวพันเล่นหุ่นยนต์กับสิบสองเขาก็เกิดอารมณ์เสียขึ้น
“พ่อบุญธรรม! คุณคือพ่อบุญธรรมที่ดีที่สุดของสิบห้า!”
เด็กน้อยอารมณ์ดีเมื่อเห็นใครๆก็ออดอ้อนไปหมด เมื่อกี้ตอนที่สิบสองอุ้มเขาขึ้นมาเด็กน้อยก็ตั้งใจหอมเขาดังๆ
ถ้าเป็นตอนปกติหล่ะก็มีน้อยมากที่เด็กน้อยจะหอมใครอย่างงี้
เมื่อเริ่มเวลาอาหารเย็นวัจสาก็ไม่ได้นั่งกินในครัวเหมือนแต่ก่อนแต่มานั่งกินร่วมโต๊ะกับอำเภอพัดรัก
เธอไม่ได้คาดหวังให้มีตำแหน่งสูงเทียบอำเภอพัดรักแต่เธอแค่หวังว่าจะอยู่ในจุดที่ได้รับความยุติธรรมและก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของลูกชายตามที่ได้สัญญากับเธอไว
อาหารเย็นมีมากมายเช่นเคยและแทบจะเป็นของที่วัจสาสองแม่ลูกชอบทั้งหมด
“วัจสา เธอเธอก็ไม่ต้องทะเลาะกันไปกันมากับธัชชัยแล้วพรุ่งนี้ก็ย้ายกลับไปกับสิบห้าเลย”
ตอนนี้อำเภอพัดรักตกอยู่ในความสับสนในตัวเพราะเขาต้องการที่จะให้วัจสาสองแม่ลูกอยู่ต่อสามารถเห็นหลานตัวเองในทุกๆวันเห็นลูกชายที่คอยมารับส่งสิบห้า
แต่อำเภอพัดรักก็สงสารที่ต้องวิ่งเต้นไปมาอยู่อย่างงี้ และการที่คุ้มกันอยู่ที่ปากทางเข้าอ่าวทั้งวันก็ทำให้เขาสงสารเช่นกัน
“ฉันกับตะวันเพิ่งอยู่มาแค่สองสามวันเองไม่ใช่หรอ? ทำไมอยากไล่ให้พวกเรากลับไวๆหล่ะ?”
วัจสาพูดเรียบๆพลางคีบผักบล็อกโคลี่ให้ลูกชายเด็กน้อยทำท่ารังเกียจหันหน้าหนีทันที
“ถ้าไม่กินหล่ะก็วันนี้จะไม่นอนด้วยนะ ลูกก็นอนที่โซฟาไม่ก็ที่พื้นไปคนเดียว!”
เด็กน้อยไม่ชอบกินของพวกนี้แต่ไหนแต่ไร ชอบกินแต่เนื้อไม่จำเป็นต้องพูดเลย ตอนที่กินข้าวกับพ่อเขาต้องไม่กินผักสีเขียวแน่ๆ!“หม่ามี๊ใจร้ายที่สุด ไม่เหมือนเหมือนหม่ามี๊สุดที่รักของตะวันเลยสักนิด!”ถึงเขาจะงอนไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะวัจสาก็ยังคงยัดบล็อกโคลี่เข้าปากเล็กๆของเขาอยู่ดี“พ่อครัวต้องเป็นโรคแน่ๆถึงชอบทำแต่อาหารสีเขียวๆ!”“นี่หม่ามี๊เป็นคนทำเอง จะตีก็ตีหม่ามี๊นี่!”เด็กน้อยก็เงียบขึ้นมาทันที“สิบห้าไม่ชอบกินอันนี้เธอก็อย่าไปบังคับเขาเลย ถ้ากลัวว่าสารอาหารจะไปพอก็ให้เขากินอาหารเสริมเอา!”อำเภอพัดรักเมื่อเห็นสิบห้าถูกบังคับให้กินก็ทนไม่ได้ถ้าปกติแล้ววัจสาต้องหาสารพัดเหตุผลมาอธิบายให้อำเภอพัดรักฟังอย่างใจเย็นแต่วันนี้เธอขี้เกียจจะพูดแล้ว“ตะวันเด็กน้อย วันนี้ใครจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ บล็อกโคลี่3ชิ้นนี้ลูกต้องกินให้หมด! หม่ามี๊คลอดลูกออกมาหม่ามี๊จัดการลูกไม่ได้ใช่มั้ย?”