ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5538 ผู้มีพระคุณคือเขาจริงๆ (2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5538 ผู้มีพระคุณคือเขาจริงๆ (2)
ซ่งหวั่นถิงพูดเสียงเรียบ“เพราะสองวันก่อนหน้าคุณเขาติดต่อมาหาฉัน คุณเขาบอกว่าหากคนของตระกูลอานมา ก็ฝากคำพูดหนึ่งให้กับพวกคุณด้วย ”
อานโฉงชิวตื่นเต้นเป็นอย่างมาก รีบถามเธอว่า“ ฝากอะไรมาครับ ?”
ซ่งหวั่นถิงกล่าว“คุณเขาให้ฉันบอกกับพวกคุณว่า ที่ในนครนิวยอร์กวันนั้น เป็นเขาที่ช่วยตระกูลอานและหลี่ญ่าหลินเอาไว้จริงๆ แต่เรื่องนี้สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก พวกคุณไม่ต้องเก็บมันมาใส่ใจ”
อานโฉงชิวดวงตาเบิกโพลง พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะความตื่นเต้นว่า“เป็นเขา !ผู้มีพระคุณเป็นเขาจริงๆ!นี่มันช่างวิเศษไปเลย!วิเศษจริงๆ!!”
พูดจบ เขาก็พูดด้วยความดีใจอย่างที่สุดว่า“คุณซ่ง ไม่ทราบว่าผู้มีพระคุณได้พูดอะไรอีกหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีแล้วค่ะ”ซ่งหวั่นถิงส่ายหน้า แล้วพูดว่า“คุณเขารู้ว่าคุณอานอยากได้รับคำยืนยันในสิ่งนี้ ดังนั้นก็ถือว่าได้คลายปมที่มีในใจของคุณอานแล้ว ตอนนี้คุณอานพอใจแล้วใช่ไหมคะ?”
อานโฉงชิวพูดอย่างปลงตก“ตระกูลอานกับคุณเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกัน อีกทั้งผมเองก็ยังได้พูดจาล่วงเกินคุณเขาที่ในงานประมูลอีกด้วย แต่คุณเขาแทนที่จะถือโทษ ก็กลับยังมาช่วยเหลือตระกูลอานของเราอีกกว่าหลายสิบชีวิต และช่วยชีวิตเพื่อนสนิทของผมหลี่ญ่าหลินอีก บุญคุณนี้ เกรงว่าชีวิตนี้ก็คงจะตอบแทนได้ไม่หมด……”
ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างจริงจัง“คุณอานไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องนี้ คุณเขาได้พูดเอาไว้ ทำความดี ไม่หวังผลตอบแทน ช่วยพวกคุณ นั่นก็คงเพราะพวกคุณมีคุณค่าพอแก่การช่วย ”
อานโฉงชิวกุมมือขึ้น แล้วพูดด้วยความเคารพ“คุณซ่ง หากมีโอกาส ช่วยขอบคุณคุณเขาแทนตระกูลอานด้วย!นอกจากนี้ ตระกูลอานยังมีอีกเรื่องที่อยากจะขอให้เขาช่วยเหลือ รบกวนคุณซ่งช่วยบอกผ่านไปยังเขาด้วย หากเขายอมตกลง ตระกูลอานยินดีที่จะมอบทรัพย์สินของครอบครัวให้ครึ่งหนึ่ง!”
ซ่งหวั่นถิงกล่าว “คุณอานลองพูดมาก่อน ”
อานโฉงชิวกล่าว“ผมมีหลานชายคนหนึ่ง จนตอนนี้ก็ได้หายตัวไปกว่ายี่สิบปี เขาชื่อเย่เฉิน ปีนี้อายุยี่สิบแปดปี เป็นลูกชายคนเดียวของอานเฉิงซีพี่สาวของผม กับเย่ฉางอิงพี่เขย ตระกูลอานตามหาตัวเขาไปทั่วโลกมากว่ายี่สิบปี คุณเขามีพลังวิเศษขนาดนี้ ขอคุณเขาได้โปรดเห็นแก่ที่พ่อแม่ผมท่านอายุมากแล้ว มีความปรารถนาอย่างมากที่อยากจะเจอหลานชาย ช่วยเราตามหาตัวเฉินเอ๋อด้วย หากเจอตัวเฉินเอ๋อแล้ว ตระกูลอานจะยกสินทรัพย์ตามที่มีอยู่ให้ครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน!”
