เช่อเฟยเหล่มองชายรูปหล่อที่นั่งกอดอกหลับตาอยู่ข้างๆ ‘เพราะความหล่อเลยทำให้สาวๆมองข้ามเรื่องนิสัยไปสิ่นะ ‘
“มองอะไร ยัยเตี้ย” เขาพูดโดยที่ไม่ลืมตามองเธอ
“พี่ไม่ได้หลับอยู่เหรอ เอ๊ะ ยัยเตี้ย เหมือนเคยได้ยินคำนี้ที่ไหนนะ ” ท่าทางกำลังคิดของเช่อเฟยทำให้ เร่ออวี้หงุดหงิด
“ไปนั่งคิดไกลๆไป รำคาญ”
“ชั้นคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย ที่มาเป็นนางเอกเรื่องนี้เนี่ย”
“ขอถอนตัวแล้วก็กลับบ้านไปสิ่”
“แน๊ ยังจะไล่อีก ” เช่อเฟยมองอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วจะทำไม” เร่ออวี้หรี่ตามอง
“สงสารนางเอกคนก่อนๆที่เคยเล่นคู่กับพี่มาเน๊อะ ที่ต้องมาทนเล่นกับผู้ชายจอมหยิ่ง หน้าตาย นิสัยแย่แบบนี้”
“สงสารตัวเองก่อนเถอะ” เร่ออวี้พูดจบก็หันหน้าไปทางอื่น ปล่อยให้เช่อเฟยหุนหันอยู่คนเดียว
—-
เกาหลี : โรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดัง
ในห้องพักผู้ป่วย เซี่ยปินขว้างรีโมททีวีทิ้งลงพื้นอย่างโมโห หลังจากดูข่าวแถลงการเปลี่ยนตัวนางเอกของละครเรื่องล่าสุด ที่บทนางเอกควรจะเป็นของเธอ ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่โนเนมนั่น “แกจะโมโหไปทำไม กะอีแค่นักแสดงหน้าใหม่ เล่นไปจะเกิดหรือเปล่าก็ไม่รู้” ไป๋หลันที่ยืนปอกผลไม้อยู่ข้างเตียงบอกอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“แต่ทุกบทที่ได้เล่นคู่กับพี่อวี้ควรเป็นของชั้น”
“แล้วแกจะโทษใครได้ล่ะ ชั้นบอกแกตั้งแต่แรกแล้วว่า จมูกทรงนี้ไม่เหมาะกับแก แกก็ยังจะทำจนมันทะลุออกมา ต้องรีบบินมาแก้ถึงที่นี่ เสียทั้งเงิน เสียทั้งงาน แล้วชั้นยังต้องแบกหน้าไปโกหกประธานเฉินให้แก จนโดนด่าหูชามาเนี่ย ชั้นล่ะปวดหัว”
“ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะเป็นแบบเนี้ย แต่ทางช่องก็น่าจะรอชั้นกลับไปถ่าย ไม่คิดว่าจะรีบร้อนยัดใครเข้าไปถ่ายแทนแบบนี้”
“ก็กะจะปั้นดาราหน้าใหม่ล่ะสิ่ นี่ขนาดชั้นบอกไปว่าเกิดอุบัติเหตุ ประธานเฉินยังไม่ถามสักคำว่าแกเป็นยังไงบ้าง คอยดูนะ ถ้ายัยโนเนมนี่เล่นเรื่องนี้เกิดปังขึ้นมา แกก็เตรียมตกกระป๋องได้เลย” ไป๋หลันแหนบแนม
“พี่หลัน พี่เป็นผู้จัดการของชั้นหรือเปล่าเนี่ย ทำไมพูดงี้อ่ะ” เซี่ยปินพูดแกมประชด
“ชั้นพูดเรื่องจริงนี่”
“ชั้นไม่มีวันยอมให้ยัยนี่ขึ้นมาเทียบเสมอชั้นได้หรอก” ดาราสาวมองเช่อเฟยบนหน้าจอด้วยสายตาริษยา
—-
ปักกิ่ง – เวลา 3 ทุ่มตรง ผู้จัดการสาว เปิดเพ้นเฮ้าท์หรูให้เป็นสถานที่พักระหว่างถ่ายทำให้แก่นักแสดง “ทุกคนแยกย้ายเอาของเข้าไปเก็บไว้ในห้องก่อน แล้วอีกสิบนาทีเจอกัน
เช่อเฟยมองสถานที่พักที่ดูหรูหรานี่ก็รู้สึกว่านักแสดงที่นี่โชคดีจัง ถ้าไม่นับว่าต้องเจอกับพระเอกหน้าตายที่เดินผ่านหน้าทุกคนไปยังห้องที่ตัวเองเลือกเองอย่างไม่สนใจใครนี่
เช่อเฟยเองก็ไม่รอช้า รีบลากกระเป๋าไปยังห้องของตัวเองเช่นกัน
เมื่อเข้ามาในห้อง เช่อเฟยก็เปิดกระเป๋าออกเพื่อที่จะจัดของ ซิปกระเป๋าถูกเปิดออกพร้อมกับความประหลาดใจ เธอมองเสื้อผ้าผู้ชายในกระเป๋า “ทำไมมีเสื้อผ้าผู้ชายในกระเป๋าของชั้น หรือว่า ” เช่อเฟยพลิกกระเป๋าดู ก็พบชื่อของเจ้าของกระเป๋า เร่ออวี้ “นี่เป็นกระเป๋าของพี่อวี้ ถ้ายังนั้นกระเป๋าของชั้นก็ต้องอยู่กับพี่อวี้น่ะสิ่” เช่อเฟยรีบรูดซิปกระเป๋าและลากมันออกไปจากห้องทันที
