“แค่กๆๆ” ระหว่างรอเข้าฉากเช่อเฟยนั่งอ่านบทพร้อมกับไออย่างหนัก สักพัก ก็มีขวดยายื่นมาตรงหน้า เธอเงยหน้าขึ้น เมื่อพบว่าเป็นเสี่ยวจาง ดวงตาของเธอจึงหม่นลงเล็กน้อย เธอยิ้มขอบคุณตามมารยาทและรับยามาถือไว้พร้อมกับความเศร้าในใจ
เมื่อดวงตาของเธอเหลือบขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้มันไปโฟกัสตรงด้านหลังของเสี่ยวจาง นั่นก็คือเร่ออวี้ที่กำลังเดินห่างออกไป เธอมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา และจึงย้ายมามองขวดยาที่อยู่ในมือ ‘ชั้นไม่ได้เข้าใจผิดไปใช่ไหม พี่ยังไม่ไปจากชั้นจริงๆใช่ไหม’
เช่อเฟยและเซี่ยปินเข้าฉากด้วยกันต่อ จังหวะนั้น ทีมงานก็หันไปมอง เจี่ยฉิน และลูกน้องอีกสองคนที่เดินเข้ามา
“บอสเข้ามาดูงานเองเหรอครับ” ผู้กำกับถามขึ้น
“ตามสบายๆ ผมว่างเลยแวะมาดูน่ะ” เจี่ยฉินบอกทุกคนพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดที่เช่อเฟยซึ่งเป็นจังหวะที่เธอหันมาพอดี เจี่ยฉิน รู้สึกอึ้งกับความสวยธรรมชาติของเช่อเฟย ขนาดยืนเทียบกับเซี่ยปินนางเอกอันดับหนึ่งแล้ว ความสวยเธอยังกินขาดขนาดนี้
“เฮ้ยๆ มันมาจริงๆด้วยว่ะ” มู่หยางพูดขึ้นพร้อมสะกิดบอกเพื่อนๆ
“แล้วดูท่า จะถูกใจนางเอกใหม่สะด้วยสิ่ จ้องตาไม่กระพริบขนาดนั้น” อาเล่ยเสริม
เสี่ยวจางหันไปมองเร่ออวี้ที่จ้องเจี่ยฉินอย่างเอาเป็นเอาตาย
เจี่ยฉินละสายตาจากเช่อเฟยและมองมาที่
เร่ออวี้พร้อมยิ้มอย่างท้าทาย
เสี่ยวจางจับไหล่เร่ออวี้ไว้ นิ้วทั้งห้าของเขากำแน่นจนซีด
เขาละสายตาจากเร่ออวี้และเดินเข้าไปหาเช่อเฟยโดยไม่สนใจเร่ออวี้ที่กำลังจ้องมองอยู่ เจี่ยฉินเห็นแบบนี้ก็รู้สนุก
“สวัสดีครับ” เขาทักทายเธอพร้อมรอยยิ้ม
เช่อเฟยเงยหน้าและรีบลุกขึ้นยืน “สวัสดีค่ะ คุณ ? ”
“เจี่ยฉินครับ”
“อ๋อ ค่ะ”
“เห็นข่าวของคุณมานาน พอมาเจอการทำงานจริงๆแล้ว ผมไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมคุณถึงได้โด่งดังไวขนาดนี้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าผมไม่ได้มาเห็นกับตานี่คงต้องคิดว่ามีคนหนุนหลังคุณแน่ๆเลย”
“คะ ?”
“ผมล้อเล่นน่ะ ว่าแต่เสร็จงานแล้ว ไปทานข้าวกันไหมครับ”
“เอ่อ ”
“เฟยเฟย ได้เวลาเข้าฉากแล้ว” ฉินเค่อเดินมาตามเธอถูกเวลาพอดี “รู้แล้วๆ ขอตัวก่อนนะคะ” เช่อเฟยรีบออกมาจากตรงนี้ทันที
ฉินเค่อมองเจี่ยฉินแวบหนึ่งก่อนจะเดินไป
เจี่ยฉินนั่งดูเช่อเฟยเข้าฉากกับฉินเค่อ
“ผมว่า ฉากนี้ดูไม่ค่อยอิน ลองเปลี่ยนเป็นจูบจริงดู คนดูน่าจะเข้าถึงอารมณ์มากกว่านี้”
เจี่ยฉินพูดขึ้นเร่ออวี้ที่กำลังอ่านบทอยู่ได้ยินก็เผลอกำบทจนยับ
“อ่อ คัต ๆ อืม ถ้างั้น ฉากนี้ถ่ายใหม่ เปลี่ยนเป็นจูบจริง”
“ห๊ะ !” เช่อเฟยและฉินเค่อพูดพร้อมกันด้วยปฏิกิริยาต่างกัน
“บทพูดอะไรดีแล้ว แต่ตอนจูบ ขอเป็นจูบจริง 5 4 3 2 1 เริ่ม ”
เช่อเฟยรู้สึกอยากวิ่งออกไปจากตรงนี้ เธอมองฉินเค่อที่ดูจะอารมณ์ดีจนออกนอกหน้า
