มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1480
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1480
เสียงตะโกนที่ดังขึ้นอยู่ไม่ไกลมากนัก และเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้พื้นที่บริเวณนั้นยังคงแออัดไปด้วยผู้คน แต่ตอนนี้ทุกคนได้ขยับออกจนเกิดพื้นที่ให้เดินตรงกลางได้
แน่นอนว่าคนที่พวกเขาต่างก็รู้สึกเกรงขามไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสเต็ดสัน ชายหนุ่มที่เจอรัลด์สังเกตเห็นเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่มหาวิทยาลัย! ไม่คิดว่าเขาจะปรากฏตัวที่คฤหาสน์ฮาร์ทสโตนเช่นกัน…
แต่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจมากนัก เพราะคนที่กำลังฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณต่างก็แห่กันไปที่คฤหาสน์ด้วยวิธีการต่าง ๆ จากที่กล่าวมา สเต็ดสัน ซึ่งคนทั่วไปมักจะเรียกกันว่า “เด็กฝึกหัด” ก็เป็นบุคคลที่ฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่งการตรัสรู้ทางวิญญาณเช่นกัน จากสิ่งที่เจอรัลด์ได้ยินมา สเต็ตสันได้เปิดรากฐานทางจิตวิญญาณของเขาตั้งแต่อายุสามขวบ และสิ่งนั้นก็ทำให้สเต็ตสันกลายเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง
ในเรื่องของความแข็งแกร่ง เจอรัลด์สามารถประเมินได้ว่าเขาน่าจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับจูเลียน บุคคลที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณเช่นกัน! ด้วยเหตุนี้ จึงถือได้ว่าสเต็ดสันเป็นหนึ่งในอาจารย์ยอดฝีมือเลยก็ว่าได้
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การมาถึงของเขาจะทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นภายในคฤหาสน์ฮาร์ทสโตน เพราะถือได้ว่าตอนนี้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในนั้น และมันก็ค่อนข้างจะชัดเจนเช่นกันว่าเขามีกองกำลังที่ทรงพลังมากหนุนหลังอยู่ในขณะนี้
ในขณะที่เจอรัลด์ยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “อาจารย์สั่งให้คุณไปพบนายน้อยเลดเลอร์เมื่อเขามาถึงครับ…!”
เมื่อเขาหันไปดูว่าใครเป็นคนพูดแบบนั้น เจอรัลด์ก็เห็นชายชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่กับซีเรียล ดูจากรูปลักษณ์แล้ว ชายชราคนนี้เป็นคนใจดีมาก เขาน่าจะมีอายุประมาณแปดสิบปี และนอกจากไฝเล็ก ๆ บนใบหน้าแล้ว ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของเขาคือเคราที่ยาวลงมาจนถึงหน้าอก
ขณะที่ชายชราสังเกตเห็นเจอรัลด์และชำเลืองมองเขา ซีเรียลก็พยักหน้า หลังจากที่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละทิ้งความคิดที่จะทักทายเจอรัลด์ในที่สุด เธอก็ตอบเขาว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณบาเบล!”
ซีเรียลมีเหตุผลที่เลือกที่จะไม่ทักทายเจอรัลด์
ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ซีเรียลก็ใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติในฐานะลูกสาวคนโตของครอบครัวแวดดี้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางการเงินหรือความแข็งแกร่ง ตระกูลแวดดี้ผู้ทรงพลังก็มีพร้อมทุกอย่าง ซึ่งก็หมายความว่าเธอมักจะใช้ชีวิตแบบสุขสบายจนใครก็เอื้อมไม่ถึง อย่างน้อยก็สำหรับคนทั่วไป นอกจากดวงจันทร์และดวงดาวแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ซีเรียลไม่สามารถคว้ามาครอบครองได้
แม้จะมีอำนาจทุกอย่างในโลก แต่ซีเรียลก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเมื่อมองจากภายนอก ท้ายที่สุดเนื่องจากกฎเกณฑ์บางอย่างในครอบครัวของเธอ เธอจึงสูญเสียโอกาสที่จะเลือกคนรักของเธอเอง
ถึงกระนั้น ซีเรียลก็ไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎนั้น เพราะเธอไม่เคยมีความรักมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรู้สึกว่ามันจำเป็นที่จะต้องสัมผัสความรู้สึกของการมีความรักด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงขอให้หมอดู ที่เธอพบที่ริมแม่น้ำช่วยทำนายโชคชะตาความรักให้กับเธอ