ห้องตรงข้าม – เร่ออวี้ที่กำลังงุงงงกับบรรดาชุดชั้นในหลายสิบตัวที่แผ่หราอยู่ในกระเป๋า คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนเป็นปม
“พี่อวี้ !” เร่ออวี้หันไปมองเช่อเฟยที่วิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามา เธอรีบปิดกระเป๋าตรงหน้าเขาลงเพราะกลัวว่าเขาจะเห็นอะไรไปมากกว่านี้ “กระเป๋าพี่คือใบนี้ ส่วนนี้กระเป๋าชั้น”
“นอกจากจะขี้เมาแล้วยังชอบมั่วนิ่มหยิบของคนอื่นโดยไม่ดูให้ดีก่อนอีก” พ่อคนหน้าเย็นก็ร่ายใส่เช่อเฟยมาเป็นชุด จนเช่อเฟยต้องเท้าเอวจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องบ้าง
“ว่าชั้นไม่ดูตัวเองเลยนะพ่อพระเอก พี่ก็ลากกระเป๋าของชั้นไปโดยที่ไม่ดูเหมือนกันไม่ใช่เหรอห๊ะ”
“หึ เด็กน้อย”
“พี่ว่าใครเด็กน้อย” เช่อเฟยมองที่กระเป๋าตัวเองที่มีแต่ชุดชั้นในลายน่ารักเหมือนเด็ก ตนเองก็ถึงกับหน้าแดงไปเลยทีเดียว
เร่ออวี้ยิ้มมุมปากที่เห็นท่าทีของเช่อเฟย
“แหม ไม่คิดเลยนะว่าพระเอกที่แสนเย็นชาและโด่งดัง เบื้องหลังจะโรคจิตชอบแอบดูชุดชั้นในผู้หญิง นี่เผลอเอาไปซ่อนไว้บ้างหรือเปล่าเนี่ยห๊ะ” เช่อเฟยแกล้งแหนบชายหนุ่มตรงหน้า จนโดนกระชากลงไปนอนบนเตียงใต้ร่างของเขา “เธออยากรู้ไหมล่ะ ว่าชั้นโรคจิตขนาดไหน” เช่อเฟยมองดวงตาที่เหมือนเสือร้ายแสนยั่วยวนของเขา สาวเจ้าก็ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว
“พี่จะทำอะไรน่ะ” ปากบางค่อยๆพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“เธอบอกว่าชั้นโรคจิต ชั้นก็จะพิสูจน์ให้เธอดู ว่าชั้นโรคจิตหรือเปล่า”
“ชั้นแค่พูดเล่นน่ะ”
“เธอพูดว่าอะไร ชั้นไม่ค่อยได้ยิน” เร่ออวี้เอาหูไปใกล้ปาก จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเธอ เช่อเฟยได้กลิ่นหอมของตัวเขาแล้วความทรงจำในวันนั้นก็เริ่มกลับมา
“พี่อวี้ เราสองคนเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” เร่ออวี้เงยหน้าขึ้นมามองเช่อเฟย หญิงสาวขี้เมาที่ขโมยจูบเขาไปในวันนั้น
ระหว่างที่กำลังสบตากันอยู่นั้น ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา “พี่อวี้ อุ๊บ ! ” เฉิงเซียวเห็นทั้งคู่กำลังอยู่บนเตียงโดยที่เช่อเฟยอยู่ด้านล่าง และเร่ออวี้ทับอยู่ด้านบน ผู้จัดการสาวก็รีบเอามือปิดปากแน่นเพราะกลัวจะกรี๊ดออกมา
เร่ออวี้รีบลุกออกจากเช่อเฟยและจัดเสื้อผ้าที่ยับเล็กน้อย เฉิงเซียวมองทั้งคู่สสับกันไปมาอย่างคิดไม่ถึงว่านอกจอ เร่ออวี้จะมีมุมแบบนี้ “เอ่อ นี่ทั้งคู่ซ้อมบทกันอยู่เหรอคะ” เฉิงเซียวแกล้งพูดแซว
“พี่เซียว ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ” เช่อเฟยรีบอธิบาย
“ช่างเถอะ ๆ เห็นพวกเธอสนิทกันก็ดีแล้ว ชั้นมาตามพวกเธอลงไปต่อบทให้ผู้กำกับดูน่ะ เฟยเฟย เริ่มจำบทได้มั่งหรือยัง”
“พอได้บ้างแล้วค่ะ”
“ส่วนเรื่องอารมณ์ตามบทก็ค่อยๆเรียนรู้ตามที่ผู้กำกับบอกแล้วกันนะ จะได้ไม่เสียเวลา”
MANGA DISCUSSION