วัจสาม้วนแขนเสื้อขึ้นบังคับยัดบล็อคโคลี่ชิ้นสุดท้ายให้ลูกชายที่จริงเธอมีวิธีที่อ่อนโยนกว่านี้ แต่เย็นนี้เธอตั้งใจที่จะทำให้อำเภอพัดรักเห็น“สา สิบห้าเพิ่งห้าขวบ เธอต้องเข้มงวดกับเขาขนาดนี้เลยหรอ?”จู่ๆอำเภอพัดรักก็ตบตะเกียบลงสีหน้าก็เริ่มแข็งขึ้น“แล้วตอนที่พวกเราสองคนแม่ลูกถูกขังอยู่ในห้องเพาะเห็ดมีโซ่ล่ามเท้าแม้แต่จะกินจะนอนจะเข้าห้องน้ำก็ที่เดียวกันหมด……ใช้ชีวิตไม่ต่างไปกับหมาตัวหนึ่ง ตอนนั้นทำไมถึงไม่มีใครสักคนเข้าไปถามพวกเราสองคนแม่ลูกบ้างหล่ะ?”วัจสาไม่อยากร้องไห้แต่ก็อดร้องไม่ได้เมื่อเห็นหม่ามี๊สุดที่รักร้องไห้เด็กน้อยก็อยู่ไม่สุข“หม่ามี๊อย่าร้องไห้บอกลูกมาว่าคนนิสัยไม่ดีคนไหนที่ขังผมกับหม่ามี๊ไว้ในห้องแถมยังล่ามโซ่พวกเราอีก? ตะวันจะไปเผาเขาทันที!”ในสายตาของเด็กน้อยแล้วไม่ว่าใครก็มากลั่นแกล้งหม่ามี๊สุดที่รักของเขาไม่ได้!“พ่อบุญธรรมลูกรู้ไปถามเขาสิ! พ่อของลูกก็รู้นะ!”วัจสาไม่ได้ตอบคำถามลูกชายโยนปัญหาไปให้อำเภอพัดรัก, ยังไงนี่ก็เป็นวิ่งที่เขาควรจะทำวัจสาวางตะเกียบลงแล้วเดินกลับห้องตนเองบางทีวันนี้มันอาจจะสบายเกินไปจิตใจวัจสาเลยไม่สงบหวนคิดถึงเรื่องในอดีตนิดๆหน่อยๆเริ่มตั้งแต่พ่อบ้านภูษิตมอบสินสอดให้ตระกูลเดิมขุนทดจนถึงการต่อสู้พัวพันของตนเองกับธัชชัย…..แล้วก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของกนิษฐา….ตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้ตั้งครรภ์ทำไมถึงแบกอะไรที่มันหนักขนาดนั้นนะ? ตอนนี้พอย้อนนึกไปถึงวันที่มืดมนั้นก็ยังทำให้เย็นวาบไปทั้งตัวอยู่แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นตนเองทนไปได้ยังไงเป็นแมวเก้าชีวิตปกป้องลูก ปกป้องชีวิตตนเองวัจสาแสดงความเกลียดชังต่อกนิษฐา ที่จริงตนเองก็แสดงความไม่พอใจต่ออำเภอพัดรักเหมือนกันในตอนนั้นอำเภอพัดรักเอาตนเองที่ตั้งครรภ์กับวรพลที่เป็นผู้พิการใส่ไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ดูดอากาศ. พวกเขาต้องสูดอากาศจากโถส้วมเพื่อเอาชีวิตรอด…..แล้วเขาก็เอาตนเองที่ตั้งครรภ์โยนลงทะเล……ความมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุดในคืนนั้นเมื่อวัจสาคิดขึ้นมาก็เสียวสันหลังวาบแล้วผู้ที่ริเริ่มสิ่งนี้ทั้งหมดก็คือคุณปู่สุดที่รักของลูกชายตัวเอง! ช่างน่าตลกสิ้นดี!