'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 33 เยี่ยหลานซาน เธอบีบบังคับฉันเองนะ!
รอยยิ้มที่รักษาไว้บนใบหน้าต่อแขกไม่สามารถรักษาไว้ได้อีกต่อไป เลยเอ่ยพูอย่างตรงไปตรงมาว่า : "ตอนนี้ดารายอดนิยมสองคนตกสู่จุดต่ำสุดของอาชีพเพราะเหตุการณ์นี้ แถมทำให้หุ้นบริษัทซิ่งกวงมีความผันผวนอย่างมากและในเวลาเพียงสองวันทำให้พวกเขาสูญเสียไปมากกว่า 100 ล้าน! "
เธอปวดใจมาก!
หากซินซินสามารถแต่งงานกับเฉียวเฟยฝานได้สำเร็จทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลเฉียวจะตกเป็นของซินซิน! ปัจจุบันตระกูลเฉียวกำลังสูญเสียเงินซึ่งหมายถึงการเอาเงินจากกระเป๋าของเธอหายไปด้วย!
ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นและยากที่สามารถแสดงละครต่อไปอีก สายที่มองมายังเยี่ยหลานซานเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
อย่างไรก็ตามการแสดงละครยังคงต้องดำเนินต่อไป
เธอระงับความแค้นไว้ในใจและพูดต่อ: "ฉันหมายถึง …หลานซาน ลูกเป็นเด็กดีและแม่เชื่อว่าลูกไม่ได้ทำสิ่งนี้ แต่คนอื่น ๆเขาไม่เชื่อ พวกเขาทั้งหมดคิดว่านี่เป็นการแก้แค้นของลูกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ "
"หนูไม่แคร์ความคิดเห็นของคนอื่น"
"เธอ……"
เยี่ยหลานซานทําท่าเหมือนคนดื้อรั้น นั่นทําให้เยี่ยอีเหรินไม่อาจพูดจาอ้อมค้อมได้อีกต่อไป
เธอกระแอมในลำคอและอธิบายถึงเจตนาที่แท้จริงของเธอ: "ไม่ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเธอหรือไม่ แต่เธอควรจะเป็นคนที่ยุติเรื่องนี้ซะ!"
เยี่ยหลานซานจ้องไปที่เธอ: "แล้วยังไง"
เยี่ยอีเหริน: "หากว่าเธอเต็มใจที่จะออกมายอมรับว่าเรื่องอื้อฉาวระหว่างโม่เข่อซินและอู๋เทาเป็นเรื่องจริง ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ฉันจะให้เธอทุกอย่าง!"
“……”
แล้วเยี่ยหลานซานไม่ได้พูดอะไรออกมาและมองเธอไปตรงๆ
การมองในดวงตาของเธอนั้นซับซ้อนมาก
เยี่ยอีเหรินรู้สึกราวกับว่าเธอถูกงูจ้องมอง เธอรู้สึกหดหู่เล็กน้อยและขมวดคิ้ว เพื่อทําลายความเงียบแปลก ๆ นี้เธอจึงเอ่ยออกไป: "เธอจะไม่ตกลง?"
"ไม่!"
เยี่ยหลานซานพูดอย่างเฉยเมยและเด็ดเดี่ยว
ท่าทีของเธอทำให้เยี่ยอีเหรินและเกาซินซินหน้าชา
เกาซินซินไม่ได้นิ่งเฉยอีกต่อไป เธอพูดอย่างร้อนรน: "เธอจะไม่คิดหน่อยเลยหรือไง?"
"ไม่จำเป็น"
เยี่ยหลานซานกล่าวพร้อมกับยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ
เธอไม่จําเป็นต้องอยู่ต่ออีกแล้ว แค่เพียงวินาทีเดียวก็ทำให้เธอก็รู้สึกเหนื่อยใจเกินพอแล้ว
เกาซินซินหยุดเธอและไม่คิดว่าทำไมเธอถึงดื้อขนาดนี้: "รถหรู บ้านหลังใหญ่ หรืออาชีพการแสดงที่คุณต้องการ หากเธอต้องการ เราจะพยายามหามาให้เธอ! หรือแม้แต่คำพูดไม่กี่คำต่อหน้านักข่าวที่ใช้เวลาไม่ถึงนาทีโดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อเธอแน่นอน แถมเธอยังสามารถใช้โอกาสนี้ทำให้โด่งดังได้อีกด้วย! "
เยี่ยอีเหรินยังกล่าวอีกว่า: "หลานซาน นี่มันดีที่สุดแล้ว! เธอเข้ามาที่เมืองตี้ตูมือเปล่าและไม่มีอะไรเลยแถมยังไม่ต้องกลัวที่จะเสียอะไรไปอีกด้วย นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเธอเลยนะ ไม่งั้นเธอก็ต้องอยู่คนเดียวและต้องการตั้งหลักเองในเมืองตี้ตู แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป? "
"ทำยังไงต่อไปงั้นหรอ?"