‘การแสดง มันคืองาน มันคืองาน’ เธอต้องสะกดจิตตัวเอง จังหวะที่ฉินเค่อกำลังยื่นหน้าเข้ามา เร่ออวี้ก็ผลักมู่หยางที่กำลังกินถั่วอยู่ออกมาหน้าฉากอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“คัต!” ผู้กำกับมองมู่หยางที่ทำหน้าตาเหลอหลาอยู่หน้ากล้อง
“ทีมงานปล่อยให้คนนอกเข้ามาในฉากได้ยังไง ไม่เห็นเหรอว่าเขากำลังถ่ายทำกันอยู่”
“เอ่อคือ พอดีสะดุด ” มู่หยางเกาหัวอย่างงงๆแต่ก็คิดคำพูดได้ทัน
“สะดุด ?” ผู้กำกับย้ำ
“เออใช่ คนเราจะเดินสะดุดไม่ได้หรือไง” มู่หยางตอบและเดินออกมา “คราวหน้าก็กระซิบบอกกันก่อนนะเว้ย หน้าเกือบทิ่มแล้วไหมล่ะ” เขากระซิบบอกเร่ออวี้
“หึ่ พอลองดูแล้ว ผมว่าแบบเดิมน่าจะดีกว่า” เจี่ยฉินพูด จากเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมาตอนนี้เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่า เร่ออวี้ต้องมีใจให้เช่อเฟยแน่ๆ
“อ่อ ถ้างั้น เอาแบบเดิม ” พอผู้กำกับพูดแบบนี้ เช่อเฟยจึงยิ้มออดมาอย่างโล่งอก ส่วนฉินเค่อก็หน้านิ่วไปทันที
การถ่ายทำก็ผ่านไปได้ด้วยดีอีกหนึ่งวัน
“เพื่อนรัก เธอหายไปนานเลยนะ ” เช่อเฟย คอลหาเพื่อนรักทันทีที่เข้ามาในห้อง
‘พอดีชั้นมาดูงานที่อิตาลี่น่ะ งานชั้นยุ่งมากกกกก เลยไม่ได้ติดต่อเธอเลย ‘
“เหรอออออ ยุ่งขนาดที่ถุงช็อปปิ้งเต็มมือขนาดนั้นเลยเหรอห๊ะ”
‘แหม ว่างนิดหน่อยน่ะ ว่าแต่เธอเป็นยังไงบ้าง’
“ชั้นเริ่มไม่ค่อยชอบงานแบบนี้แล้วอ่ะ มันดูไม่ใช่ตัวตนของชั้น ทุกวันชั้นต้องปั้นหน้าเล่นละคร ท่องบท ทำอารมณ์ และอีกอย่างนะ ตอนนี้ต้องคอยหลบอีตาบอสชีกอเจ้าของช่องนั่นอีก ชั้นเบื่ออออ”
‘ตอนที่เธอเลิกกับฉินเค่อ ชั้นก็นึกว่าเธอจะเกลียดวงการบันเทิงไปแล้วซะอีก ไม่คิดว่าจะเข้ามาทำ’
“ก็เกลียดแหละ แต่ก็ดึงดันอยากลองเข้ามาดูไง พอตอนนี้ ชั้นอยากจะวิ่งหนีออกไป แล้วไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ทำงานในอบบที่ชั้นรักจริงๆน่ะ อยากไปเที่ยวกับเธอจัง คิดถึงเมื่อก่อน เห้ออออ”
‘ในเมื่อเลือกแล้วก็ทนเอานะคะ เออ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ชั้นมีประชุมต่อ บายยย’
เช่อเฟยวางมือถือไว้ข้างๆ และทิ้งตัวนอนพร้อมกับความรู้สึกเบื่อหน่าย
“ชั้นว่านะ แกกลับไปคืนดีกับเธอเถอะ ในเมื่อรักกัน แต่ทำไมถึงต้องเล่นตัวด้วยวะ จะรอให้ไอ้บอสนั่น หรือ คนอื่น คาบไปกินก่อนหรือไง ” อาเล่ยเอ่ย
“นั่นดิ่ ทั้งคอยตามดู ตามห่วง ตามจัดการคนที่คิดไม่ดีกับเธอ ในสนามบินก็ให้เสี่ยวจางไปกันท่าให้ ตอนตกน้ำก็ให้เสี่ยวจางลงไปช่วย แม้แต่ยาแก้ไข้ที่แกอุตส่าห์ขับรถไปซื้อถึงนอกเมือง เพื่อให้เสี่ยวจางเอาไปให้เธอเนี่ยนะ แกจะทำอะไรที่มันสวนทางกับความรู้สึกไปเพื่ออะไรวะ สุดท้ายก็มานั่งเมา นั่งเศร้า นั่งซึม อยู่แบบนี้ แทนที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข ” อู๋ซินเสริม
เร่ออวี้ไม่ตอบและดื่มเหล้าต่อ เพื่อนๆก็ได้แต่ส่ายหัว และดื่มกันต่อ
MANGA DISCUSSION