วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 574 ลักเมียไปขาย
ตอนที่ 574 ลักเมียไปขาย
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว วัจสาก็เพิ่งสังเกตร่างกำยำของชายหนุ่ม เมื่อครู่ที่ค้นตัวเขาก็ไม่เห็นจะมีแผลหรือแผลเป็นอะไร ถ้าแผลหายไวขนาดนี้ คงจะไม่ได้เจ็บอะไรมาก
ตอนที่วัจสาอยู่ในภวังค์นั้น ธัชชัยก็ฉวยโอกาสแบกเธอวิ่งลงบันไดไป
“ไอ้บ้าธัชชัย คุณคิดจะทำอะไร ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ”
วัจสาที่ถูกธัชชัยแบก ได้แต่ใช้มือทุบหลังเขาไปตลอดทาง พนักงานที่อยู่ชั้นล่งต่างก็ยืนดูนิ่ง
“ช่วยด้วย เขาจะลักฉันไปขายค่ะ พวกคุณช่วยฉันด้วยค่ะ….ช่วยแจ้งตำรวจก็ได้ค่ะ” วัจสาพูดกับพนักงานที่ยืนอยู่ในนั้น
“ลักเมียไปขาย อย่าพูดเป็นเล่นสิจ้ะเมียจ๋า ผัวยอมกลับบ้านแล้วนี่ไง อีกอย่างนะ เมียเองก็น่าจะขายได้ไม่เท่าไหร่หรอก ส่งไปฟิลิปปินส์ก็คงจะโดนเขาตีกลับประเทศเอาเปล่าๆ”
คำพูดแดกดันของธัชชัยทำเอาวัจสากัดฟันกรอด แต่คนที่อยู่ภายในร้านกลับตลกขำขัน
พวกเขาคิดว่าวัจสาทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย เลยยืนดูธัชชัยแบกเธอออกไปอย่างนิ่งเฉย
วัจสาโดนธัชชัยโยนเข้าไปในรถ MPV คันใหญ่ แล้วก็โยนโทรศัพท์เครื่องหนึ่งให้เธอ “โทรบอกแฟนใหม่คุณให้มาไถ่ตัวกลับไป”
วัจสารับโทรศัพท์จากเขามา โทรบอกแฟนใหม่ให้มาไถ่ตัวเธอเหรอ แล้วทีนี้เธอจะโทรหาใครล่ะเนี่ยเธอไม่เรียกตะวันมาอย่างแน่นอน เขายังเด็ก จะมาไถ่ตัวได้ยังไง อีกอย่าง เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเด็กคนที่เขาคิดว่า ‘ตายแต่วัยเยาว์’ คนนั้น ยังมีชีวิตอยู่เขามีหนูมิ้นเป็นลูกสาวคนหนึ่งแล้ว และก็รักมากด้วย ตระกูลศรีทองคงไม่มีที่ให้สองแม่ลูกอย่างเธอกับตะวันยืนหรอกวัจสาแย่งเขาไปไม่ชนะปีศาจร้ายอย่างกนิษฐาหรอก ลูกของเธออยู่ในมือของอำเภอพัดรักถึงจะปลอดภัยที่สุดโทรหาอำเภอพัดรักหรือเข้มดีล่ะ แต่พวกเขาจะช่วยเธอได้จริงๆเหรอ ถึงจะช่วยได้ก็เถอะ แต่ถ้าพวกเขารู้ ตะวันก็อาจจะรู้เรื่องนี้ก็ได้ เธอเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ช่วยเธอปิดเรื่องนี้เป็นความลับอย่างแน่นอน สิ่งที่พวกเขาหวังที่สุดก็คือ ได้เห็นพ่อลูกฆ่ากันตาย !งั้นก็เหลืออยู่คนเดียวแล้ว โทรเรียกตำรวจ !วัจสาจึงแอบเหล่มองธัชชัย อยากจะให้ฝ่ามือบังหมายเลขที่เธอกำลังกดไว้แต่ยังไม่ทันมีใครรับ ธัชชัยก็ยืนมือมาคว้าโทรศัพท์ไปปาใส่กระจกหน้ารถจนแตกเสียก่อน“มีโอกาสโทรก็ยังจะทำหลุดมืออีก คุณหมดโอกาสแล้ว” ว่าแล้วก็หันไปบอกกับคนขับรถ “ออกรถ กลับบริษัท”“ธัชชัย ปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลงจากรถ !” ไม่ว่าวัจสาจะทุบตี โวยวายไปอย่างไร แต่ธัชชัยก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลยแม้แต่น้อย"วัจสา ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ห้วงราตรีระหว่างเราสองคน มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น !" น้ำเสียงของเขาช่างเยือกเย็นนัก เย็นลึกเข้าไปถึงในกระดูก ทำเอาเธอลืมแม้กระทั่งต่อต้าน ได้เพียงแค่นั่งมองชายหนุ่มไปเงียบๆเท่านั้นเธอจำไม่ได้ว่าธัชชัยแบกตนออกมาจากลิฟต์อย่างไร มารู้ตัวอีกทีก็โดนขังอยู่ในห้องพักแล้วเธอจำได้แค่ว่าเธอด่าเขาตลอดทั้งทาง ทั้งเตะทั้งต่อย แต่เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้หรืออะไรทั้งนั้นสุดท้ายวัจสาก็ถูกจับโยนลงไปบนโซฟาที่เหมือนจะแปลกตาก็แปลก จะคุ้นตาก็คุ้นเมื่อห้าปีก่อนเธอยังเคยนอนบนโซฟาตัวนี้อยู่เลยคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าห้าปีต่อมาเธอก็ยังหนีไม่พ้น โดนเขาจับกดไว้บนโซฟาตัวเดิมเธอรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก วัจสาที่อยู่ใต้ล่างโดนกดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเธอรู้สึกว่าจะสิ้นลมปราณเอาซ้ะให้ได้แรกๆเธอก็ดิ้นสุดแรงที่มี แต่แรงของเธอสู้แรงของชายร่างใหญ่ไม่ได้เลยสักนิด แรงต้านทั้งหมดที่เธอใช้ไปเหมือนโดนเขาทำลายไปซ้ะจนป่นปี้วัจสารู้สึกว่าร่างของเธอโดนโม่จนเลือดออกแล้ว แต่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยเธอไป เธอคิดอยากจะยอมลดตัวกราบขอร้องชายตรงหน้า แต่ก็ไม่อยากจะปริปากพูด ได้แต่ฟันกัดเอาไว้แน่นถึงจะขอร้องหรือไม่ขอร้อง เห็นทีคงจะหยุดอารมณ์ของเขาไม่ได้แน่ เธอสัมผัสได้ถึงความโหดเหี้ยมที่กระแทกหนักๆลงมา จนเธอรู้สึกกลัวเหลือเกินเหมือนกับจะต้องตายพร้อมกับเขาบนเตียงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดแต่เธอก็ยังไม่อยากตายอยู่ดี แล้วก็ตายไม่ได้ด้วย ตะวันยังรอให้เธอกลับไปหาอยู่ช่างเป็นความระทมทุกข์ที่แสนยาวนานเหลือเกิน ตอนนี้เธอเชื่อแล้ว ไอ้ที่เขาบอกว่าจะตามราวีเธอไปจนตาย เขาไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด เธอเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าเขาจะทำให้เธอตายด้วยวิธีเลวทรามต่ำช้าไร้ยางอายได้จริงๆ เธอรู้สึกคล้ายว่าตัวเองตกนรกทั้งเป็น แต่แค่ไม่เห็นวิญญาณวัวกระทิงหรืองูอะไร เป็นเพียงความรู้สึกที่เหมือนอยู่ในนรกยังไงอย่างนั้น พอตกลงไป จะปีนกลับขึ้นมายังไงก็ปีนขึ้นมาไม่ได้ เจ็บแสบทุกข์ทรมานอยู่บนความนุ่มนวลและความเคลิบเคลิ้มเธออยากจะแปลงกายเป็นไม้สักท่อนหนึ่งให้เขาทำอะไรก็ได้ตามใจเขา แต่ตอนนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะครางออกมา เธอยิ่งครางก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเพิ่มความโหดเหี้ยมดังสัตว์ป่าให้ทวีขึ้นไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เธอก็นอนสลบไสลไปอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้จะเรียกสลบหรือว่าตายดีจนกระทั่งได้ยินเสียงนางฟ้าตัวน้อยๆ น่าจะเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่รู้ว่ากี่ขวบแล้ว….