ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5582 อย่างไรถึงจะได้พบเขา ? (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5582 อย่างไรถึงจะได้พบเขา ? (1)
“คุณต้องการซื้อ ?”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพยักหน้า : “ใช่ ฉันต้องการซื้อ รบกวนเธอแจ้งราคาหน่อย !”
จ้าวเหล่าซื่อได้ยินท่านเอิร์ลฉางเซิ่งถามราคา จึงนึกถึงกำชับเมื่อก่อนหน้านี้ของจางเอ้อเหมา
ไม่ว่าใครต้องการแหวนปานจื่อวงนี้ ต้องเสนอราคาสูงลิ่วซึ่งเหนือกว่าราคาตลาดหนึ่งร้อยเท่า
จ้าวเหล่าซื่อไม่เข้าใจว่าทำไมจางเอ้อเหมาต้องทำขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ตามเป็นการเอาเงินจากคน ทำงานแทนคนอื่น ตัวเองไม่ใช้การดำเนินการตามแผนการไม่ได้หรอก อย่างไรซะตัวเองเพียงแค่มารับคน ตาแก่อยากได้แหวนปานจื่อวงนี้จริง ก็ต้องไปคุยกันซึ่ง ๆ หน้ากับจางเอ้อเหมา
ครั้นแล้ว เลยคิดอยู่ในใจเล็กน้อย แหวนหยกปานจื่อวงนี้มีมูลค่าสูงสุดอยู่ที่สามถึงห้าหมื่น เสนอหนึ่งร้อยเท่า ก็อยู่ช่วงระหว่างสามถึงห้าล้านนี้
คิดถึงตรงนี้ เขาก็กรอดฟัน ผมคาดว่าอย่างน้อยก็ต้องสามล้าน !”
“สามล้าน ?” ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าเขาเก็บตัวฝึกฝนมาตลอดปี และไม่ค่อยได้ออกมาทำงานข้างนอก แต่ว่าสามล้านมีความหมายว่าอะไร เขารู้ดี แหวนปานจื่อวงแค่นี้ เสนอราคาขายสามล้าน อำมหิตเกินไปหน่อยจริง ๆ
แต่ว่าดีที่ค่าใช้จ่ายประจำขององค์กรพั่วชิงมีจำนวนเพียงพอ ไม่ต้องพูดถึงหลายล้าน ต่อให้เป็นหลายร้อยล้าน ก็ไม่นับว่ามากมายอะไรสำหรับท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง
ครั้นแล้ว เขาจึงถามจ้าวเหล่าซื่อ : “หากว่าฉันต้องการละก็ เราทำธุรกิจกันตอนนี้ได้ไหม ?”
จ้าวเหล่าซื่อรู้สึกตกใจ นึกไม่ถึงว่าตาแก่นี้ยังมีความคิดต้องการซื้อจริง !
ครั้นแล้ว เขาจึงเอ่ยปากบอก : “หากว่าคุณอยากซื้อจริง งั้นก็ต้องไปคุยกันซึ่ง ๆ หน้ากับพี่ผมแล้ว ผมตัดสินใจสถานการณ์โดยละเอียดเองไม่ได้”
ว่าแล้ว เขาก็ถามท่านเอิร์ลฉางเซิ่ง : “คุณท่าน สามล้านราคานี้เป็นเพียงการเสนอราคาขั้นต้นเพียงเท่านั้น และเป็นเพียงราคาที่ต่ำที่สุดด้วย ไม่มีเพดานราคา หากว่าคุณยอมรับได้ ผมจะโทรเสนอพี่ของผมให้ หากว่ายอมรับไม่ได้ เราก็อย่าเสียเวลากันเลย”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพยักหน้าเบา ๆ แล้วทำมือว่าเชิญแล้วบอก : “สามล้าน ฉันรับได้”
จ้าวเหล่าซื่อรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออก แต่ว่าเขายังคงพูดกับท่านเอิร์ลฉางเซิ่งอย่างระแวดระวัง : “คุณท่าน คุณคืนแหวนปานจื่อให้ผมก่อน ผมจะไปโทรหาพี่ผมให้”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งทำได้แต่คืนแหวนปานจื่อกลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์
จ้าวเหล่าซื่อหยิบแหวนปานจื่อกลับไป และเดินออกไปไกลหน่อย เมื่อมั่นใจว่าท่านเอิร์ลฉางเซิ่งไม่ได้ยิน คราวนี้จึงจะควักมือถือออกมาแล้วโทรไปหาจางเอ้อเหมา
เมื่อโทรติด จ้าวเหล่าซื่อจึงจะพูดด้วยเสียงที่กดให้ต่ำลงทันที : “พี่เอ้อเหมา มีคนอยากซื้อแหวนปานจื่อวงนั้นที่พี่ให้ผมครับ”
จางเอ้อเหมาถาม : “นายเสนอราคาให้เขาไปเท่าไหร่ ?”
