ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5614 เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง(1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5614 เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง(1)
เวลาสามทุ่ม โฮมสเตย์ว่านหลิ่ว
ตระกูลอานในตอนนี้เพิ่งจะทานมื้อค่ำกันเสร็จ และได้ตามหลี่ญ่าหลินมา เพื่อวิเคราะห์ถึงเบาะแสที่ได้รวบรวมมาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ในห้องนั่งเล่น
คุณท่านอานฉี่ซานในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็เฝ้าอยู่ที่ในวิลล่าไม่ได้ออกไปไหน สภาพร่างกายนั้นก็ดีขึ้นอย่างมาก ความทรงจำไม่เพียงไม่ได้ถดถอย แต่ยังค่อยๆฟื้นคืนและค้นพบกับบางส่วนที่หลงลืมไปอีกด้วย
ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ หลังจากที่อาการป่วยนั้นฟื้นตัวแล้ว ตรรกะทางความคิดก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก กลยุทธ์การวางแผนโจมตีก็กลับคืนมา เป็นมันสมองคอยชี้นำแผนการและแนวทาง
ในการประชุมภายในของครอบครัวนี้ ก่อนอื่นเลยเป็นอานโฉงชิวเองที่พูดแนะนำขึ้นก่อนถึงความคืบหน้าของการร่วมมือกันกับซ่งซื่อกรุ๊ป
อานโฉงชิวกล่าวว่า “การร่วมมือกันของเรากับตระกูลซ่ง ในตอนนี้ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทีมกฎหมายของทั้งสองฝ่ายจะเจรจาเกี่ยวกับรายละเอียดของความร่วมมือ โดยหลักแล้วก็จะเน้นเรื่องข้อกำหนดของความร่วมมือ แต่ในครั้งนี้นั้นตระกูลอานของเรามีความจริงใจอย่างเต็มที่ ดังนั้นบรรยากาศของการเจรจาก็จึงเต็มไปด้วยสมัครสมาน ไม่มีรายละเอียดที่ต้องโต้แย้งกันไปมา ขอแค่ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบเงื่อนไขก็สามารถจะลงนามเซ็นสัญญา และเริ่มงานได้เลยทันที”
คุณท่านพยักหน้าให้เบาๆ แล้วกล่าวว่า“ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ ซ่งซื่อกรุ๊ปนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งกับตระกูลอานของเรา ผู้มีพระคุณถึงขั้นทิ้งเบาะแสของซ่งซื่อกรุ๊ปไว้ให้ คาดว่าจากตระกูลซ่ง อยากจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบางอย่างกับพวกเรา ก็ยังต้องการให้พวกเราช่วยสนับสนุนตระกูลซ่งด้วย ”
พูดจบ คุณท่านก็หันมองไปยังลูกชายคนรองอานข่ายเฟิง แล้วพูดว่า“ตามหลักแล้ว ความร่วมมือทางธุรกิจภายนอกทั้งหมดของตระกูลอาน เป็นข่ายเฟิงที่ดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ ความร่วมมือกันกับซ่งซื่อกรุ๊ป มันไม่ใช่ธุรกิจในเชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ตระกูลอานของเราใช้มันเป็นบันได บวกกับโฉงชิวกับคุณซ่งของซ่งซื่อกรุ๊ปนั้นก็ถือว่าเป็นคนรู้จักเก่า ดังนั้นเรื่องนี้ จะมีโฉงชิวเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้นจนจบไปเลยแล้วกัน!”
