วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 31 สืบเรื่องกนิษฐา
ตอนที่ 31 สืบเรื่องกนิษฐา
แต่ว่าแค่กำลังของวัจสาเพียงคนเดียวคงไม่สามารถต่อสู้กับผู้ชายคนนั้นได้ คนทั้งบ้านต่างก็ให้ความช่วยเหลือเขา ยังมีทางที่จะให้ต่อสู้เพื่อชะตาชีวิตของตัวเองอีกหรือไม่?
คิดไม่ถึงเลยว่าพอป้าอ้อยได้ฟังคำพูดของวัจสาแล้ว จะหัวเราะเสียงดังออกมาพูดขึ้นว่า “คุณผู้หญิง เดี๋ยวฉันจะบอกคุณชายให้นะคะ แต่ว่าฉันก็หวังว่าคนที่รักกันจะได้อยู่ครองรักกัน”
คนที่รักกันจะได้อยู่ครองรักกันอย่างงั้นหรอ? ป้าอ้อยพูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร? ความคิดเหลวไหลก็พลันผุดออกมาจากสมองของวัจสา ป้าอ้อยคงไม่ได้จะแนะนำให้เธอเข้าหาธัชชัยน้องชายของสามีเธอหรอกนะ?
หลังจากที่ความคิดนี้ผุดออกมา วัจสาเองก็ตกใจกลัวไม่น้อย คนของตระกูลศรีทองตระกูลนี้คงไม่ใช่ธรรมดาแล้วล่ะ
ในคืนที่ดึกสงัด ณ Richbaby
สถานที่บันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเอส เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่อโคจร ผู้ชายที่มาเมืองเอส หากไม่ไปที่ Richbaby สักรอบ ก็ถือได้ว่ามาโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนผู้หญิงแน่นอนว่าย่อมไปหาผู้ชายที่ตัวเองชอบในสถานที่แห่งนั้น
ในเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว ที่ Richbaby ยิ่งดึกก็ยิ่งคึกคักมีชีวิตชีวามากขึ้น เสียงเพลงดังกึกก้องไปทั่ว บนเวทีหนุ่มสาวที่เต้นกันอย่างเมามันส์ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ ลุ่มหลงอยู่ในแสงสีเสียงของสถานบันเทิงยามค่ำคืน กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงปะปนไปด้วยกลิ่นอายของฮอร์โมนหนุ่มสาวจนไม่สามารถแยกออกได้ชัดเจน เป็นสถานที่ที่น่าหลงใหลของผู้คนมากน้อยเพียงใด?
ห้องรับรองห้องหนึ่งที่อยู่แยกออกไปจากเสียงโหวกเหวกโวยวายเหล่านั้น ชายหนุ่มรูปหล่อหน้าตาดีนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา ด้านข้างมีเด็กสาวที่กำลังลูบไล้หน้าอกชายคนนั้นอยู่ กลิ่นอายในห้องรับรองเพิ่มขึ้นไม่หยุด เด็กสาวยิ้มเล็กน้อย ริมฝีปากอมชมพูที่น่าจูบ…
ในเวลานี้ก็เกิดเสียงดังขึ้น “ปัง” ประตูบานใหญ่ของห้องรับรองถูกคนเปิดเข้ามาอย่างแรง
ชายที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังนั้นก็พลันตกใจไม่น้อยกับพายุที่มาเยือนโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด
“ใครมันช่างบังอาจขนาดนี้?” ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง
“โสธร” เสียงทุ่มต่ำที่มีพลังของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นตรงหน้าประตู หลังจากได้ยินชื่อของชายที่ชื่อ โสธรทันใดนั้นร่างกายก็พลันสั่นไปทั้งตัว “ที่แท้ก็เป็นองค์พระพุทธเจ้ามานี่เอง” โสธรยิ้มแย้มพูด