จ้าวเหล่าซื่อกดเสียงให้ต่ำลง แล้วพูดเบา ๆ : “ที่ผมเสนอให้เขาไปคือสามล้านขั้นต่ำสุด เขา……เขาบอกว่ารับได้ครับ……”
จางเอ้อเหมาส่งเสียงอ้อ หน้าที่ตลาดของโบราณแล้วกัน”
“ได้เลยครับ !” จ้าวเหล่าซื่อตอบรับอย่างสบาย ๆ จากนั้นก็เอ่ยปากถามอีกว่า : “พี่เอ้อเหมา ผมพูดอธิบายให้คุณท่านคนนี้ไปมากเลยเชียว หากว่าแหวนปานจื่อได้ตกลงการค้าขายในราคาสามล้านจริง พี่ต้องจดความดีความชอบให้ผมด้วยนะ !”
“วางใจได้” จางเอ้อเหมาพูดโดยไม่ต้องคิดเลย : “ไม่ว่าตกลงการค้าขายในราคาเท่าไหร่ ก็จะให้ค่าตอบแทนนายสิบเปอร์เซ็นต์ !”
“จริงหรือครับ ? !” จ้าวเหล่าซื่อตื่นเต้นจนหัวใจเกือบจะเด้งออกมาอยู่แล้ว หนึ่งส่วนสิบของสามล้าน นี่คือสามแสนเชียวนะ ! ตัวเองเหนื่อยจะเป็นจะตายมาหนึ่งปี ก็หาเงินมากขนาดนี้ไม่ได้……
จางเอ้อเหมาพูดพร้อมกับอมยิ้มไปด้วยในตอนนี้ : “ฉันเคยโกหกนายซะเมื่อไหร่ หากว่านายยังสามารถแนะนำให้ลูกค้ารายใหญ่ ให้ซื้อของอย่างอื่นในมือฉันไปได้ด้วยเหมือนกัน ถึงตอนนั้นฉันจะเพิ่มให้นายอีกห้าส่วน !”
จ้าวเหล่าซื่อรู้สึกดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วรีบพูด : “ได้เลยครับพี่เอ้อเหมา มีประโยคนี้ของพี่ ผมจะหลอกให้พี่อย่างเต็มที่แน่นอน อ้อไม่สิ แนะนำให้พี่อย่างเต็มที่ครับ !”
จางเอ้อเหมาพูดเตือน : “นายอย่าเอาแต่สนใจคุยกับลูกค้า สนใจมองสนามบินหน่อย ลูกค้ารายใหญ่ของเกาะฮ่องกางยังไม่แน่นอนว่าจะมาเมื่อไหร่ นั่นจึงจะเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินรายใหญ่ที่แท้จริงนะ !”
“วางใจเถอะครับพี่เอ้อเหมา !” จ้าวเหล่าซื่อพูดด้วยความตื่นเต้น : “ผมจะไม่ทำพังอย่างแน่นอนครับ !”