ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5824 เป็นอมตะหรือไม่?(1)
ด้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5824
เย่เฉินชัดเจนมากว่า ที่ตนเองตามหาครั้งนี้ ไม่ใช่อู๋เฟยเยี่ยน แต่เป็นสถานที่นั้นที่อู๋เฟยเยี่ยนต้องการไป
ตนนำภาพวาดของเมิ่งฉางเชิงปล่อยออกมา อู๋เฟยเยี่ยนรีบให้องค์กรพั่วชิงเข้าสู่ความนิ่งเงียบ ข้อนี้พิสูจน์ได้ว่าเธอค่อนข้างหวาดกลัว
แต่ยิ่งหวาดกลัว เธอก็ยิ่งแอบมาที่หัวเซี่ยเงียบๆคนเดียว อีกทั้งไปที่ภูเขาแสนลี้แล้ว นี่ก็พิสูจน์ได้ว่า เธอในตอนนี้จะต้องรีบเร่งเป็นอย่างมากแน่นอน
เย่เฉินคาดเดา เป็นไปได้มากว่าเป็นเพราะไปค้นหาความลับที่เมิ่งฉางเชิงทิ้งเอาไว้ตอนนั้น บางทีก็คือความลับอายุยืนที่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งเอ่ยถึงก่อนหน้านี้
ดังนั้น รอหลังจากที่อู๋เฟยเยี่ยนออกไปจากภูเขาแสนลี้ ตนค่อยเข้าไปค้นหา ยังไม่ต้องสนใจว่าจะได้รับอะไรหรือไม่ อย่างน้อยก็จะไม่เพิ่มอันตราย
และในเวลานี้
ที่ภูเขาแสนลี้
อู๋เฟยเยี่ยนราวกับจอมยุทธ์หญิงในหนังกำลังภายในห้อยโหนสลิง กระโดดไต่กำแพง เดินอยู่ท่ามกลางป่าไม้ในภูเขาลึกด้วยความรวดเร็ว เป็นภูเขาสูงชัน ป่าไม้เก่าแก่ในภูเขาลึกในสายตาของคนทั่วไป แต่ต่อหน้าเธอแล้ว เรียกได้ว่าราวกับเป็นพื้นที่ราบก็ว่าได้
แม้ว่าจะเดินลึกเข้าไปในภูเขาใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์กลับยิ่งราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ
ตอนหลังจากที่เธอห่างจากทางด่วนเป็นระยะทางไกลแล้ว ค่อยๆเข้าไปในภูเขาลึกไกลแล้ว เธอพบว่าเมื่อเทียบภูเขาแสนลี้ตรงหน้า กับเมื่อสามร้อยปีก่อน กลับไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
ภูเขาเขียวขจีของที่นี่ยังเป็นเช่นเดิม แล้วก็ยังคงไร้ผู้คนอาศัยเช่นเดิม
อู๋เฟยเยี่ยนอาศัยความทรงจำในตอนนั้น ที่เดินตั้งแต่เช้าจรดค่ำในภูเขาลึก
ในป่ายามราตรี ยื่นมือออกไปมองไม่เห็นนิ้วมือทั้งห้า แสงจันทร์และแสงดาวแทบจะถูกบดบังด้วยต้นไม้ที่หนาทึบ อีกทั้งเนื่องด้วยเหตุนี้ความชื้นในอากาศยามราตรียิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในป่าเขาได้ถูกปกคลุมด้วยหมอก คนธรรมดาอยู่ที่นี่เดินทางยากลำบาก อู๋เฟยเยี่ยนกลับราวกับว่าสามารถมองทะลุความมืดและหมอกทึบได้ ความเร็วไม่ลดลงตลอดทาง สาวเท้ายาวไปทางข้างหน้า
ในเวลานี้เธอถูกรายล้อมไปด้วยมดงูหนูแมลง ยังมีสัตว์ป่านานาชนิดอีกด้วย แต่ทุกที่ที่อู๋เฟยเยี่ยนไป สัตว์ทั้งหมดแตกกระเจิง แทบอยากจะออกห่างจากเธอมากเท่าไหร่ยิ่งดี