เยี่ยหลานซานหัวเราะ
เมื่อมองย้อนกลับไป เธอมองไปที่สองแม่ลูกที่กำลังพยายามโน้มน้าวใจเธอ
ทั้งสองคนมีใบหน้าที่เหมือนกันทุกประการ ตอนนี้มันช่างน่าเกลียดเสียเหลือเกิน
เธอมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคนเหล่านี้จริงหรอ?
ด้วยความหนาวเย็นในใจของเธอ เธอเอ่ยออกไปอย่างว่างเปล่า: "ฉันจะทำตามใจของฉันเท่านั้น"
เยี่ยอีเหริน: "… "
เกาซินซิน: "… "
ในพลังบวกของเยี่ยหลานซาน ทำให้คนทั้งสองคนตรงหน้าแข็งทื่อ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่แปลกประหลาดของทั้งสอง เยี่ยหลานซานก็หัวเราะเยาะและเดินผ่านเกาซินซินที่ขวางเธออยู่แล้วออกไป
"เดี๋ยว!"
เสียงร้อนรนตามหลังมา: "เธอแน่ใจหรือว่าต้องการปฏิเสธข้อเสนอนี้!"
ยอมให้เยี่ยหลานซานเจ้าเด็กป่านี่ก้าวกลับเข้ามาสู่ตระกูลเกาอีกครั้ง เกาซินซินถือว่าทําบุญใหญ่ขนาดนี้ เสียสละขนาดนี้ แต่ก็ไม่สำเร็จ…
เธอโกรธมาก!
เยี่ยหลานซาน: "… "
น้องสาวเธอเป็นคนโง่หรือไง? เธอพูดชัดเจนแล้วยังจะต้องถามอีกหรอ?
ยังไงซะในเมื่อเธอกลัวที่จะถาม เยี่ยหลานซานก็กล้าที่จะตอบ: "ไม่เลวเลย แต่เส้นทางมันต่างกัน ไม่เหมือนกัน"
หลังจากพูดจบมีก็บางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ
เธอหัวเราะออกมาอย่างตรงไปตรงมา "เกิดเรื่องขึ้นกับอู๋เทาและโม่เข่อซิน บริษัทซิ่งกวงก็ตกอันดับจากอันดันหนึ่งในสองทันที แถมยังให้ตำแน่งนางเอกใหม่กับเธอ? เธอไม่ดีใจหรือยังไงที่จะได้กลับไปเล่นละคร เธอไม่กลัวที่จะเสียผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วให้ฉันช่วยล้างมณฑิลให้เนี่ยนะ?"
เธอยิ้มสดใสและสดใส: "เกาซินซิน นี่มันไม่ใช่เธอเลยนะ!"
รอยยิ้มของเธอดูแดกดันมาก
เกาซินซินขมวดคิ้วและโต้กลับออกไปโดยไม่รู้ตัว: "ฉันไม่สามารถทนดูรุ่นพี่ถูกทำลายได้!"
"โอ้? ไม่ใช่เพราะความกดดันของบริษัทซิ่งกวงหรือตระกูลเฉียวหรอกหรอ? "
“……”
ดวงตาของเกาซินซินหุบลงโดยไม่รู้ตัวและทำให้เยี่ยหลานซานเข้าใจทุกอย่าง
รู้แล้ว!
ไม่อย่างนั้นเกาซินซินจะช่วยโม่เข่อซินและอู๋เทาด้วยตัวเองหรอกหรอ? เธอเกือบจะปรบมือให้ไม่ทัน!
พูดเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฉียวเฟยฝานไม่ได้มั่นคงขนาดนี้
“จัดการเอาเองแล้วกัน”
เธอไม่รู้จริงๆว่าจะเห็นใจเธอหรือจะตอบโต้ด้วยความดีใจ
เดินออกจากตระกูลเกาไปโดยทิ้งคำพูดไว้เพียงหกคำ
ทันทีที่เธอเดินออกไปเกาซินซินก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ เธอจับแขนของเยี่ยอีเหรินเพื่อขอความช่วยเหลือ: "แม่ ฉันจะทำยังไงดี? เธอไม่เห็นด้วยที่จะออกมาชี้แจง เช่นนั้น…พี่เฉียวและฉันกำลังจะถูกแยกออกจากกัน! ฉันก็จะไม่ได้เป็นหนึ่งในครอบครัวเฉียว! ”
เยี่ยอีเหรินขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว: "ขอแม่เวลาคิดหน่อยเถอะนะ"
ฉันจะต้องทำยังไงเพื่อให้เยี่ยหลานซานออกมายอมรับได้! !
เธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยและไม่มีความอยากอาหารที่จะกินอะไรอีกต่อไปเธอออกไปที่ระเบียงเผื่อรับลม
ในห้องอาหาร เกาซินซินกำลังยืนกำหมัดแน่น
ใบหน้างดงามที่เปลี่ยนสีเหมือนจานสีไปเรื่อยๆ
ชีวิตที่ร่ำรวยของเธอ เฉียวเฟยฟานและความรักที่หลายคนต่างอิจฉา เธอไม่สามารถเสียทั้งหมดนี้ไปได้!
"เยี่ยหลานซาน!"
เธอกัดฟันกัดฟันก้มหน้าเอ่ยชื่อเธอสามคำ ในใจของเธอนั้นหลังจากที่คํานวณออกมาแล้ว สีหน้าทั้งหมดก็จางหายไป ใบหน้างดงามราวกับดอกไม้ดูโหดร้าย "นี่เธอกำลังบีบบังคับฉันเองนะ!"
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและกดโทรหาตัวแทนของเธอหวังฉางอิง: "น้องหวัง เยี่ยหลานซานเพิ่งออกจากบ้านของฉันไป จัดการให้หน่อย… อ้อ แล้วอย่าลืมนะ อย่าให้ใครจับได้…. "
…………
เยี่ยหลานซานดูเหมือนจะเดินจากไปอย่างใจเย็น แต่ในใจของเธอก็ยังแอบห่วง
แม่แท้ๆ หลอกใช้เธอด้วยความรักของเธอ เธอจะทําเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร?
หัวใจของเธอหงุดหงิดและเจ็บปวด
อยากจะออกไปเมากับอวิ๋นซี แต่ก็นึกได้ว่าต้องกลับไปดูแลกงเส่าถิง
ไม่ว่ายังไงฉืออวี้เฟิงก็ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ที่วานให้เขาดูแลกงเส่าถิง เยี่ยหลานซานไม่ค่อยวางใจจริงๆ
"อ่า…."
เธอถอนหายใจ
เธอยกมือขึ้นและโบกรถแท็กซี่ที่แล้วเข้าไปในรถ เธอแบกหัวใจดวงน้อยที่เบื่อหน่ายและพูดกับคนขับว่า: "โกลเด้นพาเลซ"
ขณะที่รถขับไปเยี่ยหลานซานก็ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง นิ้วจิ้มที่หน้าต่างดวงตาของเธอหมองลงเล็กน้อย
คนขับรถดูเป็นคนที่ค่อนข้างกระตือรือร้นมาก เมื่อเขาเห็นเธออารมณ์ไม่ดีจากกระจกมองหลังเขาจึงพยายามพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ: "สาวน้อย คุณ … "
ก่อนที่จะพูดจบก็ได้ยินเสียงพึมพำมาจากข้างหลัง: "ลุง ให้ฉันยืมบุหรี่ได้ไหม"
"ห้ะ?"
คนขับตะลึงเมื่อรู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดีและต้องการระบาย แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธตัดสินใจยื่นบุหรี่และไฟแช็กให้เธอ เธอเปิดกระจกรถเพื่อให้ควันบุหรี่ออกไปข้างนอก
อย่างไรก็ตามคนขับรถก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามไปว่า: "สาวน้อยเธอยังเด็กและฉันไม่คิดว่าเธอจะสูบบุหรี่"
ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างดวงตาของเยี่ยหลานซานรู้สึกเจ็บปวด
เวลาที่คุณอารมณ์ไม่ดีมักจะคิดอะไรแบบเรื่อยเปื่อยได้ง่าย ๆ บางอย่างมันค้างอยู่ในใจฉันนานเกินไปและมันก็หนักเกินกว่าที่เธอจะแบกรับมันได้: "หนูรู้วิธีสูบมันเมื่อสามปีที่แล้ว ในตอนนั้นชีวิตมันแย่มากและก็สูบบุหรี่หนักมาก …หลังจากมาถึงเมืองตี้ตูก็หยุดไป "
เมื่อพูดจบและกำลังจะจุดไฟแช็ค จู่ๆก็ได้ยินคนขับตะโกนออกมาด้วยความตกใจ: "อ๊ะ "