เมื่อเห็นหม่ามี๊เช็ดน้ำตาเดินเข้าห้องเด็กน้อยก็มองอำเภอพัดรักอย่างขู่เข็ญ“พ่อบุญธรรมรีบบอกผมมาเร็วว่าใครคือคนเลวนั้น! ทำไมต้องเอาผมกับหม่ามี๊ไปขังล่ามไว้ในห้อง? ผมจะต้องไปแก้แค้นแทนหม่ามี๊ให้ได้!”อำเภอพัดรักที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่อยากทานอาหารเย็นอีกต่อไปจากที่วัจสาทำเขาก็เข้าใจว่าตนเองไม่ได้มีความผิดต่อธัชชัยอย่างเดียวแต่ก็มีความผิดต่อวัจสาที่ไม่อภัยให้ได้เช่นกันแต่เมื่อเห็นหลานบีบบังคับให้ตอบ เขาก็ยังคงเห็นแกตัวไม่อยากทิ้งภาพจำแย่ๆให้แก่หลาน“สิบห้า มานี่เร็ว……”อำเภอพัดรักอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาจากพื้นมาไว้ในอ้อมกอดแล้วหอมฟอดหนึ่ง“คนที่ขังแม่ของนายไว้คือกนิษฐา! แต่นายวางใจเถอะพ่อบุญธรรมส่งคนไปหาเธอที่vancouverแล้ว ไม่ให้เธอกลับมาดีแน่!”แววตาเด็กน้อยลุกโชน “เป็นแม่มดร้ายนั่นอีกแล้ว!”เด็กน้อยที่อยู่ค้างบ้านตระกูลศรีทองสองสามวันก็ได้เห็นความโหดร้ายของกนิษฐา, พอเจอกันก็คิดแต่จะหาวิธีแกล้งตนเองกับหม่ามี๊!“vancouverใหญ่มั้ยครับ? ตั้งนานแล้วทำไมยังไม่เจออีก?” เด็กน้อยไม่พอใจ“ต้องหาเจอแน่! เป็นเด็กดีนะ วันนี้นอนกับพ่อบุญธรรมมั้ย?”อำเภอพัดรักลูบหน้าเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน“ไม่เอา! กนิษฐาเป็นลูกบุญธรรมของคุณ คุณต้องช่วยเธอแน่ๆไม่งั้นเธอไม่กำเริบขนาดนี้หรอก!”แม้ว่าเด็กน้อยจะตัวเล็กแต่IQฉลาดมากเมื่อก่อนเพราะหม่ามี๊กลัวพ่อบุญธรรมอำเภอพัดรักแต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วเขาก็ไม่ใช่ไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว. แล้วตอนนี้อำเภอพัดรักก็ไม่ได้โหดร้ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว……มือถืออันใหม่ที่เด็กน้อยเอากลับมาด้วยดังขึ้นมาวัจสาแค่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้รับโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหัวเตียงเด็กน้อยแอบมองหม่ามี๊ที่ไม่อยากรับโทรศัพท์ของพ่อ ตนเองจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดลำโพงแบบนี้หม่ามี๊ก็จะได้ยินเสียงของพ่อ!