หลังจากอู๋เฟยเยี่ยนเดินทางฝ่าทะลุท่ามกลางหมอกหนาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงส่วนที่ต่ำเป็นอย่างยิ่งของหุบเขา หมอกหนาของที่นี่หนาจนผู้คนตกตะลึง ความชื้นภายในอากาศก็มากเกินจริงจนสามารถคั้นน้ำออกมาได้
และด้วยเหตุนี้พื้นที่ต่ำสุดของหุบเขา มีความชื้นจำนวนมากกับคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ออกซิเจนที่ด้านล่างของหุบเขาค่อนข้างต่ำ คนทั่วไปอยู่ที่นี่ ไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้นาน
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ อากาศของที่ไม่เพียงแค่ชื้นกับมีคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น ยังมีส่วนประกอบของพิษที่มีลักษณะคล้ายกับก๊าซมีเทนของต้นไม้เน่าเปื่อยกับโคลน ไม่รู้ว่าผ่านการหมักกับปฏิกิริยาทางเคมีทางธรรมชาติชนิดต่างๆมาไม่รู้กี่ปี กลายเป็นชี่พิษที่มีความเป็นพิษร้ายแรงต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
อีกทั้ง ถึงแม้ว่าที่จะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แต่มักจะมีสัตว์ป่ามาหาอาหารที่นี่โดยไม่ตั้งใจ หลังจากที่สัตว์เข้ามาแล้วก็จะสลบถึงขนาดตายเพราะขาดออกซิเจนรวมทั้งส่วนประกอบที่เป็นพิษในอากาศ หลังจากตายศพก็จะเน่าเปื่อยอยู่ในนั้น ศพที่เน่าเปื่อยผ่านการย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ ทำให้อากาศของที่นี่ยิ่งอันตรายมากขึ้น
ถ้าหากมีคนไม่ดูตาม้าตาเรือ ปีนข้ามภูเขาจำนวนมากมายมาถึงยังที่นี่จริง ถ้าอย่างนั้นโดยส่วนมากแล้วก็จะไม่ได้กลับออกมา
แต่ว่า ตอนที่อู๋เฟยเยี่ยนมาถึงที่นี่นั้น ท่าทางของเธอกลับไม่ได้มีความตื่นเต้นเลยสักนิด ในทางกลับกันยิ่งมีความตื่นเต้นมากกว่าเดิม
เธอก้าวเดินเข้าไปในหมอกหนาผืนนี้โดยไม่ลังเล หมอกพิษที่เต็มไปด้วยความสกปรกถึงแม้จะไม่ทำร้ายเธอก็จริง แต่กลับทำให้เธอเกิดอาการคลื่นไส้เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงกลั้นหายใจ เดินมุ่งหน้าไปทางส่วนลึกที่ต่ำที่สุด
ในเวลานี้ ใต้หุบเขาไม่มีแสงแม้แต่เพียงเล็กน้อย อู๋เฟยเยี่ยนปล่อยตัวสำนึกไปทั่วบริเวณรอบๆ ทุกอย่างบริเวณรอบๆสำหรับเธอแล้ว ก็คือเข้าใจอย่างถ่องแท้
ตอนที่มาถึงบริเวณที่ลึกที่สุด มีเสาหินขนาดใหญ่สูงประมาณห้าถึงหกเมตร กว้างสองถึงสามเมตรปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของอู๋เฟยเยี่ยน
ถึงแม้ว่าเสาหินเหล่านี้มองดูไปล้วนเกิดจากธรรมชาติ ไม่มีร่องรอยการแปรรูปใดๆจากมนุษย์ แต่กลับเหมือนว่าไม่ควรมาปรากฏเป็นจำนวนมากอยู่ที่นี่ ราวกับว่ามีคนจงใจนำเสาหินเหล่านี้มารวบรวมเก็บเอาไว้ในที่แห่งนี้