วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 592 ธัชชัยจะตายไหม
ตอนที่ 592 ธัชชัยจะตายไหม
แวววัยรู้สึกเจ็บมาก…เป็นความเจ็บแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน
และที่เจ็บไม่ใช่เพียงร่างกาย แต่เป็นหัวใจด้วยเช่นกัน
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา โสธรยังคงไม่หยุด หนึ่งชั่วโมงที่ยาวนาน เหมือนกับเธอผ่านไปหนึ่งทศวรรษ
โสธรพอใจมาก แต่แวววัยรู้สึกเหมือนตายไปแล้วหนึ่งครั้ง
ธนบัตรสีแดงลอยมาบนตัวที่เลาะเต็มไปด้วยรอยเลือดสีแดงของแวววัย แล้วโสธรก็พูดด้วยความเหนื่อยล้า และรำคาญใจ “เอาเงินแล้วไปซะ!”
โสธรไม่แม้แต่หันกลับมามองแวววัยที่อยู่ข้างๆ หรือพูดอีกอย่างว่า เมื่อกี้ผู้หญิงคนไหนที่อยู่ใต้ร่างของเขานั้นไม่สำคัญ!
ตอนนี้เขาเพียงต้องการให้เธอไปจากระยะสายตาของเขา
โสธรไม่เพียงแต่ทำร้ายร่างกายเธอ แล้วเขายังทำลายศักดิ์ศรีของเธออีก!
แวววัยยังไม่ทันได้สติจากที่เธอสูญเสียพรหมจรรย์ที่รักษาไว้มาตลอด 20 กว่าปี แล้วก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ
นานๆทีเธอจะโทษตัวเอง นอกจากตัวเธอเองแล้ว ก็ไม่มีใครมารักแกเธอได้! ดังนั้นจึงหยิบของที่แตกได้ใกล้มือ ทุบลงไปที่โสธร
“ให้ตายเถอะ ไปตายซะ! แกมันสารเลว! ข่มขืนฉัน! ไปอยู่ในคุกซะเถอะ!” แวววัยพูดจบก็ใช้กระเป๋าในมือตัวเองทุบลงไปที่หน้าของโสธรไม่ยั้ง“ผู้ชายสำส่อน! แกสมควรตาย! หน้าด้าน!”แวววัยที่โมโหนั้นเหมือนกับสิงโตเพศเมียที่ขาดความควบคุม เธอตีโสธรอย่างไม่ยั้งมือ ถึงแม้ว่าร่างกายของเธอยังเจ็บปวด ความเจ็บที่ช่วงขานั้นเหมือนร่างกายจะฉีกเป็นชิ้นๆแต่โสธรที่หมดฤทธิ์ยานั้นอ่อนแรงเสียยิ่งกว่า เขาถูกแวววัยตีอย่างหมดแรงสู้โสธรถูกตีจนเริ่มจะโมโห ตะคอกขึ้นมา “พอแล้ว นังบ้านี่อยากตายเหรอ?”“ใช่สิ ฉันรนหาที่ตาย! มีปัญญาก็ฆ่าฉันสิ!” แวววัยที่โมโหจนถึงขีดสุดตะคอกออกมา แล้วก้มลงไปกัดที่แขนโสธร ออกสุดแรง แทบจะกัดกินเนื้อที่แขนของเขาเธอรับไม่ได้ที่ถูกผู้ชายสำส่อนทำร้ายเช่นนี้ ไม่เพียงแค่แย่งชิงสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของผู้หญิงไป แล้วยังหยามเกียรติเธออีก!