โสธรยิ้มแย้มพร้อมเดินไปยังประตู อ้าแขนออกเพื่อจะเข้าไปสวมกอด แต่น่าเสียดายที่เดินยังไม่ทันจะถึงก็ถูกผลักออกมา
เขาแกล้งทำสีหน้าราวกับได้รับบาดเจ็บแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านชัยท่านช่างใจดำอำมหิตนัก หัวใจของข้าล้วนถูกท่านเหยียบย่ำจนแตกสลายหมดแล้ว”
“จะไปตายทางไหนก็ไป” ธัชชัยที่สวมสูทสีดำในเวลานี้ก็หายใจเย็นยะเยือกออกมาอย่างแรง เสื้อเชิ้ตที่รัดรูปของเขาทำให้เขามีปิดกั้นกลิ่นบางอย่างของเขาเอาไว้ได้
พอเขาเดินเข้ามา แววตาของหญิงสาวที่อยู่ในห้องรับรองก็พลันส่องแสงแวววาวขึ้นมา คนที่โสธรจะต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นนี้นอกจากคุณชายของตระกูลศรีทองคุณธัชชัยแล้ว ก็ยังมีลูกชายคนเดียวของตระกูลขวัญเมือง นายวิศาลอีกด้วย
คนนอกมองก็รู้ว่าความสัมพันธ์คนทั้งสามนี้ไม่มีทางเข้ากันได้ กลับคิดไม่ถึงว่าทั้งสามจะเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงอย่างนี้
เห็นได้ชัดเจนว่าธัชชัยท่านนี้ก็คือผู้นำของธุรกิจที่มีชื่อว่าเมืองเอสแห่งนี้
“เด็กๆ รีบเข้าไปปรนนิบัติท่านชัยของพวกหนูสิ” หลังจากที่โสธรพูดจบ หญิงสาวทั้งหมดของห้องรับรอง VIP ต่างก็วิ่งเข้ามาห้อมล้อมธัชชัยแต่น่าเสียดาย ยังไม่ได้แตะแม้แต่มือข้างเดียวก็ถูกสายตาที่ดุดันหยุดเอาไว้เสียก่อน ผู้ชายคนนี้ช่างเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆโสธรคือเจ้าของร้านที่อยู่เบื้องหลังRichbabyแห่งนี้ เรียกว่า “คุณชายธร” ที่วางตัวถูกได้ทุกสถานการณ์ ชายหนุ่มที่หน้าตาและรูปร่างสวยเหมือนกับหญิงสาวพอสมควร ราวกับเจ้าชายที่ดูอ่อนโยนเดินออกมาจากภาพวาดก็ไม่ปานเขายิ้มจนตาหยี ยิ้มจนเห็นฟัน เดินตรงไปยังธัชชัย “เป็นอะไรไปล่ะท่านชัย?” เมื่อก่อนนี้ก็ปล่อยให้เย้าแหย่ได้ หากไม่เล่นด้วยแล้วผมจะมีอะไรมาพูดกับท่านชัยล่ะ?”“มีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”ดวงตาของโสธรกพลับเบิกกว้าง “มีเรื่องอะไรจะปรึกษาเหรอ” พระพุทธรูปองค์นี้เปลี่ยนเป็นสุภาพเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ชินเลยแฮะพวกเธอสองคนออกไปซะ ธัชชัยพูดเพียงประโยคเดียว หญิงสาวสองคนนั้นก็รีบออกจากห้องไปไม่เห็นแม้แต่เงาโสธรร้องโหยหวยขึ้นมาด้วยความเสียดาย แล้วพูดว่า “ท่านชัยหากท่านไม่เล่นด้วยก็อย่าเพิ่งให้อีหนูของกระผมรีบออกไปสิ”“เจ้าของร้าน Richbaby ที่สง่าผ่าเผยยังกลัวจะไม่มีอีหนูอีกเหรอ ถ้าจะพูดให้ตรงไปตรงมาหน่อยก็คงจะเป็นมีปัญหาเมื่อไหร่ก็มาหานาย” ธัชชัยนั่งลงพร้อมกับพูดโสธรก็นั่งลงใกล้ๆ กับเขา หยิบแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดว่า “อย่างน้อยก็ดื่มเป็นเพื่อนผมสักแก้วเถอะ นี่เป็นเหล้าที่นำมาจากฝรั่งเศสเชียวนะ นี่ผมยังตัดใจไม่ได้ ดื่มไปสองคำก็ถูกคุณตามทันเสียแระ”ธัชชัยยื่นแขนที่ผิวขาวเนียนออกมาขวางไว้แล้วพูดว่า “วันอื่นเถอะ” และหยิบเอาภาพถ่ายใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกด้านซ้าย และยื่นให้โสธร“ธร ช่วยตรวจสืบเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ให้หน่อยสิ ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เบาะแสนี้สำคัญมาก”โสธรดื่มเหล้าของตัวเองจนหมด แต่ว่าท่าทางที่ดูจริงจังของธัชชัยนั้นมันสามารถทำให้ตายหรือไม่ก็บาดเจ็บได้ ทำให้เขาไม่กล้าล้อเล่นอีกรับรูปถ่ายใบนั้นมาดู เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแล้วถามว่า “นี่คือ… ไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยทำงานกับฉันเมื่อหลายปีก่อนเหรอ เสียงของเธอไม่เลวเลย แต่น่าเสียดายที่เธอยึดมั่นในคุณธรรม ขายความสามารถแต่ไม่ขายตัว”“คือเธอนั่นแหละ”พูดอย่างนี้ราวกับว่าพี่ชายนายพอใจใช่ปะ? ทำไม อยากจะช่วยให้พี่ชายของนายอยู่ในกำมือเหรอ? หรือว่ารสนิยมของตัวเองเปลี่ยนไปแล้วเหรอ?” โสธรนั่งด้วยท่าทางที่เหนื่อยหน่ายและขี้เกียจ พูดอย่างไม่สนใจใยดีธัชชัยรู้จักกับเขามาหลายปี ไม่ใช่ไม่รู้ว่าที่เขามีท่าทีที่ไม่สนใจใยดีเป็นแค่การแกล้งทำ ได้เพียงแต่พูดอย่างเรียบๆ ว่า “เป้าหมายคืออะไรนายไม่ต้องมาสนใจ หลายปีก่อนมีคนบอกว่าเธอตายแล้ว แต่ว่าเพิ่งจะได้ยินข่าวมาเร็วๆ นี้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องหาเธอให้เจอ”“นี่ นี่ นี่ เป้าหมายคืออะไรก็ไม่พูด ข้อมูลอะไรนายก็ไม่พูด นี่คือท่าทางการขอร้องของนายเหรอ นี่ออกจะแย่ไปหน่อยมั้ง? ฉันไม่ช่วยแกหาหรอก” หน้าตาที่จิ้มลิ้มราวผู้หญิงของโสธร มุมปากกลับยกยิ้มพร้อมกับพูด“นอกจากว่า….”“อะไร”“นายจะไปจับแม่นางน้อยเข้ามาเล่นสักคน”ธัชชัยนั่งนิ่งไม่ขยับ ผ่านไปนานมาก เสียงของโสธรผู้น่าเวทนาตะโกนเสียงดังจนเล็ดรอดออกจากห้อง VIP ออกไปว่า “ธัชชัยแกมันบ้าไปแล้ว ฉันทำให้แกก็ได้”ธัชชัยเมื่อจัดการธุระกับโสธรเรียบร้อยแล้วก็จะรีบกลับตระกูลศรีทองทันทีในเวลานี้ ณ ห้องรักษาตัววรพลนอนเอนกายอยู่บนเตียงผู้ป่วย วันนี้เขารู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ว่าหากเขาอยู่ต่อหน้าธัชชัยเขาจะต้องแสดงออกมาว่าเขาอาการดีขึ้นมากๆ กว่าที่เป็นอยู่“ธัชชัย อาการบาดเจ็บของนายดีขึ้นบ้างหรือยัง?” วรพลพูดด้วยความเหน็ดเหนื่อยว่า เมื่อกี้นี้เพิ่งจะถอดเครื่องช่วยหายใจ ก็เลยจะหายใจไม่สะดวกไปหน่อย“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” มาครั้งนี้ธัชชัยไม่นั่งลง ยังคงยืนพูดอยู่ข้างเตียงวรพล“อ่า” วรพลอุทานออกมาเบาๆ “ทำไมนายไม่บอกว่านายเป็นสามีของวัจสาล่ะ? เธอเข้าใจผิดมาตลอดว่าพี่น่ะเป็นสามีของเธอ”ธัชชัยที่เงียบไปครู่ใหญ่ ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด “ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่พี่จะไปรักษาตัวที่อเมริกาทำไมถึงไม่ยืดเวลาออกไปล่ะ?”