ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5697 ได้ผลตามคาด!(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5697 ได้ผลตามคาด!(1)
อู๋เฟยเยี่ยนมีอายุสามร้อยกว่าปีแล้ว ไม่เคยมีความหวาดกลัวเหมือนวันนี้มาก่อน
ความหวาดกลัวที่ไม่คุ้นเคยพุ่งขึ้นในหัวใจราวกับน้ำท่วมอย่างกะทันหัน ทำให้เธอมีความรู้สึกหดหู่บางอย่างเกิดขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าเธอมีชีวิตมาสี่ร้อยปีแล้ว ถึงแม้ว่าพละกำลังของเธอยิ่งอยู่ก็ยิ่งแข็งแกร่ง อำนาจยิ่งอยู่ก็ยิ่งใหญ่ แต่ความกล้าของเธอ กลับยิ่งอยู่ยิ่งน้อยลง
หลายปีมานี้ สองเรื่องที่เธอหวาดกลัวที่สุด เรื่องหนึ่งคือตนเองแก่ขึ้นและตายไป เรื่องหนึ่งคือตัวตนของตนเองถูกเปิดโปง
ดังนั้น สมาชิกขององค์กรพั่วชิงมีมากมาย แต่คนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้มีพระคุณ กลับมีไม่มาก
นอกจากท่านเอิร์ลทั้งสี่ ที่เหลือ ไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดล้วนเป็นคนตระกูลอู๋
แต่คนตระกูลอู๋เหล่านั้น ทั้งหมดเป็นคนรุ่นหลังในวงศ์ตระกูลเดียวกันกับอู๋เฟยเยี่ยน คนเหล่านี้ชีวิตล้วนพึ่งพาอาศัยอู๋เฟยเยี่ยนถึงได้มีขีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่า ดังนั้นความจงรักภักดีที่มีต่ออู๋เฟยเยี่ยนก็สูงมาก
ส่วนคนในตระกูลอู๋ คนที่ทรยศพวกนั้นก็มีจำนวนน้อย อู๋เฟยเยี่ยนก็ไม่เคยมีความเมตตาต่อพวกเขา ที่ควรฆ่าก็ฆ่า ส่วนบางคนที่โทษไม่ถึงตาย ก็ฆ่าไม่เว้น มือเปื้อนไปด้วยเลือด
อีกอย่าง คนตระกูลอู๋สำหรับเธอ ก็สงวนท่าทีเอาไว้เช่นกัน
คนตระกูลอู๋รู้เพียงแค่เธอมีพลังวิเศษ อีกทั้งยังได้รับความอายุยืน แต่กลับไม่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วพลังวิเศษนี้มาจากอาจารย์ท่านใด
ท่านเอิร์ลทั้งสี่ก็นเช่นเดียวกัน รู้ว่าเธอมีชีวิตอยู่มาสี่ร้อยปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า อาจารย์ของเธอแท้ที่จริงแล้วเป็นใครกันแน่
ในขณะที่อู๋เฟยเยี่ยนกำลังอยู่ในความหวาดกลัว ก็คิดข้อนี้ขึ้นได้เช่นกัน
เดิมทีเธอยังคิดว่า เป็นเพราะท่านเอิร์ลติ้งหยวนหยุนหรูเกอไม่ตาย แต่เปิดเผยข้อมูลของตนเองให้แก่ศัตรูที่อยู่ในที่ลับทราบ
แต่เมื่อลองคิดดูอย่างละเอียด ตนเองยังไม่เคยบอกเธอ ว่าอาจารย์ของตนเองเป็นใคร
คนที่รู้ว่าตนเองเรียนจากเมิ่งฉางเชิง นอกจากตนเองแล้ว บนโลกใบนี้มีคนจำนวนน้อยมากๆ
คนหนึ่ง คือตัวของเมิ่งฉางเชิงเอง
คนหนึ่ง เป็นหลินจู๋ว์หลูศิษย์พี่ที่เธอเคยรักมาก
ยังมีอีกหนึ่งคน เป็นลูกสาวของหลินจู๋ว์หลู หลินหว่านเอ๋อร์
คนที่เหลือ ก็เป็นคนตระกูลอู๋ส่วนน้อย รวมทั้งท่านเอิร์ลทั้งสี่
ท่านเอิร์ลทั้งสี่ในตอนนี้ตายไปแล้วสามคน ท่านเอิร์ลเจี้ยนกง ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งสามารถยืนยันว่าตายไปแล้ว มีเพียงหยุนหรูเกอที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แต่อู๋เฟยเยี่ยนคิดว่า ต่อให้หยุนหรูเกอไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส ความเป็นไปได้ในการเปิดโปงตัวตนของเธอไม่มาก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ อู๋เฟยเยี่ยนก็เบิกตาโพลงทันที ขบกรามแน่นกล่าวเสียงเย็นชา: “หลินหว่านเอ๋อร์……หรือว่าเป็นเธอที่เปิดโปงข้อมูลของฉัน?!”