วัจสานั่งรอที่หน้าบ้านแวววัยนานมาก โทรหาก็ไม่ติด วัจสาจึงกลับไปเมื่อกลับมาถึงอ่าวน้ำตื้น ตะวันและอำเภอพัดรักกลับมาถึงแล้วเห็นอำเภอพัดรักอุ้มเขาขึ้นสูง เป็นปกติที่พวกเขาเล่นกันเมื่อเห็นตะวันเล่นอย่างสนุกสนาน วัจสาก็รู้สึกสบายใจเธอไม่ได้เข้าไปห้ามสิ่งที่พวกเขาเล่นกันอยู่ เอเพียงแค่นั่งดูเงียบๆเป็นเช่นนี้ตลอดห้าปีเสมอมาถึงแม้ว่าอำเภอพัดรักจะอายุห้าหกสิบแล้ว แต่เขาก็เป็นผู้ชาย ร่างกายเขายังคงแข็งแรงและอยู่กับพวกเขาใน sky dream อำเภอพัดรักยังมีลูกเลี้ยงคนอื่นๆที่เป็นผู้ชายทั้งหมด ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่กลางดงผู้ชายนี้ ยิ่งต้องระวังทั้งการกระทำและคำพูดดังนั้นโดยปกติแล้ว วัจสาจึงทำตัวเองเหมือนไม่มีตัวตน จนพวกเขาแทบไม่รู้สึกว่ามีเธออยู่ด้วยใน sky dream วัจสาใช้ชีวิตอย่างระวังตัวมาก“หม่ามี๊…” ตะวันเห็นวัจสาหม่ามี๊ของเขา จึงรีบลงมาจากอ้อมแขนของอำเภอพัดรักวัจสาจึงรีบเข้าไปทักอำเภอพัดรักตามมารยาท “คุณพรมมิน สวัสดีค่ะ”อำเภอพัดรักค้อมหัวเล็กน้อย ให้เขาสูงส่งอยู่ตลอด ชินแล้วกับการที่วัจสาเคารพเขาเช่นนี้“หม่ามี๊ รีบอุ้มผมขึ้นไปเร็ว!” หนูน้อยกางแขนออก ต้องการให้หม่ามี๊อุ้มเขา ทำให้วัจสาอึ้งเล็กน้อยเพราะสองครั้งก่อนหน้านี้ หลังจากที่เขาเจอธัชชัยเอาแต่นิ่งซึม หนีหน้าหม่ามี๊ แต่ตะวันในคืนนี้ แปลกไปแต่ไม่ว่าเขาจะแปลกไปอย่างไร ก็ทำตามที่เขาต้องการ อุ้มตัวน้อยขึ้นมาในอ้อมแขน หนูน้อยซุกตัวเข้ากับแขนเธอ แล้วใช้แขนโอบคอเธอแน่น อ้อนโดยไม่ต้องพูดอะไร“คุณพรมมิน เดี๋ยวฉันพาสิบห้าไปเข้านอนก่อนนะคะ เขาเหมือนจะง่วงแล้ว” วัจสาพูดกับอำเภอพัดรัก แต่ก็เหมือนเป็นการแสดง ว่าตะวันลูกชายมีเรื่องจะคุยกับเธอ“ไม่รีบ ตะวันยังไม่ได้กินข้าว คงหิว กินข้าวก่อนแล้วค่อยไป”อำเภอพัดรักยังไม่ต้องการให้ตะวันไปจากระยะสายตาของเขา ต่อให้ไม่ตัวติดกับหนูน้อย แต่แค่ได้เห็นเขาวิ่งไปมาทั่วห้อง ก็มีความสุขแล้วเมื่อเห็นว่าอำเภอพัดรักไม่อนุญาต วัจสาก็ไม่ฝืนที่จะพาตะวันกลับห้องโดยปกติแล้ว วัจสาจะเลือกเชื่อฟังอำเภอพัดรัก เพราะเธอขัดขืน ก็ไม่มีผลดีอะไรต่อเธอสองแม่ลูกวัจสาไม่ได้ทานข้าวพร้อมพวกเขา เพราะคนที่จะได้ทานข้าวพร้อมกับอำเภอพัดรักนั้นน้อยมาก