ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5761 คุณทำอะไรโดยไม่คิดแบบนี้มาตลอดเหรอ ? (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5761
ยิ่งไปกว่านั้น หากเกิดอะไรขึ้นมา ตนก็เกรงว่าการจะปกป้องหลินหว่านเอ๋อร์ให้ปลอดภัยนั้น คงเป็นเรื่องที่ยากมากเลยทีเดียว
หลินหว่านเอ๋อร์ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเย่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่ จึงรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน ” ที่รัก คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า เตียนหนานแทบไม่มีลมพายุรุนเเรงให้ได้เห็น ที่นี่ก็ยิ่งพบเห็นได้น้อยมาก เเล้วนับประสาอะไรกับสภาพอากาศในตอนนี้ที่ท้องฟ้าออกจะปลอดโปร่งแจ่มใสขนาดนี้ล่ะ พวกเราจะพักกันเเค่คืนเดียวเท่านั้น มันจะต้องไม่มีลมพายุอย่างแน่นอน เเละต่อให้มีลมพายุที่กรรโชกแรงเเค่ไหน มันก็พัดมาไม่ถึงพวกเราอยู่เเล้ว ”
เย่เฉินคิดไม่ถึงว่า หลินหว่านเอ๋อร์จะยังไม่เลิกมีความคิดความอ่านที่ไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ดังนั้น เขาจึงจงใจพูดขึ้นว่า ” เอาอย่างนี้นะเบบี๋ พวกเราลงจากเขากันก่อน แล้วค่อยหารือกันระหว่างทางว่าเราจะเอายังไงกันดี ”
” ได้ค่ะ ! ” หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้างึกๆ ด้วยท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก พลางเอื้อมมือไปคล้องเเขนเย่เฉิน เเล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสนิทสนมเสน่หา ” งั้นพวกเราก็รีบไปกันเถอะค่ะ ฉันเกรงว่าถ้าสายไปมากกว่านี้จะไม่มีสถานที่เหมาะๆ เเล้วนะคะ ! ”
ทั้งสองหันหลังกลับและลงมาจากภูเขา เเละเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ตัวพวกเขาเเล้ว เย่เฉินจึงกล่าวขึ้น ” คุณหลิน ที่คุณพูดไปเมื่อสักครู่นี้ คงไม่ได้คิดจริงจังใช่ไหม ? ”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวด้วยท่าทางจริงจังขึงขัง
” เรียกเบบี๋ ! หัวข้อสนทนาเมื่อครู่นี้มันออกจะซีเรียสไปสักหน่อย ฉันก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย ”
เย่เฉินเองก็รู้สึกหมดคำพูดกับเรื่องนี้เช่นกัน จึงได้เเต่เอ่ยขึ้นว่า ” เบบี๋ คืนนี้คุณอยากจะตั้งแคมป์ตรงนั้นจริงๆ น่ะเหรอ ? ”
” ใช่สิคะ ! ” หลินหว่านเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง ” ถึงตอนนั้น ฉันคิดว่าอู๋เฟยเยี่ยนคงไม่นึกไม่ฝันหรอกว่า ฉันจะแฝงตัวอยู่ในที่ๆ ห่างจากเธอเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ”
เย่เฉินทำเสียงเดาะลิ้นพลางกล่าวว่า ” หากเธอรู้ว่าในร่างกายของผมมีพลังปราณทิพย์อยู่ล่ะก็ มันจะไม่เป็นการพาตัวเองว่ายน้ำเข้าไปติดร่างแหอย่างนั้นเหรอ ? ”
หลินหว่านเอ๋อร์ถามเขากลับไป ” เเล้ววิชากำลังภายในที่ท่านเอิร์ลติ้งหยวนสอนคุณ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยหรือไง ? ที่โฮมสเตย์ว่านหลิ่ว เธอก็อาศัยวิชากำลังภายในนี้ เพื่อกันไม่ให้คุณหาตัวเธอเจอไม่ใช่เหรอคะ ? ”
เย่เฉินจึงกล่าวว่า ” วิชากำลังภายในน่ะมันใช้ได้ผลอยู่เเล้ว มันช่วยให้ปราณทิพย์ถูกล็อคเอาไว้ภายในร่างกาย ไม่รั่วไหลออกมาสู่ภายนอก แต่ผมก็ไม่รู้ว่าอู๋เฟยเยี่ยนจะสังเกตเห็นมันหรือไม่ ”
” ไม่เป็นไร ” หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวด้วยความหนักแน่น ” ฉันเชื่อว่า ต่อให้พละกำลังของอู๋เฟยเยี่ยนจะแข็งแกร่งกว่าที่รักของฉันอยู่สักเล็กน้อย เเต่ก็คงเหนือกว่าพลังของคุณไปไม่กี่ขั้นหรอก ในเมื่อท่านเอิร์ลติ้งหยวนสามารถใช้มันอำพรางตัวจากคุณได้ ถ้าอย่างนั้นเเล้ว คุณเองก็สามารถเคล็ดวิชานี้อำพรางตัวจากอู๋เฟยเยี่ยนได้เช่นกัน ! ”
