ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5557 ดูมีของจริงๆ (1)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5557 ดูมีของจริงๆ (1)
ในตอนนี้ เมืองจินหลิงก็เป็นเวลามืดค่ำแล้วเช่นกัน
หม่าหลันทำมื้อค่ำเสร็จ ก็กำลังจะเรียกเย่เฉินกับเซียวชูหรันมากินข้าว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะพูดบ่นขึ้นมา“นี่ก็สองทุ่มแล้ว เซียวฉางควนไอ้คนไม่เอาไหนไม่รู้หรือยังไง?กลับมาบ้านแล้วไม่รู้ไปไหนอีก!”
เย่เฉินพูดอย่างเป็นกันเอง“แม่ครับ ตอนนี้พ่อเป็นรองประธานาธิบดีสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดแล้ว ก็ย่อมต้องยุ่งเป็นธรรมดา แม่ต้องเข้าใจให้มากๆด้วย ”
หม่าหลันพูดอย่างไม่พอใจ“ให้ฉันเข้าใจเขาบ้าบออะไรล่ะ เขาเป็นอะไร ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง?ให้เขารับตำแหน่งรองประธานาธิบดี ฉันว่าสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดนี้ก็ตาบอดมากๆแล้วเหมือนกัน ”
ในขณะที่กำลังพูดอยู่ เซียวฉางควนก็เปิดประตูเข้ามา
เซียวชูหรันรีบเอ่ยเรียกคนเป็นพ่อ“พ่อค่ะ ไปล้างมือแล้วมากินข้าวกันเร็ว !”
เซียวฉางควนเอ่ยถามออกมา“ทำอะไรกิน?มีอะไรน่ากินบ้าง?”
หม่าหลันพูดไปด่าไป“กระดองเต่าน่ากิน กินไหม?หากจะกินพรุ่งนี้จะทำให้กินสองตัว !”
ทันทีที่เซียวฉางควนได้ยินคำพูดของหม่าหลันก็ปวดหัวขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า“เธอนี่มันงาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัขจริงๆ”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องอาหาร เดินไปล้างมือที่อ่างล้างจานในห้องครัวฝรั่ง แล้วก็จึงเดินออกมานั่งลงบนเก้าอี้ พูดกับเย่เฉินว่า“นี่พ่อลูกเขย เราลองเดาดูว่าวันนี้ฉันไปเดินตลาดของโบราณแล้วไปเจอใครมา ?”
เย่เฉินพูดอย่างสบายๆ“ก็ต้องเป็นจางเอ้อเหมาอยู่แล้ว จะเป็นใครได้อีกล่ะครับ?”
เซียวฉางควนพูดอย่างประหลาดใจ“ใช้ได้นะพ่อลูกเขย รู้ไปซะทุกอย่างอย่างเหลือเชื่อจริงๆ!”
เย่เฉินหัวเราะ “พ่อครับ อย่าว่าแต่ผมรู้ว่าจางเอ้อเหมากลับไปที่ตลาดของโบราณแล้วเลย ต่อให้ผมไม่รู้ พ่อถามมาแบบนี้ ก็ย่อมต้องเป็นจางเอ้อเหมาอยู่แล้ว เรารู้จักกันทั้งคู่ ขายของเก่าที่ตลาดของโบราณ นอกจากเขาแล้วจะเป็นใครไปได้อีกล่ะครับ”
“ก็ใช่”เซียวฉางควนพยักหน้ารับ จากนั้นก็นึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตลาดของโบราณ ถอนหายใจแล้วกล่าว“จางเอ้อเหมาคนนี้ นับวันก็ยิ่งจะหน้าเลือดขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เขาเปิดร้าน แล้ววางขายไม้ฟาดสายฟ้าท่อนหนึ่ง ฉันถามเขาว่าขายเท่าไร พออ้าปากได้ก็พูดโพล่งออกมาว่าห้าล้าน นี่มันไส้แห้งจนเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?”
พูดจบ เขาก็นึกถึงอะไรบางสิ่ง และพูดต่อ“เอ่อนี่ พ่อได้ยินว่าก่อนหน้านั้นจางเอ้อเหมาไม่ได้ทำเกี่ยวกับพวกของเก่านี้แล้ว แต่ไปคอยติดตามท่านหงห้า มาตอนนี้คืออยู่ต่อกับท่านหงห้าไม่ไหวแล้วหรือยังไง?หรือต้องการจะใช้วิถีซื้อขายของโจรในสังคมอิทธิพลมืดมาใช้ในวงการของโบราณอย่างนั้นเหรอ?”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม“พ่อ จะไปสนใจจางเอ้อเหมาทำไม ไม้ฟาดสายฟ้าท่อนหนึ่ง เขาอยากจะขายเท่าไรก็ปล่อยเขา ขายแพงไปก็ไม่มีคนมาซื้ออยู่ดี ในฐานะที่พ่อคร่ำหวอดอยู่ในวงการของโบราณมานาน พ่อเคยได้ยินคนโง่ที่ไหนยอมจ่ายเงินห้าล้านเพื่อซื้อไม้ฟาดสายฟ้าท่อนหนึ่งหรือเปล่าล่ะครับ?”
เซียวฉางควนเม้มริมฝีปากและพยักหน้ารับ พูดด้วยรอยยิ้มว่า“ที่พูดมาก็ถูก”
หม่าหลันที่อยู่ข้างๆเอ่ยถามขึ้นว่า“เซียวฉางควน ตอนนี้แกคิดจะกลับไปซื้อขายของเก่าอีกแล้วเหรอ?”
เซียวฉางควนเหล่ตามองเธอไปแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างขอไปทีว่า“ฉันไม่ใช่พ่อค้าขายของเก่าสักหน่อย กลับไปซื้อขายของเก่าอะไร?ก็แค่ตาดีเท่านั้น ในวงการนี้ก็ถือว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์โดดเด่น ให้ฉันสบโอกาสบ้างในบางครั้ง พอออกไปก็ได้เจอกับของดีเข้า ”
“อย่างแกนี่นะ?”หม่าหลันพูดอย่างดูถูก“ออกจากบ้านไป ไม่ก่อเรื่องสร้างปัญหาก็ถือว่าต้องขอบคุณพระเจ้าแล้ว!”
“เธอจะไปรู้อะไร!”เซียวฉางควนมองค้อนเธออย่างดูแคลน จากนั้นก็พูดกับเย่เฉิน“เอ่อนี่พ่อลูกเขย สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดของเราในเร็ววันนี้จะจัดงานนิทรรศการอักษรวิจิตรและจิตรกรรมโบราณขึ้นที่เมืองจินหลิง ครั้งนี้นิทรรศการอักษรวิจิตรและจิตรกรรมมีมาตรฐานที่สูงมาก เมืองของเราเองก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างมาก ถึงเวลาก็น่าจะประกาศไปทั่วโลก ทำให้ยิ่งใหญ่!ไม่แน่ว่าอาจจะเชิญCCTVมารายงานข่าวด้วย !”