ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5715 ดวงชะตาขี่มังกร(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5715
เย่เฉินกล่าวพึมพำอย่างอดไม่ได้: “จิ่วเสวียนจิงซวี้(บทนำตำราเก้าเสวียน)บทนำตำราเก้าเสวียน (ซวี้แปลว่าบทนำ)…..ซวี้คือซวี้ตัวไหนกันนะ?”
อานโฉงชิวกล่าว: “ซวี้ของคำนำของหนังสือ(ซวี้เหยียน) ซวี้ของบันทึกการชุมนุมของกวีเลื่องชื่อจำนวน 42 คน(หลานถิงจี๋ซวี้)”
สีหน้าของเย่เฉินตกใจ ภายในใจมีคลื่นแห่งความหวาดกลัวโหมซัดสาดขึ้นแล้ว!
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ: “บทนำตำราเก้าเสวียน นั่นก็หมายความว่า หนังสือเล่มนั้นที่พ่อได้รับ ก็คือบทนำของตำราเก้าเสวียนเทียน?”
บทนำโดยทั่วไปคือเนื้อหาคำนำก่อนที่จะเริ่มเนื้อหา อย่างเช่น ผลงานอันน่าทึ่งของหวังป๋อในตอนนั้น อันที่จริงก็คือตอนที่ผู้บัญชาการของเมืองหงโจวสร้างเถิงหวางเก๋อเสร็จ เชิญนักประพันธ์และปัญญาชนหลายท่านมาร่วมงานเลี้ยง ทุกคนร่วมกันเขียนบทความโคลงกลอน สุดท้ายค่อยนำผลงานของนักประพันธ์และปัญญาชนเหล่านี้มาจัดระเบียบเป็นบทกวีรวมเล่ม แต่ที่หวังป๋อเขียน จึงเหมือนกับเป็นการเขียนบทนำของบทกวีรวมเล่มในอนาคต
ดังนั้น เย่เฉินคิดว่า ถ้าหากหนังสือที่บิดาของเขาได้รับในตอนนั้น ชื่อว่าบทนำตำราเก้าเสวียนจริง ถ้าอย่างนั้นอาจจะเป็นบทนำของตำราเก้าเสวียนเทียนจริง!
เมื่อคิดถึงจรงนี้ เขารีบถามอีกครั้ง: “น้าชายใหญ่ หลังจากที่พ่อของผมได้รับหนังสือแล้ว เคยมีคำพูดหรือพฤติกรรมที่น้าไม่สามารถเข้าใจได้ หรือว่าทำให้น้าจำฝังใจบ้างไหมครับ?”
อานโฉงชิวครุ่นคิด กล่าว: “พฤติกรรมพ่อของหลานที่ทำให้น้าไม่สามารถเข้าใจได้มีมากเกินไป เขาค้นหาข้อมูลหนังสือโบราณมาอ่านไปทั่วทุกที่ ถึงขนาดออกไปสำรวจกับแม่ของหลานอยู่บ่อยครั้ง แต่ละครั้งที่ออกไปก็หลายสิบวันจนถึงขนาดเป็นหลายเดือน แต่ตอนนั้น น้าคิดว่าสมองของพ่อหลานมีความผิดปกติหน่อยๆแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ไปใส่ใจว่าจริงๆแล้วเขาทำอะไรบ้างสักเท่าไหร่”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นอานโฉงชิวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หลุดปากกล่าว: “ใช่แล้ว น้าจำได้ว่าพ่อของหลานเคยรำพันกับแม่ของหลานไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ยังเคยพูดว่าดวงชะตาของคนแบ่งเป็นมังกรเอยหงส์เอยอะไรสักอย่าง ยังพูดว่าดวงชะตาขี่มังกรถือเป็นใหญ่อะไรสักอย่าง มีเพียงดวงชะตาขี่มังกรเท่านั้นถึงจะสามารถขี่มังกรขึ้นสู่สวรรค์ได้อย่างแท้จริงคำพูดแปลกประหลาดจำพวกนี้”
เย่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าที่หนักแน่นจริงจัง: “ที่พ่อของผมพูด คงจะเป็นดวงชะตาชีวิตของคน ดวงชะตามังกรกับดวงชะตาหงส์”
“อาจจะใช้มั้ง”อานโฉงชิวขมวดคิ้วกล่าว: “เขาไม่ได้เอ่ยถึงสองสิ่งนี้มากนัก แต่ว่าดวงชะตาขี่มังกรกลับมักจะเอ่ยขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เหมือนกับเป็นเหมือนกับหัวข้อวิจัยปริญญาเอก เขาบ่นพึมพำอยู่ทั้งวัน สิ่งที่สำคัญคือแม่ของหลานก็ค่อนข้างหมกมุ่นเช่นกัน ทั้งสองคนเหมือนกับว่าถูกล้างสมองไปแล้ว”
เย่เฉินรีบถาม: “น้าชายใหญ่ น้ายังจำรายละเอียดอะไรอย่างอื่นได้อีกไหมครับ?”
