ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 143 การเผชิญหน้ากับพระราชินี
ฮองเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเช้านี้ ตนได้ส่งซิ่วซินไปจับตาดูสถานการณ์ที่จวนซุ่นชิ่งอ๋อง เมื่อสักครู่ก่อนที่ตนจะมาที่นี่นางก็ยังไม่กลับมา แล้วนางมาอยู่ที่นี่ได้เยี่ยงไร?
หัวหน้าเจิ้งเดินเข้ามาเช่นกัน และเดินไปที่ตรงกลางตำหนักพร้อมยืนนิ่งและทูลว่า "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันได้สอบปากคำองครักษ์รักษาประตูของวังทางตะวันตกแล้วพ่ะย่ะค่ะ องครักษ์กล่าวว่าจากการบันทึกเข้าออกพระราชวัง เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบชื่อซิ่วซินพ่ะย่ะค่ะ แต่ทว่าเมื่อหม่อมฉันนำตัวซิ่วซินไปพบองครักษ์ผู้นั้น องครักษ์ผู้นั้นก็จำนางได้ทันทีพ่ะย่ะค่ะ เขาให้การว่าวันนี้ซิ่วซินออกจากวังไปแต่เช้า แต่นางมิได้ลงบันทึกในนามซิ่วซิน แต่เป็นหย่าหยูนแทนพ่ะย่ะค่ะ
ฮองเฮาตกใจอย่างหนักเมื่อได้ยินเช่นนี้ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป แต่ก็ไม่ทราบว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไร จึงทำได้เบิกตากว้างจ้องมอง
แต่จักรพรรดิหนิงทรงหันมามองนางแล้วยิ้มอย่างเย็นชา "เมื่อสักครู่นี้ฮองเฮาตรัสว่าซิ่วซินอยู่ที่วังซีอู๋มิใช่หรือ? แล้วนางออกจากพระราชวังได้อย่างไร?"
เมื่อฮองเฮาได้ยินเช่นนี้ ก็บีบผ้าซับพระพักตร์ในมืออย่างแน่น กัดฟัน และทรงตรัสด้วยความโกรธเคือง "นางเด็กนั่นปดข้าหรือ? เช้าวันนี้สาวใช้ซึ่งอาศัยอยู่ห้องเดียวกับนางก็มาทูลกับหม่อมฉันว่า ซิ่วซินไม่สบาย และนางกลัวว่าจะทำให้ข้าเจ็บไข้ไปด้วย จึงได้ขอพักผ่อนหนึ่งวัน หม่อมฉันเห็นว่าปกตินางตั้งใจในการปรนนิบัติหม่อมฉันอย่างมาก จึงมิได้กล่าวว่ากระไร แต่ไม่คาดคิดว่านางจะปดงั้นหรือ?"
พระเนตรของจักรพรรดิหนิงเย็นชามากขึ้น " โอ้? วันนี้เกิดเรื่องที่จวนซุ่นชิ่งอ๋อง พวกเขาทูลกับเจิ้นว่าลูกท้อมงคลมรกตที่ชางเอ๋อร์นำไปถวายนั้นมีพิษ? เหตุใดเจ้าจึงวางยาพิษไว้บนลูกท้อมงคลนี้? เจ้าหวังประสงค์ร้ายต่อพระชายาซุ่นชิ่งหรือ?"
ฮองเฮารีบก้มศีรษะลง เสียงของนางกระวนกระวายเล็กน้อย " หม่อมฉันมิได้มีความแค้นใจใดๆต่อพระชายาซุ่นชิ่ง แล้วเหตุใดหม่อมฉันจึงคิดประสงค์ร้ายนางเพคะ? อีกทั้งพระกนิษฐภคินีของข้าเป็นพระชายาจวิ้นอ๋องของจวนซุ่นชิ่งอ๋องอีกด้วย ข้าควรต้องสนิทสนมกับท่านเสียอีก มิมีเหตุผลที่ต้องประสงค์ร้ายพระชายาซุ่นชิ่ง ลูกท้อมงคลนี้หยุนชางเป็นคนนำไปถวาย หรือว่ามีคนเล่นเล่ห์กลเพคะ?"
หยุนชางฟังออกว่าคนที่นางพูดถึงนั้นคือตน นางจึงบีบน้ำพระเนตรออกมา และกล่าวด้วยความน่าสงสาร " เสด็จแม่ทรงตรัสเรื่องอันใดเพคะ? หรือว่าเสด็จแม่ทรงสงสัยว่าชางเอ๋อร์เป็นคนวางยา?"