อานฉี่ซานนั้นเป็นคนที่แสวงหาความสามัคคีและสมัครสมานภายในครอบครัวมาโดยตลอด ดังนั้นเขาก็จึงแบ่งหน้าที่งานให้ลูกชายและลูกสาวได้ทำ ให้งานที่พวกเขาทุกคนต้องรับผิดชอบนั้นเป็นไปอย่างชัดเจน
จุดประสงค์ของการทำเช่นนี้ ในตอนที่ลูกๆสมัครสมานสามัคคีกันนั้น ทุกคนจะสามารถแทรกซึมกันและกันในทุกระดับชั้น คอยช่วยเหลือกัน แต่หากไม่สามัคคีกัน ก็จะสามารถตรวจทานกัน และยับยั้งกันได้
ครั้งนี้ให้อานโฉงชิวรับผิดชอบโครงการความร่วมมือของซ่งซื่อกรุ๊ป ถึงเขาจะรู้ว่าอานข่ายเฟิงนั้นไม่คัดค้านใดๆ แต่ก็ต้องพูดอธิบายเหตุผลของการกระทำนี้ให้ชัดเจน
อานข่ายเฟิงเองก็ย่อมต้องรู้ถึงจุดประสงค์ของคนเป็นพ่อ ดีที่เขาไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองใดๆกับการที่พี่ชายใหญ่ต้องมาดูแลโครงการนี้เลยแต่อย่างใด เพราะลูกทุกคนของตระกูลอาน รักใคร่กลมเกลียวกันมาโดยตลอด ภายใต้ผลกระทบของพี่หญิงใหญ่อานเฉิงซีเมื่อหลายปีก่อน พี่น้องทุกคนก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน แม้ทุกคนต่างจะมีครอบครัวกันแล้ว และทำให้สมาธิกับเวลาของทุกคนนั้นถูกกระจายตัวไป แต่การตายของอานเฉิงซี กับเรื่องที่ตระกูลอานถูกองค์กรพั่วชิงตามฆ่าเมื่อครั้งก่อนนั้น ก็ทำให้ตระกูลอานสมัครสมานสามัคคีกันยิ่งขึ้น
ในตอนนี้เอง อานข่ายเฟิงก็กระแอมไอ แล้วเอ่ยพูดว่า“พ่อ หลายวันนี้ ผมกับโยวโยว ได้คัดแยกทุกสาขาอาชีพในเมืองจินหลิง โดยเฉพาะการขนส่งสาธารณะ สวัสดิการสังคมและทะเบียนราษฎร์ของเมื่อปีนั้น แต่จนถึงในขณะนี้ ก็ยังไม่พบเจอข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับเฉินเอ๋อเลย ”
คุณท่านถอนหายใจเบาๆ ผลลัพธ์ที่ได้นี้ เขาได้คาดการเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ในตอนนี้เองนายหญิงใหญ่อานก็พูดปลอบว่า“ข่ายเฟิง พวกเราเองก็อย่าเพิ่งถอดใจไป ยังไงเฉินเอ๋อก็หายตัวไปนานกว่ายี่สิบปีแล้ว ไม่มีทางจะใช้เพียงเวลาสั้นๆแล้วจะตามหาตัวเจอได้แน่ ก่อนมาแม่ก็ได้บอกพวกเราทุกคนไปแล้ว เรื่องการตามหาตัวเฉินเอ๋อ ไม่แน่ว่าอาจต้องใช้เวลาอีกกว่ายี่สิบปีเลยก็เป็นได้”
อานข่ายเฟิงพยักหน้าให้เบาๆ พูดอย่างมุ่งมั่นว่า“แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ในใจของผม เรื่องการตามหาตัวเฉินเอ๋อนั้นผมจัดให้อยู่ในอันดับแรกเลย ”
อานโยวโยวที่อยู่ข้างๆจู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยพูดว่า “เอ่อนี่แม่ หนูเจอเรื่องที่แปลกประหลาดมากอย่างหนึ่ง รู้สึกผิดปรกติด้วย แม่กับพ่อ และพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามทุกคนช่วยฉันวิเคราะห์หน่อย ”
นายหญิงใหญ่กล่าวว่า “โยวโยวว่ามาสิ”
อานโยวโยวพูดว่า“วันนี้หนูตรวจเช็กสถานะบางอย่างของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง อยากจะเช็กดูว่าหลายปีที่ผ่านมา เด็กกำพร้าที่พวกเขาได้เคยให้ความช่วยเหลือ จะมีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับเฉินเอ๋อหรือเปล่า แฟ้มข้อมูลของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนนี้นั้นไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับเฉินเอ๋อเลย แต่ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อปีที่แล้วสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงได้มีการเปลี่ยนคนในองค์กรครั้งใหญ่ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตลอดจนแม่ครัวของพวกเขาเอง ก็เปลี่ยนใหม่กันแบบยกชุด พนักงานเก่านั้นไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว หนูรู้สึกว่าเรื่องนี้มันดูแปลกๆอย่างมาก หากบุคลากรของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่มาเปลี่ยนกันแบบยกชุดแบบนี้ มันดูจะเหลือเชื่อเกินไป ทุกคนมีความเห็นยังไงคะ?”