ทันทีที่คิดถึงตรงนี้ อู๋เฟยเยี่ยนหวนรำลึกถึงรายละเอียดหนึ่งขึ้นมาทันที บ่นพึมพำกับตัวเอง: “ครั้งก่อนมอบหมายให้คนไปจับตัวหลินหว่านเอ๋อร์ เธอมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือ ให้หลบหนีไปได้ แต่ครั้งนั้นคนที่มอบหมายไป ก็คือทหารม้ากล้าของไซปรัส แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท่านเอิร์ลเจี้ยนกงก็ตายในกองกำลังทหารหน่วยกล้าตายของไซปรัส ทั้งทหารหน่วยกล้าตายกับทหารม้ากล้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย……หรือว่า……หรือว่าหลินหว่านเอ๋อร์คนนี้จะหาคนหนุนหลังได้แล้วจริงๆ?!”
“ถ้า……ถ้าอย่างนั้นภาพวาดของอาจารย์ จะมาจากที่ไหนกัน? หลินหว่านเอ๋อร์ไม่เคยพบอาจารย์ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดที่เธอจะรู้ว่าอาจารย์มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ดังนั้นภาพวาดนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่เป็นฝีมือเธอ……”
“หรือว่า คนที่ช่วยเขา ก็คือผู้วาดภาพวาดนี้?!”
ทันทีที่อู๋เฟยเยี่ยนผุดความคิดนี้ขึ้น ภายในใจก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้ทันที เธอกล่าวพึมพำกับตัวเอง: “ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ คนลึกลับคนนี้เหมือนกับเป็นผู้หนุนหลังของตระกูลอาน แต่ไม่ใช่ผู้หนุนหลังของหลินหว่านเอ๋อร์ คนนี้เคยช่วยตระกูลอานที่นครนิวยอร์ก แล้วก็ช่วยตระกูลอานที่เมืองจินหลิง ดูเหมือนว่าจะคอยปกป้องอยู่ข้างกายของคนตระกูลอานมาตลอด ในเมื่อเขาใส่ใจความปลอดภัยของคนตระกูลอานขนาดนี้ แล้วจะยังปลีกตัวไปปกป้องหลินหว่านเอ๋อร์ที่ยุโรปเหนือได้ยังไง?”
“แต่ถ้าหากไม่ใช่หลินหว่านเอ๋อร์เปิดโปงตัวตนของฉัน คนนั้นจะรู้ตัวตนของฉันได้อย่างไร?! หรือว่า……หรือว่าเขาเคยไปเจออาจารย์ที่ภูเขาแสนลี้ รู้การมีตัวตนของฉันจากอาจารย์ หลังจากที่อาจารย์รับพวกเราเป็นศิษย์?!”
“แต่ว่า ผ่านไปหลายปีแล้ว ทำไมเขาไม่เคยปรากฏตัวเลย แล้วก็เลือกปรากฏตัวในเวลานี้นะ?!”
“สิ่งที่ยิ่งไม่สามารถอธิบายได้ก็คือ ถ้าหากคนนี้เป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์รับไว้เมื่อห้าร้อยปีก่อน ถ้าอย่างนั้นต่อให้เขาเป็นศิษย์พี่ของฉันอู๋เฟยเยี่ยน พละกำลังจะต้องมากกว่าฉันอย่างแน่นอน คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ทำไมยังต้องไปปกป้องคนตระกูลอานด้วย? คนตระกูลอานตัวเล็กๆ มีดีอะไร?!”
อู๋เฟยเยี่ยนในเวลานี้ หัวสมองมีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันที หลุดปากร้องอย่างตกใจ: “หรือว่าเขาก็อยากตามหาความลับอายุยืนเหมือนกัน?!”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หว่างคิ้วของอู๋เฟยเยี่ยนขมวดเข้าหากันแน่นอีกครั้ง แอบบ่นพึมพำกับตนเอง: “ถ้าหากเขาก็อยากจะตามหาความลับอายุยืนเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่น่าจะปกป้องตระกูลอาน……”
ทันใดนั้น เงื่อนงำที่ไม่ชัดเจน ไม่กระจ่างแจ้งต่างๆ สลับทับซ้อนกัน ทำให้อู๋เฟยเยี่ยนรู้สึกว่า พื้นที่สมองของตนเองไม่พอใช้แล้ว
แต่ว่า มีอย่างหนึ่งที่เธอสามารถมั่นใจได้ นั่นก็คือ อีกฝ่ายนำภาพวาดนี้ออกมาได้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าก็คือให้สัญญาณเตือนอย่างหนึ่งแก่อู๋เฟยเยี่ยน ถ้าหากเธออู๋เฟยเยี่ยนยังกัดตระกูลอานไม่ปล่อย ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายจะต้องได้เห็นดีกันอย่างแน่นอน