นัยน์ตาของราชินีเย็นชาอย่างมาก "จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร แต่ทว่านางกำนัลรอบตัวเจ้านั้นน่าสงสัยอย่างยิ่ง หรือว่าไปนำตัวนางกำนัลในวังเจ้ามาซักถามดีหรือไม่?"
ทันทีที่ฮองเฮาตรัสเรียบร้อย จักรพรรดิหนิงก็ทรงออกเสียงขัดคำพูดของนางไว้ "หลี่อี้หราน! เจิ้นเห็นแก่ที่อภิเษกกับเจ้ามาหลายปี เจิ้นมิอยากทำให้เจ้ารู้สึกเสียหน้า แต่ไม่คาดคิดว่าเจ้าไม่สำนึกผิด และยังคิดจะใส่ร้ายชางเอ๋อร์เช่นนี้ ใครเป็นคนวางยาพิษนั้นย่อมรู้ตัวดี หากว่าเจ้าไม่เข้าใจ วันนี้เจิ้นจะทำให้เจ้ากระจ่างเอง"
"นำตัวพระชายาจวิ้นอ๋องเข้ามา" จักรพรรดิหนิงตรัสอย่างเสียงดัง องครักษ์ก็นำตัวพระชายาจวิ้นอ๋องเข้ามาในตำหนัก
จักรพรรดิหนิงยิ้มอย่างเย็นชาและตรัสกับพระชายาจวิ้นอ๋องว่า "กล่าวมา "
พระชายาจวิ้นอ๋องเงยหน้าขึ้นอย่างหวาดกลัวและมองไปที่ฮองเฮา แล้วพบว่าแววตาของนางนั้นแหลมคมอย่างมาก นางจึงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ ขณะที่นางกำลังจะกล่าว ก็ได้ยินเสียงของซุ่นชิ่งอ๋องดังขึ้นข้างหูเบาๆ "อีกไม่กี่วันก็ได้เวลาหาอาจารย์ให้กับรุ่ยเอ๋อร์แล้ว…"
พระชายาจวิ้นอ๋องรู้สึกไม่มีทางเลือก จึงกราบไปสามครั้งและกล่าวว่า "หม่อมฉันจะกล่าวเรื่องทั้งหมดเพคะ ประมาณสิบวันก่อน นางกำนัลข้างกายของพระราชินี ซิ่วซินกูกูได้มาหาหม่อมฉันที่จวนซุ่นชิ่งอ๋องอย่างลับๆเพคะ และกล่าวว่าหากหม่อมฉันช่วยทำการเล็กน้อยให้กับพระราชินี พระราชินีจะทรงรับหน้าที่มอบบุตรของหม่อมฉันให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระเชษฐนี พระเชษฐนีไม่มีพระราชโอรส จึงสามารถแต่งตั้งให้รุ่ยเอ๋อร์เป็นซื่อจื่อได้ หม่อมฉันคิดทบทวนเรื่องที่พระสวามีมิได้รับตำแหน่งซื่อจื่อมาอยู่นาน และเมื่อได้ยินพระราชินีทรงตรัสเช่นนี้ จึงดีใจเป็นอย่างมากเพคะ และโดนความโลภบังตา จึงได้ตอบตกลงไว้เพคะ"
พระชายาจวิ้นอ๋องทรงพระกันแสงอย่างหนัก " ซิ่วซินกูกูกล่าวกับหม่อมฉันว่า พระราชินี…พระราชินีจะให้องค์หญิงฮุ่ยกั๋วนำของมาถวาย และสั่งให้หม่อมฉันแอบสลับกล่องนั้นอย่างเงียบๆ และให้หม่อมฉันเป็นพยานยืนกรานว่าหม่อมฉันเห็นองค์หญิงฮุ่ยกั๋วแอบนำยาพิษใส่ลงไปในขณะที่ไม่มีคนสังเกตเพคะ และหม่อมฉันได้สลับกล่องได้สำเร็จ แต่มิคาดคิดว่าท่านอ๋องและพระชายามิได้ต้องพิษแต่อย่างใด