รักลับๆของซุปเปอร์สตาร์ - ตอนที่ 9 คืนแรกในปักกิ่ง
เช่อเฟยและเร่ออวี้กำลังเตรียมจะต่อบทกัน เฉิงเซียวที่ยืนมองบทอยู่ก็พูดขึ้น “ขอเวลาสักครู่นะคะ ชั้นบอกให้แก้บทไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ”
“การแก้บทต้องใช้เวลาถึงสองอาทิตย์เพื่อรื้อบทใหม่ทั้งหมดนะครับ นี่ผ่านมาแค่สองวัน คุณก็เร่งให้มาถ่ายทำแล้ว คุณว่าจะแก้ทันได้ยังไง ”
“พวกคุณก็ได้ยินพี่อวี้พูดแล้วไม่ใช่เหรอคะ หรืออยากให้เปลี่ยนพระเอกอีกคน”
ระหว่างที่เฉิงเซียวกับผู้กำกับกำลังเถียงเรื่องบทกันอยู่นั้น เร่ออวี้ก็พูดขึ้น
“พี่เซียว เอาบทตามนี้แหละ ผมไม่อยากเสียเวลา” หลังจากพูดจบทุกคนก็หันมามองพระเอกหนุ่มเป็นตาเดียว เขาเป็นคนที่คัดค้านบทในวันนั้น แต่วันนี้เขายอมจะเล่นบทนี้ ซึ่งมันทำให้ผู้กำกับยิ้มออกมา
“มาๆ ลองต่อบทกันดูนะ 3 2 1 เริ่ม ”
“เฟยเฟย สู้ๆนะ ” เฉิงเซียวให้กำลังใจและเดินไปยืนข้างๆผู้กำกับ
เช่อเฟยที่ใจเต้นตุบตับๆ เพราะตื่นเต้น และเขินอายกับสายตาผู้คนนับสิบที่จับจ้องมา ทำให้เธอลืมบท และไม่มีความเป็นธรรมชาติ จนผู้กำกับเริ่มหงุดหงิด “คุณผู้จัดการ ผมว่า นางเอกคนนี้ไม่รอดหรอก เรียนแอคติ้งก็ไม่เคยเรียน บทก็จำไม่ได้สักตัว นี่จะสองชั่วโมงแค่บทยังจำไม่ได้ ตัวก็แข็งทื่อ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ ผมว่าส่งเธอไปเซ็ทฉากหรือตัวประกอบดีกว่า ส่วนนากเอกก็รอ ปินปิน กลับมาดีกว่า” ผู้กำกับเริ่มวีน เฉิงเซียวจึงรีบออกหน้าแทน
“เธอพึ่งมาคงตื่นเต้นน่ะ งั้นก็ให้เธอไปพักผ่อนทำสมาธิก่อน วันพรุ่งนี้อาจจะดีขึ้น ”
ผู้กำกับถอนหายใจออกมาและเดินออกไปอย่างหุนหัน เฉิงเซียวตบไหล่เช่อเฟยเบาๆเพื่อให้กำลังใจและเดินไป เร่ออวี้ยืนกอดอกมองเช่อเฟยที่ยืนหน้าเศร้าอยู่ตรงนั้น
“คนที่ไม่เคยเรียนการแสดงมามีโอกาสน้อยมากที่จะเล่นละครได้ ทั้งอินเนอร์ และแอคติ้ง คือองค์ประกอบหลักของการแสดง ไม่ใช่แค่จำบทได้แล้วจะแสดงออกมาได้ แต่เธอต้องทำความเข้าใจในตัวละครนั้น และดึงความรู้สึกของมันออกมาให้ได้ คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อย่างเธอ ชั้นว่า ถอนตัวตอนนี้ก็ยังทัน กลับไปตั้งใจเรียนแอคติ้งแล้วค่อยกลับมาใหม่ จะได้ไม่โดนดุจนเป็นหมาหงอยแบบนี้” นี่เขาพูดให้กำลังใจหรือว่าซ้ำเติมเธอกันแน่
“ถึงจะมีโอกาสน้อย หรือต่อให้ไม่มีเลย ถ้าไม่ลองดูจะดูได้ไง คำดูถูก คำด่า ชั้นฟังมาจนชินแล้ว ชั้นไม่ได้มาเพื่อยอมแพ้ ” เช่อเฟยถือบทไปนั่งอ่านคนเดียวตรงเก้าอี้นอกบ้าน เร่ออวี้มองใบหน้าที่มุ่งมั่นของคนตัวเล็กแล้วรู้สึกชอบใจ ‘ใจสู้ดีนี่’
—