“ธัชชัย ชีวิตคนเรามันไม่เหมือนกันหรอกนะ นายกับวัจสาควรจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ นายจะต้องจริงใจกับคนในครอบครัว พวกนายค่อยๆ ศึกษาซึ่งกันและกันดีที่สุด หลายปีก่อนวัจสาไม่ใช่เสียสละชีวิตเพื่อช่วยพี่เหรอ? นายรู้สึกไหมว่าเธอเป็นภรรยาที่ดี?”ธัชชัยรู้ดีว่าวรพลพูดแบบนี้เพื่ออะไร เขาย่อมต้องยอมรับเธอมาดูแล เรื่องนี้พี่ชายของเขาทำได้ดีมาก แต่ว่าเขามองข้ามปัญหานี้ไป“ที่พี่ไม่ยอมผ่าตัด เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้เหรอ?” ธัชชัยพูดขึ้น พร้อมหยิบกรอบรูปขึ้นมา ในภาพนี้มีผู้หญิงที่ยิ้มอย่างสดใสสวมชุดผ้าฝ้าย แต่ว่าธัชชัยกลับรู้สึกขัดหูขัดตาเป็นที่สุด เกลียดจนอยากจะทำให้มันตกแตกเสียจริง“เพราะผู้หญิงคนเดียวทำให้พี่ต้องละทิ้งน้องชาย ถ้าอย่างนั้นในตอนนั้นจะช่วยชีวิตผมไว้ทำไม? ไม่สู้ปล่อยให้ผมตายไปเลยจะไม่ดีกว่าเหรอ”วรพลกลัวว่าธัชชัยจะโกรธจนทำลายรูปใบนั้น นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่กนิษฐาทิ้งเอาไว้ให้ จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เก็บมันไว้กับตัวมาโดยตลอด“ธัชชัย นายฟังพี่พูดก่อน ไม่ใช่อย่างที่นายคิด พี่… พี่ใกล้จะไปจากโลกนี้เต็มทีแล้ว นี่เป็นเรื่องที่พวกเราต่างก็ไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ ร่างกายของพี่ พี่รู้ตัวเองดี”“หากไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่สามารถควบคุมมันได้?” ธัชชัยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไม่พอใจวรพลหลับตาลง “อย่าพูดเรื่องพี่อีกเลย นายกับวัสสาช่วงนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง? ได้ยินมาว่าเธอขวางรถบรรทุกอิฐเพื่อคุณจนได้รับบาดเจ็บแล้ว”“แล้วจะเป็นยังไงล่ะ พี่ควรจะรู้เอาไว้ซะว่าผมไม่ได้รักเธอ ไม่เคยชอบเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าหากพี่จากไป ไปยังอีกโลกหนึ่งแล้ว พี่ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าผมจะทรมานเธอ จะย่ำยีเธออย่างไร ให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น”“ธัชชัย!” วรพลเดือดพล่านจนพูดชื่อเต็มออกมา “ต่อไปอย่าพูดอะไรระยำแบบนี้อีก นั่นคือภรรยาของนายนะ”บนใบหน้าของธัชชัยเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้าหากว่าพี่ไม่อยากเป็นคนที่เลือกจุดจบให้กับผู้หญิง พี่ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ดูแลเธอให้ดี