ซิ่วซินกูกูจึงกังวลขึ้นมา…และคิดหาวิธีวางยาพิษบัณทิตหวูและลูกสาวนอกสมรสของท่านเพคะ และต้องการให้หม่อมฉันเป็นพยานว่าผ้าและเส้นด้ายของถุงหอมที่เป็นเหตุทำให้สองพ่อลูกบันทิตหวูเสียชีวิตนั้น ล้วนมาจากพระราชินี ส่วนงานปักเป็นฝีมือของนางกำนัลข้างกายขององค์หญิงฮุ่ยกั๋ว และขณะที่หม่อมฉันและซิ่วซินกูกูกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น พระชายาและท่านอ๋องก็มาพบความจริงเพคะ …"
พระชายาจวิ้นอ๋องทรงพระกันแสงด้วยความเศร้าโศก แต่นางก็เล่าความเป็นมาของเรื่องได้อย่างชัดเจน สีหน้าของฮองเฮาก็แย่ลงเรื่อยๆ และผ่านไปนานนางจึงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "เมื่อคนเราอยากใส่ร้ายผู้อื่น ก็ย่อมมีคำพูดมากมายที่นำมาใช้ได้ องค์หญิงคงวางแผนมานานกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้สินะ"
หยุนชางอดยิ้มอยู่ในใจ ฮองเฮาก็มิใช่คนโง่เขลา แค่เพียงเห็นเช่นนี้ก็ทราบได้ทันทีว่าแผนการนี้เป็นฝีมือของตน แต่ทว่าทราบแล้วมีผลอันใดหรือ? เพราะถึงอย่างไรตนก็จะไม่ปล่อยนางไปอย่างแน่นอน"
แต่ว่าหยุนชางก็ยังคงกล่าวด้วยความน่าสงสารว่า " เสด็จแม่ทรงตรัสเรื่องอันใดหรือเพคะ เหตุใดชางเอ๋อร์จึงต้องวางแผนเช่นนี้เพื่อทำร้ายตนเองเพคะ?"
จักรพรรดิหนิงทรงพิโรธอย่างมากขึ้น กัดฟันและกล่าวว่า "เจ้ายังไม่สารภาพความผิดหรือ?"
ฮองเฮายิ้มอย่างเย็นชาและเงยหน้ามองจักรพรรดิหนิง "หม่อมฉันยังคงคำพูดเดิมเพคะ เมื่อคนเราอยากใส่ร้ายผู้อื่น ก็ย่อมมีคำพูดมากมายที่นำมาใช้ได้ หรือว่าฝ่าบาททรงเชื่อหญิงสาวผู้นี้ เพียงเพราะคำพูดปากเปล่าของนาง?"
พระชายาซุ่นชิ่งอดยิ้มไม่ได้ "เมื่อสักครู่นี้พระราชินีทรงตรัสว่า พระชายาจวิ้นอ๋องทรงเป็นพระกนิษฐภคินีของท่าน และแน่นอนว่าควรที่จะสนิทสนมกับหม่อมฉันอย่างมาก หม่อมฉันจึงครุ่นคิดว่าท่านและพระชายาจวิ้นอ๋องคงมีความสัมพันธ์ที่ดีงามเลยทีเดียว แล้วเหตุใดตอนนี้ท่านจึงตรัสว่าสิ่งที่พระชายาจวิ้นอ๋องกล่าวมานั้นเป็นเพียงคำพูดปากเปล่าเพคะ?"
"ไม่มีใครทราบหรอกว่าพวกเจ้าทำเรื่องอันใดกับนางหรือไม่ นางจึงได้มาพูดจาไร้สาระที่นี่!" ฮองเฮากล่าวอย่างเย็นชา
จักรพรรดิหนิงทรงออกเสียง และตรัสกับพระชายาจวิ้นอ๋องว่า " เจ้าบอกว่าสิ่งเหล่านี้พระราชินีเป็นคนทำ เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?"
