ภรรยาหน้าหวานของพี่ใหญ่ - ตอนที่ 141 ไม่มีของของผู้หญิง
ลี่เย่ถิงเอื้อมมือไปช่วยพยุงเธอ "หรือจะไปโรงพยาบาลเอกซเรย์สักหน่อย เมื่อกี้คุณล้มแรงอยู่นะ"
“ไม่ต้องค่ะ” ซูหรูเยียนผลักมือลี่เย่ถิงออกเบา ๆ ส่ายหัวและกระซิบกลับ “ฉันสบายดี ฉันรู้ดีค่ะ”
ลี่เย่ถิงตามเธอเข้าไปในลิฟต์และพาเธอไปที่ประตู
ซูหรูเยียนยืนอยู่หน้าประตู มือของเธอที่กำลังกดรหัสผ่านยังคงสั่นอยู่ ไม่สามารถกดได้เป็นเวลานาน
“ฉันทำเอง” ลี่เย่ถิงถอนหายใจอย่างลับๆ และก้าวไปข้างหน้า
“รหัสผ่านเดียวกับห้องของคุณนั่นแหละ” ซูหรูเยียนก้าวออกไปข้าง ๆ ก้มหัวลงเล็กน้อยแล้วกระซิบ
ลี่เย่ถิงเหลือบมองเธอ แต่ซูหรูเยียนเอาแต่จ้องไปที่ประตูอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าวิญญาณของเธอไม่ได้อยู่ในร่างแล้ว
ลี่เยถิงเปิดประตูให้เธอ แต่ซูหรูเยียนยังคงยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม
“หรูเยียน” ลี่เย่ถิงเรียกเธอด้วยเสียงต่ำ
“โอ้…” ซูหรูเยียนเงยหน้าขึ้นมองและยิ้มอย่างเคอะเขิน
กระเป๋าในมือของเธอดูเหมือนหนักทองพันชั่งเสียอีกและฝีเท้าของเธอดูเบาโหวง เธอเดินผ่านลี่เย่ถิงและเข้าไปในประตู
เขาขมวดคิ้วและมองดูซูหรูเยียนเดินเข้าไป
“ฉันจะบอกผลให้คุณทราบทันที” ลี่เย่ถิงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกระซิบไปทางหลังของซูหรูเยียน
“อืม” ซูหรูเยียนพยักหน้าและเดินไปที่ห้องอย่างช้าๆ
ลี่เย่ถิงสังเกตเห็นว่าซูหรูเยียนดูผิดแปลกไป แต่ผลยังไม่ออกมา ในช่วงสี่สิบแปดชั่วโมงนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก
เขาละสายตาแล้วปิดประตู
ในช่วงเวลาปิดประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มของวัตถุหนักตกลงไปที่พื้น
ลี่เย่ถิงตกใจ จากนั้นเปิดประตูและรีบเข้าไปอีกครั้ง
……
เฉียวเหวยอีตื่นแต่เช้า นั่งบนโถส้วม และมองไปรอบ ๆ ในห้องน้ำของลี่เย่ถิง
บนโต๊ะเครื่องแป้งมีผ้าขนหนู แปรงสีฟันไฟฟ้า มีดโกนไฟฟ้า ถ้วยน้ำยาบ้วนปาก ส่วนใต้โต๊ะเครื่องแป้งมีรองเท้าแตะใส่ในห้องน้ำขนาดใหญ่ 1 คู่ รองเท้าแตะขนาดเล็ก 1 คู่ ทั้งหมดเป็นโทนสีเทาดูเรียบง่าย
ในห้องของเขาไม่มีของของผู้หญิงเลยสักชิ้น
เธอเปิดตู้ด้วยกระดาษเช็ดมือข้าง ๆ มีเพียงกระดาษทิชชูที่ยังไม่ได้เปิดและไม่มีของใช้ผู้หญิงอยู่ในนั้น
แม้ว่าซูหรูเยียนจะจากไป แต่ก็ไม่น่าสามารถทำความสะอาดได้ทันทีราวกับว่าเธอไม่เคยปรากฏตัวมาก่อนใช่ไหม ?
ทั้งสองคนไม่ได้นอนห้องเดียวกันเหรอ ?
เฉียวเหวยอีขมวดคิ้ว ด้วยความงุนงงเล็กน้อย
เธอลุกขึ้นค้นหาเป็นเวลานาน แต่ไม่พบแปรงสีฟันและถ้วยน้ำยาบ้วนปากที่เธอสามารถใช้ได้เลย
“คุณหนู ตื่นแล้วเหรอคะ ?” จู่ๆ แม่บ้านเฉินก็เคาะประตูแล้วถามขึ้น
เฉียวเหวยอีหันกลับมาเปิดประตู เห็นแม่บ้านเฉินถือเกี๊ยวอยู่ในมือของเธอ และยิ้มให้เธอ
ซุ่ยซุ่ยไม่ได้ตื่นแต่เช้า เมื่อแม่บ้านเฉินบอกว่าเฉียวเหวยอีอยู่ที่นี่ เขาก็งอแงจะมาหาในทันที
พอเห็นแล้วก็มั่นใจว่าไม่ได้เป็นแค่ความฝัน จึงรู้สึกโล่งใจ
แม่บ้านเฉินนำแปรงสีฟันและผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มา และนำข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำของซุ่ยซุ่ยมาจัดเรียงใหม่ทั้งหมดด้วยสีหน้ามีความสุข
ข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำจัดวางชิดกัน และแสงแดดส่องลงมาแม่บ้านเฉินมองดูทุกคนในครอบครัวอย่างสดใสและมีความสุขในหัวใจ
แม้ว่าเฉียวเหวยอีจะทะเลาะกับลี่เย่ถิงเมื่อคืนนี้ แต่ในบางทีหลังจากทะเลาะกันแล้ว มันก็จะชัดเจนและคืนดีกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ?
เฉียวเหวยอีให้ซุยซุยเหยียบเก้าอี้ตัวเล็กแล้วแปรงฟันด้วยกัน
ซุ่ยซุ่ยที่กำลังแปรงฟัน จู่ ๆ ก็เข้ามาจูบที่มุมปากของเฉียวเหวยอี
เฉียวเหวยอีตกตะลึงกับจูบของเขา
“ของซุ่ยซุ่ยเป็นรสส้ม ส่วนของพี่เป็นรสพีช” ซุย่ซุ่ยหัวเราะเบา ๆ พร้อมชี้ไปที่ยาสีฟันในปากของเขา
แม้แต่ยาสีฟันของพี่ก็หอมและหวาน
ความฝันเมื่อคืนของซุ่ยซุ่ย เขาฝันว่ายาสีฟันของเฉียวเหวยอีเป็นรสนี้แหละ แต่ไม่คาดคิดว่าความฝันนั้นจะกลายเป็นความจริงได้ !