หมอดูทำนายว่าความรักของเธอจะปรากฏในไม่ช้า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซีเรียลก็ยึดมั่นในความคิดนี้ และเริ่มทุ่มเทพลังทั้งหมดของเธอเพื่อมองหาคนที่เธอจะตกหลุมรักในที่สุด
แม้มันจะเป็นความจริงที่เจอรัลด์ทำให้เธอรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่เห็นเขา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอตามหา นอกจากนั้นแล้ว เพื่อนที่ดีของเธอก็ยังคอยตามตื๊อและเกลี้ยกล่อมเธอตลอดเวลา เพื่อให้เธอไปหาสเต็ดสันแทน
ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และตอนนี้ซีเรียลก็เชื่อแล้วว่าคนรักของเธอคือนายน้อยเลดเลอร์จริง ๆ ด้วยความโชคดี เธอหวังว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอจะค่อย ๆ เบ่งบานหลังจากที่ได้รู้จักกันมากขึ้น
จากที่กล่าวมา เธอจึงเลือกที่จะไม่ทักทายเจอรัลด์ เนื่องจากเธอรู้สึกว่าทั้งสองคนมาจากโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม หลังจากพยักหน้าให้คุณบาเบลแล้ว ซีเรียลก็เดินไปหานายน้อยเลดเลอร์ ซึ่งยังคงพยายามเดินฝ่าฝูงชนเข้ามา
เมื่อเห็นอย่างนั้น ซาเวอรี่ก็ทำหน้าเยาะเย้ยใส่เจอรัลด์ก่อนจะพูดว่า “เห็นหรือยัง เจอรัลด์? เธอไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว ยอมแพ้ซะ!”
เมื่อมองดูซาเวอรี่ที่กำลังเดินตามซีเรียลไป เจอรัลด์ก็เอามือขึ้นมาเกาศีรษะด้วยความสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ว่ากรณีจะเป็นเช่นไร มันก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเขา ท้ายที่สุดแล้ว เขามุ่งความสนใจของเขาในวันนี้ไปที่การเฝ้าสังเกตการณ์ผู้คนทั้งหมด ซึ่งกำลังฝึกฝนเพื่อบรรลุการรู้แจ้งทางจิตวิญญาณที่มารวมตัวกันที่นี่ และคนที่เขาควรจะมุ่งเป้าเป็นคนแรกคงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากสเต็ดสัน
จากสิ่งที่เขาเห็น แม้จะถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชนจำนวนมาก สเต็ดสันก็ยังดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง เมื่อใดก็ตามที่เขากวาดสายตามองไปที่ใคร เขาก็จะต้องเหล่ตาของเขา มันเกือบจะเหมือนกับว่าเขามองทุกคนเป็นเพียงมดที่ไม่คู่ควรที่จะอยู่ต่อหน้าคนที่พิเศษอย่างเขา
เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนเหล่านี้ ซึ่งตัวเล็กและไร้ค่ามาก ยังมีศักดิ์ศรีที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไร้ค่าถึงขนาดนั้น?
ท้ายที่สุดแล้ว โลกนี้ควรเป็นของคนที่แข็งแกร่งเช่นเขาเท่านั้น ไม่ใช่หรือ? นี่เป็นความคิดในหัวของสเต็ดสันเมื่อเขาพบเห็นคนแบบนี้
ความคิดของเขาหยุดชะงักลงเมื่อคนรับใช้คนหนึ่งซึ่งติดตามสเต็ตสันมาด้วยกระซิบว่า “คุณซีเรียล แวดดี้มาแล้วครับ นายน้อยเลดเลอร์!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สเต็ดสันก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา… และเมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาก็ตระหนักได้ว่าซีเรียลดูสวยราวกับนางฟ้า…
ขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย ซีเรียลก็หน้าแดงขณะที่เธอพูดว่า “ฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณมามาก นายน้อยเลดเลอร์! ฉันชื่อซีเรียลค่ะ!”
ซีเรียลเองก็มีสายตาชื่นชม ในขณะที่เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่น่าทึ่งและกล้าหาญที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอ
ขณะที่เธอยื่นมือออกไปเพื่อขอจับมือกับสเต็ดสัน เขาก็แทบจะไม่ลังเลที่จะยื่นมือของเขาออกไปจับมือเธอเช่นกัน
ขณะที่พวกเขาทำเช่นนั้น ซีเรียลก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แม้พวกเขาจะได้สัมผัสกันทางผิวหนัง แต่หัวใจของเธอกลับไม่เต้นแรงเลยแม้แต่น้อย… ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?