อานโฉงชิวส่ายหน้าไปมา กล่าวอย่างปลง ๆ: “เวลาผ่านไปนานมากแล้ว จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว สิ่งที่จำได้ฝังใจที่สุดก็คือพ่อของหลานมักจะพูดกับแม่ของหลานว่าขี่มังกรขึ้นสู่สวรรค์อะไรสักอย่าง ยังมักจะพูดประมาณว่าถ้าหากไม่ได้ก็จะต้องทำยังไง จากนั้นค่อยทำยัง สุดท้ายค่อยทำยังไง พูดจากใจจริง ตอนนั้นน้ายังคิดว่าเขาสองคนเข้าร่วมองค์กรลัทธิชั่วร้ายอะไรสักอย่าง ตลอดทั้งวันเอาแต่คิดจะขึ้นสวรรค์……”
ในใจของเย่เฉินในตอนนี้ก็ยิ่งตกใจกว่าเดิม
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆว่า บิดาจะมีความเกี่ยวข้องกับด้วยเช่นกันอย่างเกินความคาดหมาย
ดวงชะตามังกร ดวงชะตาหงส์ หรือว่าที่พูดก็คือเขากับแม่?
หรือไม่ก็ ดวงชะตามังกรที่พูดก็คือตนเอง?
ถ้าอย่างนั้นดวงชะตาขี่มังกร มันคืออะไรอีก?
เย่เฉินรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในจุดบอดของความรู้ในทันที
ใน ก็ไม่ได้มีบรรยายใด ๆเกี่ยวกับดวงชะตาขี่มังกร วันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ตนได้ยินคำนี้
ยังมีอีกหนึ่งคำอย่างที่เพิ่งรู้ได้ไม่นาน นั่นก็คือท่านเอิร์ลฉางเซิ่งลูกน้องของอู๋เฟยเยี่ยน เคยเอ่ยถึงความลับอายุยืนกับตนก่อนหน้าที่จะตาย
เมื่อคิดโยงไปถึงว่าพ่อแม่ถูกท่านเอิร์ลฉางเซิ่งฆ่าตาย เย่เฉินคาดเดาในใจ ตอนนั้นพ่อแม่น่าจะเป็นเพราะได้รับของล้ำค่าหรือวิชาการฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมอะไรบางอย่างมาโดยบังเอิญ ดังนั้นถึงได้ถูกอู๋เฟยเยี่ยนจับตามอง สุดท้ายยั่วให้อู๋เฟยเยี่ยนเกิดโมโห ดังนั้นถึงได้สิ้นชีวิตที่เมืองจินหลิง
ทันทีที่คิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเย่เฉินก็นึกถึงหลินหว่านเอ๋อร์
ความลับอายุยืนหลินหว่านเอ๋อร์ไม่ชัดเจน แต่ดวงชะตาเรื่องประเภทนี้ หลินหว่านเอ๋อร์จะต้องเข้าใจมาก!
ถึงอย่างไรเธอก็มีชีวิตมาสามร้อยกว่าปีแล้ว ระดับความรู้ในคัมภีร์อี้จิงลึกซึ้งโดดเด่นเกินกว่าคนทั่วไป ต่อให้เป็นล่ายชิงหวาก็ยากที่จะไล่ตามทันได้ บางที เธอน่าจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วดวงชะตาขี่มังกรคือดวงชะตาอะไร!