พี่ถึงจะถือได้ว่ารับผิดชอบเรื่องที่ตัวเองทำในตอนนั้น ”วรพลใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับเขา เขาย่อมใช้วิธีเดียวกันตอบกลับไปได้ เพียงแค่ต้องการให้พี่ชายร้องขอชีวิต เรื่องทั้งหมดย่อมไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว“ชัย สักวันหนึ่ง คำพูดที่นายพูดออกมาวันนี้ เรื่องที่ทำเอาไว้จะรู้สึกเสียใจภายหลังเอาได้นะ” คำพูดของวรพลในเวลานี้ไม่มีน้ำหนักอะไร แต่หากเวลาผ่านไป เมื่อธัชชัยคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็จะรู้เสียใจภายหลังเองเขาเองก็คิดไม่ถึง เรื่องราวมันจะพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้“ผมไม่เสียใจภายหลังหรอกนะ เรื่องที่ผมจะเสียใจภายหลังมีเพียงเรื่องเดียว ก็คือในตอนนั้นคนที่เปิดก่อนเรื่องนี้กลับไม่ใช่ผม ทำไมการเปลี่ยนในครั้งนี้ถึงต้องเป็นผม” ธัชชัยดวงตาแดงก่ำ ราวกำว่ากำลังจะบีบน้ำตาออกมาฝันร้ายของเหตุการณ์ในครั้งนี้น่ากลัวนัก ทำให้เขาในเวลานี้มีชีวิตที่ไม่สงบสุขเสียแล้ววรพลได้ยินคำพูดนั้นของเขาแล้ว ในใจเองก็ไม่ได้มีความสุขอะไร “ชัย… เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องที่นายกับฉันจะควบคุมมันได้”“พี่ชาย ผมอยากช่วยหัวใจของพี่ เหมือนกับพี่ เพราะฉะนั้นถ้าหากพี่ยังเห็นผมเป็นน้องชายอยู่ พี่ชายต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ไปรักษาตัวอยู่ที่อเมริกาตามที่ผมได้เตรียมการเอาไว้แล้ว”ธัชชัยพูดประโยคนี้เสร็จแล้วก็รีบจากไปทันทีวรพลไม่สามารถร้องไห้ออกมาได้ คุณหมอภาคินบอกเอาไว้ว่าการร้องไห้จะทำให้อาการแย่ลง แต่ว่าเขาได้ฟังประโยคของธัชชัยจบแล้ว ภายในใจก็ไม่ได้ที่จะร้องไห้ ทำไมตอนนั้นถึงไม่ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ตอนนี้เลยต้องมารับชะตากรรมที่โหดร้ายเช่นนี้อยากมีชีวิตอยู่ก็มีไม่ได้ อยากตายก็ตายไม่ได้ อยู่บนโลกนี้ต่อไปจะมีความหมายอะไร?ธัชชัยที่เดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องพยาบาลราวกับว่ากำลังสูญเสียจิตวิญญาณไป ค่อยๆ เดินไปยังห้องแต่งงาน การพูดกับพี่ชายในครั้งนี้ เกือบทำให้เขาสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด เขาเกือบจะพูดข่าวคราวที่กนิษฐายังมีชีวิตอยู่ไปแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะพูดอย่างไรกับพี่ชายเกี่ยวกับเรื่องความสุขที่ว่างเปล่านี้ อีกทั้งเป้าหมายของผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ชัดเจน หากให้โอกาสเธอเข้าใกล้พี่ใหญ่อีกรอบเกรงว่าคงจะไม่ถูกต้องธัชชัยในเวลานี้ อยากจะเห็นทิวทัศน์ของเรือนหออย่างละเอียด หลังจากนั้นก็กอดเธอเอาไว้ในความทรงจำและรับช่วงเวลาแห่งความสุข