สนามบินปักกิ่ง — ฉินเค่อ พระเอกหนุ่มที่กลับมาจากถ่ายละครที่ต่างประเทศ และเดินตรงมายัง หว่านเจียง ผู้จัดการส่วนตัวที่มารอรับ “ขนาดดึกแล้ว แฟนคลับยังมารอกันแน่นเลยนะ ฮอตไม่แผ่วจริงๆ สมแล้วที่เป็นพระเอกดัง ผู้ไม่เคยมีข่าวเสียหาย ” ผู้จัดการหนุ่มยกยอพระเอกของตัวเอง
“พี่เจียงก็ชมเกินไป ”
“เออนี่ รู้เรื่องนี้หรือยัง”
” อะไรเหรอครับ” ฉินเค่อ ถามอย่างสงสัย
“ก็พระนางละครเรื่องใหม่ของช่องคู่แข่งเราน่ะสิ่”
“พระเอกก็คงจะเป็น เร่ออวี้ และนางเอกก็คงจะเป็น ปินปิน อีกล่ะสิ่”
“พระเอกน่ะใช่ แต่นางเอกไม่ใช่”
“หืม ช่องนั้นมีนางเอกคนไหนอีก”
“เป็นนางเอกใหม่ เห็นว่าชื่อ เช่อเฟย อะไรนี่แหละ” ชื่อที่หว่านเจียงพูดออกมา ทำให้ ฉินเค่อก็รู้สึกเอะใจ
” เช่อเฟย งั้นเหรอ ” เขาทวนชื่อออกมาเพราะคิดว่าอาจจะได้ยินผิดไป
“ใช่ เห็นทางช่องประกาศออกมา แต่ยังไม่รู้ว่าผลงานการแสดงจะออกมาปังหรือแปกนะ” หว่านเจียงยืนยันว่าเขาพูดถูกต้อง
“หวังว่าคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกนะ” ฉินเค่อ ภาวนาให้เป็นคนที่ชื่อคล้ายกัน
“นายว่าอะไรนะ ?”
“อ๋อ เปล่า ๆ ผมเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อน พรุ่งนี้มีงานโฆษณาอีกใช่ไหม”
“อ๋อ ใช่ๆ งั้นรีบกลับกันเถอะ” หว่านเจียงรีบพาพระเอกหนุ่มขึ้นรถและขับออกไปทันที โดยที่ ฉินเค่อ รู้สึกไม่สบายใจไปตลอดทาง ‘เช่อเฟยที่พี่เจียงพูดถึงจะเป็นเธอหรือเปล่านะ’ ฉินเค่อ นึกย้อนไปถึงวันที่เขาบอกเลิก เช่อเฟย คนที่เขารักมากที่สุด เวลา 4 ปี ที่คบกันมา ต้องจบลง เพราะหน้าที่การงานที่ปฏิเสธไม่ลงตลอดเวลาที่คบกัน เขาไม่เคยล่วงเกินเพราะให้เกียรติหญิงสาวที่จะเป็นเจ้าสาวในอนาคต แต่หน้าที่การงานที่กำลังไปได้ด้วยดี ทำให้เขาโดนทางผู้ใหญ่บีบบังคับให้ต้องเลิกกับเธอ วันนั้นเขานัดเธอมาที่สวนสาธารณะที่เจอกันครั้งแรก และครั้งสุดท้ายที่จะได้มาเจอกับเธอ ตอนนั้นเขากลั้นน้ำตากลั้นความรู้สึกไว้ เขามองหน้าเธอ และพยายามแสดงใบหน้าออกมาว่าไม่มีความรู้สึกอะไรเหลืออยู่ และบอกเลิกเธออย่างไร้เยื่อใย หลังจากที่พูดจบเขาก็รีบหันหลังให้เธอ น้ำตาที่กลั้นไว้ก็ค่อยๆไหลลงมา เขาสัมผัสได้ว่าเธอเสียใจ แต่เขาทำให้เธอรู้ไม่ได้ว่าเขาก็เสียใจเช่นกัน ทุกครั้งที่ต้องตอบคำถามเรื่องความรัก ใจของเขาก็เจ็บปวดทุกครั้ง แม้จะเลิกกันหลายเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังรักเธอ ถ้าตอนนั้นเขาเลือกเธอ ทุกวันนี้ก็คงไม่เจ็บปวดเวลาที่ต้องคิดถึงเธอแบบนี้ ฉินเค่อคิดถึงเรื่องราวในวันเก่าๆ แล้วก็รู้สึกเสียใจ เมื่อก่อน ออกไปไหนก็ต้องปิดบังตัวตน เดินจับมือกับเธอพอเจอแฟนคลับก็ต้องรีบเอามือออก และเธอก็จะน้อยใจ กลับบ้านมาเธอก็จะงอน แต่เมื่อเขาทำ ชีสเค้กให้กิน เธอก็จะหายงอน รอยยิ้มสดใสในวันนั้นเขาลืมไม่ลงจริงๆ