“ลูกชายสุดที่รักวันนี้นอนกับหม่ามี๊มั้ย? พ่อน่าสงสารมากเลยเหงาด้วยอยู่คนเดียว”น้ำเสียงของธัชชัยนั้นเหงาจริงๆแต่ก็ปนๆความขี้เกียจ“คนนิสัยไม่ดีธัชชัย ผมไม่อยากสนใจคุณแล้ว!” เด็กน้อยพ่นลมหายใจหน้ามุ่ย“ทำไมหล่ะ? ทำไมลูกชายสุดที่รักไม่อยากสนใจพ่อนะ? พ่อทำเรื่องอะไรให้ลูกกับหม่ามี๊หรอ?”เหตุผลที่ทำให้เด็กน้อยไม่พอใจก็มีแค่เรื่องที่เกี่ยวกับหม่ามี๊สุดที่รักของเขานั่นแหล่ะ“ธัชชัยคุณก็รู้ใช่มั้ยว่าคนนิสัยไม่ดีที่ขังผมกับหม่ามี๊ล่ามไว้ในห้องเล็กๆจะกินจะนอนจะเข้าห้องน้ำก็ที่เดียวกันหมดใช้ชีวิตไม่ต่างไปกับหมาตัวหนึ่งก็คือแม่มดร้ายกนิษฐาถูกมั้ย?”เมื่อเจอคำถามของลูกชายธัชชัยก็ตะลึงเงียบลงทันทีจู่ๆลูกชายถามมาอย่างงี้แสดงว่าวัจสาต้องพูดอะไรกับเขาแน่ๆ“เฮอะ ผมรู้ว่าคุณรู้! บอกมาสิว่าทำไมถึงไม่ช่วยหม่ามี๊แก้แค้น? ไม่ลงโทษกนิษฐานั่นหรอ?“ตะวันเป็นเด็กดีนะช่วยเอาโทรศัพท์ให้หม่ามี๊ก่อน!”“หม่ามี๊ผมไม่อยากรับโทรศัพท์คุณ!” เด็กน้อยส่งเสียงไม่พอใจ “โชคดีที่หม่ามี๊มีลูกชายสุดที่รักแบบผม ผมจะต้องช่วยหม่ามี๊แก้แค้นแน่!”เสียงธัชชัยต่ำลงผสมความโมโห “ตะวันนี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กจะมายุ่ง รีบเอาโทรศัพท์ให้หม่ามี๊เร็ว!”ไม่ว่ายังไงก็ตามจะให้เด็กน้อยมามีความเกลียดไปด้วยไม่ได้“ทำไมผมจะไม่ควรยุ่ง? ผมอยู่ในท้องหม่ามี๊รับความทุกข์ไปพร้อมกัน! ธัชชัยคุณเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยแม้แต่ลูกภรรยาตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย!”เด็กน้อยไม่เคยอ่อนข้อให้กับคนที่ทำร้ายหม่ามี๊ตนเอง ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่ไว้หน้าทั้งนั้นเขาวางสายด้วยความโกรธแล้วก็ปิดเครื่องโยนโทรศัพท์ไปไกลๆหลังจากนั้นก็ปีนไปข้างๆหม่ามี๊เบา พึมพัมๆว่า: “หม่ามี๊ ขอโทษครับที่ทำให้ทรมานแล้วก็ไม่ได้ปกป้องหม่ามี๊….”วัจสาที่น้ำตาเอ่อล้นจนแทบจะไหล ก็ไหลพรากออกมาเธอรู้ว่าไม่ควรยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา, และมีความหวังในอนาคตแต่ตนเองทำไม่ได้ทั้งหมดที่ผ่านมามันเป็นเหมือนหนามแหลมที่ทำให้วัจสาเมื่อใดที่ไม่ระวังไปแตะต้องมันก็จะทำให้เจ็บปวด“ตะวัน ทำไมถึงโหดกับพ่อขนาดนั้น? เขาพูดถูกนะว่านี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกับเด็ก. หม่ามี๊แค่หวังให้ลูกเติบโตมาอย่างแข็งแรง!”วัจสาอุ้มเด็กน้อยที่เกาะเอวตนเองอยู่มาไว้ในอ้อมกอดและกอดอย่างอบอุ่น