มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1172
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1172
ในตอนนั้นเอง เพราะกลัวว่าผู้คนจะพยายามให้ความช่วยเหลือเจอรัลด์ องครักษ์ทั้งสองคนซึ่งได้รับมอบหมายให้เฝ้าดูเจอรัลด์เอาไว้ จึงรีบไล่ใครก็ตามที่เลือกอยู่ที่นี่ต่อออกไป
ด้วยเหตุนี้จึงมีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ยามเมื่อเจอรัลด์เงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์บนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ตลอดทั้งบ่ายที่ผ่านมา เจอรัลด์ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการคิดหาวิธีที่จะทำลายผลึกได้ ถึงอย่างไรก็ตาม เวลาไม่เพียงเดินต่อไปเท่านั้น แต่เจอรัลด์ยังได้เข้าใจอะไรบางอย่างจากการตายของเชสเตอร์อีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ตัวเขาได้รับอันตราย หรือตายเพราะเขาอีก!
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ในที่สุดเขาก็สามารถหาวิธีทำลายผนึกของเขาได้
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งแรกที่เขาได้พบกับเทพเจ้า เจอรัลด์ได้เจอเข้ากับจี้หยก ที่ผนึกความทรงจำมากมายเอาไว้ในใจของเขา
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะมีความทรงจำเรื่องการเรียนรู้วิชาใหม่ ๆ หลายอย่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้พยายามใช้วิชาเหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่เจอรัลด์รู้ดีว่าเขาได้ฝึกฝนวิชาเหล่านั้นได้เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นเอง
คาดไม่ถึงว่า ขณะที่กำลังคิดหาวิธีทำลายผนึกพลังก่อนหน้านี้ เจอรัลด์ก็นึกถึงวิธีการฝึกที่ทำให้เขาหลุดออกจากผนึกทั้งสามได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
แต่วิธีที่ว่านี้ ย่อมมีความชั่วร้ายแฝงอยู่เป็นธรรมดา และถ้าผู้ใช้ไม่ระวังให้ดี พวกเขาอาจเกิดความชั่วร้ายครอบงำได้ง่าย หลังจากที่ได้รับพลังนี้มา ยิ่งไปกว่านั้น วิธีการใช้พลังนี้ค่อนข้างโหดร้ายทารุณ แม้แต่กับคนเก่งอย่างเจอรัลด์
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการตั้งคำถามว่า เขาควรจะเสี่ยงใช้วิชาที่อันตรายแบบนี้หรือไม่ แม้เวลาจะผ่านไปได้สักพักหนึ่งแล้ว แต่เจอรัลด์ก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก เมื่อไม่มีหนทางอื่น และเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจยอมให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับโจชัว และคนอื่น ๆ เพราะความลังเลของเขาได้อีก
อย่างไรก็ตาม เพื่อจะนำวิชานี้ไปใช้ เจอรัลด์จำเป็นจะต้องใช้เวลาฝึกฝนก่อนสักพัก ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเวลาเที่ยงคืนคงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะเจอรัลด์มีความทรงจำเกี่ยวกับวิชานี้อยู่ในใจอยู่แล้ว เขาจึงรู้ว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับเขาที่จะฝึกฝนวิชานี้
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นรู้สึกได้ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะเริ่มฝึกวิชา เพราะตอนนี้เขาถูกห้อยอยู่กลางอากาศ เจอรัลด์จึงทำได้เพียงหลับตาผ่อนคลาย ขณะที่ควบคุมการไหลเวียนของเส้นพลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายตามความทรงจำที่ถูกถ่ายทอดเผยออกมาให้เขาได้เห็น
ผ่านไปกว่าหนึ่งสัปดาห์ ในที่สุดเจอรัลด์มั่นใจว่าจิตวิญญาณของพร้อมแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เจอรัลด์จะใช้ดาบแห่งรุ่งอรุณ!
‘ดาบแห่งรุ่งอรุณออกมา!’ เจอรัลด์สั่งขึ้นในใจ
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ดาบสีดำก็พุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเจอรัลด์ และตัดเชือกที่พันธนาการเขาเอาไว้ให้หลุดออกอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เจอรัลด์หลุดพ้นจากพันธนาการแล้ว เขาล้มลงกับพื้น จนเสียหลักยืนไม่อยู่ เพราะร่างกายที่ยังอ่อนแออยู่บ้าง
เจอรัลด์ถอนหายใจออกมายาวเหยียดเพราะความโล่งอก ทันใดนั้นเอง เขาได้ก็ยินเสียงพูดเหน็บแนมขึ้น “เรื่องบ้าอะไรเนี่ย? เชือกขาดได้ยังไง? เดี๋ยว เหมือนว่าเขาจะมีดาบอยู่กับตัวอยู่ตลอด! โชคดีที่ท่านชายรองส่งเราทั้งเจ็ดคนมาเฝ้าแกตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง! ไม่อย่างนั้นล่ะก็ แกคงหนีไปได้แน่นอน!”
หลังจากที่สอดดาบแห่งรุ่งอรุณเก็บเข้าไปในแขนเสื้อแล้ว เจอรัลด์จึงหันกลับไปมองชายทั้งเจ็ดคนจากพ่อมดศักดิ์สิทธิ์ที่พูดจาเหน็บแนมเขา ซึ่งทุกคนกำลังมองเขาอยู่ ขณะที่พวกเขาเดินมาหาชายหนุ่มอย่างช้า ๆ
แม้ว่าสิ่งที่เขาทำต่อจากนี้จะโหดเหี้ยมเพียงใด เจอรัลด์ก็มั่นใจแล้วว่าเขาใช้เพียงวิชานี้เท่านั้น เพราะไม่มีหนทางอื่นที่จะทำลายผนึกพลังได้
“เห้ย เจ้าเด็กเหลือขอ! แกจะมัดตัวเองกลับไป หรือจะให้เราทำให้แก? ฉันจะทำให้แกรู้ว่าการที่แกพยายามหนีคือการหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว!” หัวหน้าของชายกลุ่มนั้นพูดขึ้น ขณะที่เขายังคงเดินมาหาเจอรัลด์ด้วยท่าทางไร้กังวล เขาตั้งใจจะตบหน้าชายหนุ่มเบา ๆ สักสองสามครั้งเพื่อสั่งสอน
แต่เมื่อผู้เป็นหัวหน้าอยู่ในระยะประชิด เจอรัลด์จึงคว้าศีรษะขององครักษ์เอาไว้ทันที ก่อนที่จะปลดปล่อยวิชาที่เขาฝึกฝนมาตลอดทั้งสัปดาห์!
ในตอนนั้นเอง เสียงที่ได้ยินราวกับความฝันและรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็น เพียงไม่นานนักเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดขององครักษ์แทรกขึ้นมา
ส่วนองครักษ์อีกหกคนมองดูพลังดูดที่รุนแรงกำลังดูดหัวหน้าของพวกเขาจนแห้งเหี่ยว ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแก้มของเขาก็ตอบลงมาก จนตอนนี้ใบหน้าซีดเผือดนั้นดูเหมือนหัวกะโหลกไปเสียแล้ว
ในไม่ช้าผิวหนังของหัวหน้าก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสีดำอมม่วง และมันยังคงแห้งเหี่ยวต่อไป จนกระทั่งเหลือเพียงเถ้ากระดูก… เจอรัลด์รามือจากเถ้ากระดูกนั้น แล้วหันไปมองชายทั้งหกคนที่แหกปากร้องโวยวาย ซึ่งไม่อาจขยับร่างกายได้ด้วยความหวาดกลัว หลังจากที่ได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวที่เจอรัลด์เพิ่งทำลงไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา