ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5584 โชคดี (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5584 โชคดี (1)
หลังจากจางเอ้อเหมาวางสายจ้าวเหล่าซื่อ ก็รายงานสถานการณ์ให้เย่เฉินทันที
เย่เฉินที่ได้รับสาย ได้มาถึงโรงแรมน้ำพุร้อนช็องเซลีแล้ว
เนื่องจากช็องเซลีเซียนสปาไม่ไกลจากโฮมสเตย์ว่านหลิ่วที่คุณตากับคุณยายพักอยู่นัก ดังนั้นเย่เฉินจึงตั้งใจว่าช่วงระยะเวลานี้ของต่อจากนี้ จะเฝ้าอยู่ที่เท่าที่เป็นไปได้ เพื่อป้องกันหากว่ามีเรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เขาให้เฉินจื๋อข่ายจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยที่มีสมรรถนะทนทานมากรอคำสั่งอยู่ที่นี่ทุกเมื่อลำหนึ่ง หากว่ามีความต้องการ เฮลิคอปเตอร์ก็สามารถออกบินได้ทันที สองสามนาทีก็ถึงโฮมสเตย์ว่านหลิ่ว
ตอนที่เย่เฉินได้ยินจางเอ้อเหมาพูด ว่ามีคนยินดีออกเงินสามล้านซื้อแหวนปานจื่อที่ตัวเองทำที่สนามบิน เขาตกตะลึงในทันที
เขารู้ คนนั้นที่ตัวเองคอยได้มาแล้ว !
เขาเดาได้ว่าคนขององค์กรพั่วชิงจะมาเมืองจินหลิงอย่างแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาไวขนาดนี้ !
คราวนี้ จางเอ้อเหมาถามเย่เฉินในสาย : “อาจารย์เย่ คาดการณ์ว่าคนนั้นจะมาที่ตลาดของโบราณจากสนามบินแล้ว หากว่าอีกเดี๋ยวเขามาหาผม ผมต้องระวังอะไรไว้ไหมครับ ?”
เย่เฉินพูดราบเรียบ : “หากว่าเขาเสนอราคาซื้อไม้ฟาดสายฟ้าชิ้นนั้นที่ฉันซื้อให้นาย นายเสนอราคาไปห้าล้าน หากว่าเขาเต็มใจเอา นายก็ขายให้เขาไป”
จางเอ้อเหมารีบถามอีกครั้ง : “อาจารย์เย่ คนคนนี้น่าจะเป็นคนที่คุณต้องการตามหาสินะครับ ? ผมต้องส่งคนไปจับตาดูเขาไว้ไหมครับ ?”
“ไม่ต้องหรอก” เย่เฉินกำชับ : “นายสนแค่ขายของให้เขาก็พอ ไม่ต้องสนใจอะไรอย่างอื่นหรอก”
จางเอ้อเหมาคบค้ากับท่านเอิร์ลขององค์กรพั่วชิงโดยตรง สำหรับจางเอ้อเหมาแล้ว ขอเพียงเขาไม่ถูกคนมองเส้นสนกลในออก ก็จะไม่มีอันตรายอะไรอย่างแน่นอน
เนื่องจากยิ่งเป็นคนที่แบกรับภารกิจสำคัญ ยิ่งไม่มีทางที่จะเพิ่มความเสี่ยงส่วนเกินให้ภารกิจอันสำคัญของตัวเองหรอก ดังนั้น หากว่าท่านเอิร์ลนั่นมาหาจางเอ้อเหมาเพื่อซื้อยันต์ฟ้าร้องเพียงเท่านั้น ก็จะไม่เป็นภัยกับจางเอ้อเหมาอย่างแน่นอน
แต่หากว่าจางเอ้อเหมาถูกอื่นฝ่ายมองเส้นสนกลในออก นั่นก็เป็นอีกเรื่องแล้ว
มีความเป็นไปได้สูงมากว่า คนคนนั้นจะเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเป็นใครกันแน่ที่กำลังวางอุบายให้เขา โดยยึดจางเอ้อเหมาเป็นจุดบุกทะลวง
เพื่อไม่ให้จางเอ้อเหมาโดนอีกฝ่ายมองทะลุ เย่เฉินจึงให้จุดสังเกตทางจิตวิทยาแก่เขา หากว่ามีคนถามเขาเกี่ยวกับความเป็นมาของไม้ฟาดสายฟ้าชิ้นนั้น เขาก็จะเชื่ออย่างหนักแน่นจากใจว่า ของชิ้นนั้นขุดดิบออกมา
คำพูดแบบนี้ จางเอ้อเหมาที่คบค้ากับท่านเอิร์ลขององค์กรพั่วชิง ก็สามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน
เย่เฉินนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้กะทันหัน ตอนแรกตัวเองทำยันต์ฟ้าร้องชิ้นนั้นเป็นเครื่องมือทางธรรมแบบใช้แล้วทิ้ง โดยจะแตกสลายหลังจากใช้ไปแล้ว เพื่อที่ว่าหลังจากอีกฝ่ายมาถึงเมืองจินหลิง ก็จะใช้ประโยชน์จากยันต์ฟ้าร้องให้เตือนตำแหน่งของเขาให้ตัวเองได้เลย
แต่ว่าตอนนี้ลองคิดดู หลินหว่านเอ๋อร์เองบอกว่าตัวเองอาจจะมีอันตราย นั่นก็หมายความว่า ตัวเองกับเขายากที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้
หากว่าเป็นแบบนี้ แนวคิดในการโต้ตอบของเหตุการณ์ทั้งหมดนั่น เกรงว่าจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
และยันต์ฟ้าร้องที่เตรียมไว้ให้เขาเรียบร้อยแล้วนั้น มิสู้สั่งทำให้แขกที่มาจากแดนไกลคนนี้ในระดับลึกซึ้งให้เต็มที่อีก
คิดถึงตรงนี้ เขาก็นั่งเฮลิคอปเตอร์มุ่งไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงที่ตั้งอยู่เขตเมืองทันที ในขณะเดียวกันก็โทรหาจางเอ้อเหมา และกำชับเขา : “จางเอ้อเหมา ตอนนี้นายรีบเอาไม้ฟาดสายฟ้าชิ้นนั้นที่ฉันให้นายไป แล้วมาพบฉันที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงเดี๋ยวนี้ ยิ่งเร็วยิ่งดี”
จางเอ้อเหมาห่างจากโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง เมื่อขี่รถพลังงานไฟฟ้าเป็นระยะทางที่ต้องการเพียงห้าหกนาทีเท่านั้น ส่วนเวลาที่เย่เฉินบินมาก็พอ ๆ กัน แต่อีกฝ่ายอยากไปที่ตลาดของโบราณจากสนามบิน อย่างน้อยก็ต้องสามสิบสี่สิบนาที
และตอนนี้ ระยะห่างของข้อมูลที่เขาสอบถามจากจางเอ้อเหมา ก็เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง บางทีตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ขึ้นรถแท็กซี่ด้วยซ้ำ ดังนั้นตัวเองยังมีเวลาเพียงพอ
ไม่นานนัก เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็ออกบินจากโรงแรมน้ำพุร้อนช็องเซลี มุ่งหน้าไปโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงด้วยความเร็วที่ไวที่สุด