ในระหว่างที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น หลินหว่านเอ๋อร์ก็กล่าวเสริมขึ้นอีกว่า ” เเน่นอนว่ามันต้องมีความเสี่ยงอยู่เเล้ว แต่ฉันกลับคิดว่า ด้วยวิธีการเช่นนี้ก็เสมือนว่าเราซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของโคมไฟ ที่อยู่เบื้องหน้าของอู๋เฟยเยี่ยนนั่นเอง ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ! ”
” ในการมาหัวเซี่ยในครั้งนี้ เธอคงจะระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างมาก ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่ค่อยสันทัดในเรื่องปราณทิพย์สักเท่าไหร่ เเต่ก็พอจะเข้าใจหลักการพื้นฐานของมันอยู่บ้าง ด้วยพลังอำนาจอันล้ำค่าเช่นนี้ เธอคงไม่ผลาญมันให้สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ตามอำเภอใจหรอก มิหนำซ้ำยังต้องคอยระแวดระวังสิ่งรอบข้างอยู่ตลอดเวลา ”
” ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีใครก็ตามคิดจะใช้ปราณทิพย์ในการเสาะแสวงหาตัวผู้อื่น นั่นก็หมายความว่า เขาผู้นั้นได้เปิดเผยพลังในการฝึกบำเพ็ญของตนเอง รวมถึงเปิดเผยตำเเหน่งของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้เธอน่าจะสงสัยว่าศัตรูคู่ต่อสู้ที่ยังไม่เปิดเผยตัวของเธอนั้น อาจจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าตัวเธอเองก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นเเล้ว เธอจะต้องระมัดระวังตัวเองมากกว่าคนปกติทั่วไป ตามหลักการแล้ว ในผืนป่าอันมืดมิดเช่นนี้ คงไม่มีใครกล้าเปิดเผยตัวเองในสถานการณ์แบบนี้หรอก ดังนั้น ฉันคาดการณ์ได้ว่าอู๋เฟยเยี่ยนจะต้องหาตัวคุณไม่พบอย่างเเน่นอนที่รัก ”
เมื่อกล่าวจบ หลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดต่อขึ้นมาอีก ” อีกอย่าง คุณอย่าลืมว่ายังมีผู้ที่ชื่นชอบการตั้งแคมป์อีกมากมายที่ตั้งแคมป์อยู่กับพวกเรา เมื่ออู๋เฟยเยี่ยนมาที่นี่ ก็ต้องได้เห็นกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มาตั้งแคมป์กัน เเล้วเธอจะนึกเอะใจสงสัยขึ้นมาได้ยังไง ? เเละเหตุผลที่เธอจะต้องสงสัยมันคืออะไรกันล่ะ ? ”
เย่เฉินได้ยินดังนั้นก็ถึงกับตกใจ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า ” เอ่อ…เบบี๋ ผมขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม ? ”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มหน้าระรื่นพลางตอบ ” ถามมาได้เลยที่รัก ”
เย่เฉินถามด้วยท่าทางจริงจัง ” ตลอดหลายปีมานี้ คุณใจกล้าบ้าบิ่นแบบนี้ตลอดเลยหรือไง ? ”
” ไม่ใช่อย่างนั้น… ” หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวด้วยท่าทางขึงขัง ” ก่อนหน้านี้ ฉันเคยทำทุกวิถีทางที่จะหลบซ่อนจากอู๋เฟยเยี่ยนมาโดยตลอด เเละอู๋เฟยเยี่ยนก็รู้แก่ใจดีว่า เมื่อได้เผชิญหน้ากับฉัน เธอมีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าเเละสามารถเอาชนะฉันได้ ดังนั้น ในช่วงระยะเวลาสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมา เธอจึงอยู่ในฐานะที่สามารถจะทำสิ่งใดก็ได้ตามที่เธอต้องการ ”
ระหว่างที่กำลังพูดอยู่นั้น หลินหว่านเอ๋อร์พลันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เเล้วจึงพูดต่อไปอีกว่า ” แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ครั้งนี้เธอรู้ว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด มีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าเธอ ดังนั้น เธอจึงต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น เเละในเมื่อเธอต้องระมัดระวังตัวเช่นนี้ มันก็ทำให้ความกล้าบ้าบิ่นของเราเพิ่มมากขึ้นด้วยน่ะสิ ! “