พระชายาจวิ้นอ๋องพยักหน้า "หม่อมฉันและองค์หญิงฮุ่ยกั๋วไม่เคยรู้จักกัน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทราบว่าองค์หญิงทรงนำของอะไรมาถวาย และคงจะไม่มีโอกาสได้ทำของที่เป็นเหมือนกันออกมาเพื่อสลับกันเพคะ ทั้งหมดนี้พระราชินีทรงสั่งให้ซิ่วซินกูกูมาบอกกับหม่อมฉันเพคะ ของปลอมที่สลับกับของจริงนั้นมีรอยแดงแฝงอยู่ หยกที่มีรอยแดงนั้นมีความหมายไม่เป็นสิริมงคล และเมื่อพระชายาพบเห็นคงกริ้วองค์หญิงฮุ่ยกั๋วอย่างมาก และเมื่อถึงเวลานั้น ท่านก็คงนำลูกท้อมงคลนี้ออกมาตรวจดู และจะต้องยาพิษเพคะ และของถวายที่หม่อมฉันสลับมาตอนนี้ยังคงอยู่ในตำหนักของหม่อมฉันเพคะ ฝ่าบาททรงสั่งให้บ่าวใช้ไปนำมาได้เพคะ แล้วจะพบความจริงเพคะ"
จักรพรรดิหนิงพยักหน้าและโบกมือสั่งให้บ่าวใช้ไปนำมา จากนั้น พระองค์ทรงสั่งให้นำตัวซิ่วซินขึ้นมา ซิ่วซินยังคงรู้สึกสับสน "เหนียงเหนียง? ฝ่าบาทเพคะ? เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะเหตุใดจึงนำตัวหม่อมฉันมาอย่างกะทันหันเช่นนี้เพคะ?"
"ครึ่งวันที่ผ่านมานี้เจ้าไปไหนมา" จักรพรรดิหนิงตรัสอย่างเย็นชา
เมื่อซิ่วซินได้ยินเช่นนี้ จึงสั่นสะท้าน และเงยหน้ามองดูสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ซุ่นชิ่งอ๋องและพระชายาซุ่นชิ่งอยู่พร้อมตากัน องค์หญิงฮุ่ยกั๋วก็อยู่ที่นี่เช่นกัน พระชายาจวิ้นอ๋องคุกเข่าอยู่ข้างๆ แต่ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยน้ำพระเนตร เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งพระกันแสงไป ปกติแล้วพระชายาจวิ้นอ๋องจะไม่เข้าวังได้ง่ายๆ และวันนี้เป็นงานประสูติของพระชายาซุ่นชิ่ง แต่นางกลับปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หมายความว่าอย่างไร? ซิ่วซินรู้สึกหนาวเหน็บที่แผ่นหลังของตน นางจึงกราบและกล่าวว่า " ช่วงเช้าของวันนี้หม่อมฉันอยู่ที่วังซีอู๋ตลอดเพคะ"
"เหลวไหล ก่อนหน้านี้เจ้าอยู่ที่จวนซุ่นชิ่งอ๋องมิใช่หรือ?" จักรพรรดิหนิงยังไม่ได้ตรัสอัดใด พระชายาจวิ้นอ๋องก็โต้กลับ หากว่าตนสามารถระบุตัวมือสังหารได้ ตนจะได้รับการพิจารณาเป็นเพียงแค่ผู้สมรู้ร่วมคิด อย่างน้อยก็สามารถเอาชีวิตรอดได้
ซิ่วซินกัดริมฝีปาก นางพูดในใจว่าแย่แล้ว พระชายาจวิ้นอ๋องทรงตรัสเรื่องทุกอย่างไปแล้วจริงหรือ? นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก แล้วได้ยินเสียงหยุนชางดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา " ซิ่วซินกูกู พระชายาจวิ้นอ๋องทรงตรัสความจริงทุกอย่างออกมาหมดแล้ว ซิ่วซินกูกูอย่าได้เสียเวลาเลย"
ซิ่วซินรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น นางรู้สึกเพียงว่าทุกอย่างในวันนี้ดูผิดปกติไป ก่อนหน้านี้ตนไปที่จวนซุ่นชิ่งอ๋องเพื่อดูว่าเรื่องนั้นดำเนินอย่างไรบ้าง แต่ไม่ทราบว่าตนหลับไปได้อย่างไร เมื่อตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว จึงได้ถามคนใช้แถวนั้น แต่กลับได้ยินว่าซุ่นชิ่งอ๋องและพระชายามิได้อยู่ในจวนแล้ว เดิมทีตนคิดว่าจะลองสอบถามเพิ่มเติม แต่ก็กลัวว่าตนออกจากวังมานานจนเป็นพิรุธ จึงรีบกลับพระราชวังไป แต่ไม่คาดคิดว่าตนโดนจับตัวทันทีที่เดินเข้ามาประตูพระราชวังมา