ซ่งหวั่นถิงที่ฟังอยู่ตกตะลึงจนตาค้าง
เธอไม่คิดว่า ตระกูลอานเพื่อที่จะตามหาตัวเย่เฉินแล้ว ก็ถึงขนาดยอมที่จะมอบทรัพย์สินให้ครึ่งหนึ่ง
ทว่า สำหรับอานโฉงชิว และคนทั้งตระกูลอานแล้ว ให้คำมั่นสัญญามาเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการพูดส่งเดชเป็นแน่
ก่อนอานโฉงชิวจะมา คนของตระกูลอานก็ได้พูดคุยหารือกันในครอบครัวแล้ว ว่ากันตามสถานการณ์ของตระกูลอาน หากองค์กรพั่วชิงยังจับตระกูลอานไม่ปล่อยอยู่แบบนี้ อย่างนั้นตระกูลอานก็ถือว่ายังอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย ส่วนอนาคตก็คงดวงถึงคราวยากที่จะพ้นเคราะห์ได้ เพราะความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายนั้นเหลื่อมล้ำกันมาก ตระกูลอานไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลย
และในสายตาของคนตระกูลอาน ผู้ที่น่าจะช่วยเหลือตระกูลอานได้ในตอนนี้ ให้คนของตระกูลอานได้หลุดพ้นจากการถูกกวาดล้างขององค์กรพั่วชิง ก็คือผู้มีพระคุณผู้ลึกลับคนนั้นที่ได้ช่วยเหลือครอบครัวของตระกูลอานที่ในนครนิวยอร์กเมื่อครั้งนั้น
ขอแค่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าผู้มีพระคุณก็คือเจ้าของยาอายุวัฒนะ อย่างนั้นแล้วไม่เพียงตระกูลอานจะมีหลักประกันที่แข็งแกร่งอีกชั้นหนึ่ง หรือแม้แต่อาการป่วยของคุณท่านเองก็อาจจะมีโอกาสที่จะหายขาดได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น บุคคลผู้นี้ก็จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ครอบครัวของตระกูลอานมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้
และตัวเขาเองก็มีพลังวิเศษที่น่ามหัศจรรย์ หากเขายินดีที่จะช่วยเหลือ หาตัวเย่เฉินเจอ ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน
ดังนั้น สามารถจะรับประกันความปลอดภัยของตนเอง และยังสามารถจะทำให้คุณท่านหายขาดเป็นปรกติ แต่หากยังสามารถจะหาตัวเย่เฉินพบได้อีก สำหรับตระกูลอานแล้ว นี่มันคือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ต่อให้จะต้องยกทรัพย์สินครึ่งหนึ่งที่มีให้แล้วยังไง ?
หลังจากนั้นสักพัก ซ่งหวั่นถิงที่กลับมามีอาการปรกติหลังจากที่ตื่นตกใจ ก็เอ่ยพูดขึ้นว่า“ในเมื่อคุณอานพูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันจะพยายามหาโอกาสเพื่อถ่ายทอดคำพูดนี้ของคุณให้แน่นอน ”
อานโฉงชิวลุกขึ้นยืน กุมมือคารวะแล้วพูดว่า“ขอบคุณคุณซ่งมากครับ!”
พูดจบ เขาก็รีบพูดต่อ “คุณซ่ง ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณ !”
ซ่งหวั่นถิงกล่าว “คุณอานพูดมาก่อนนะคะ หากฉันสามารถช่วยได้ ย่อมต้องช่วยแน่นอน ”
อานโฉงชิวพูดอย่างจริงจัง“พูดตามตรงนะครับคุณซ่ง ตระกูลอานได้ตัดสินใจแล้ว ต่อจากนี้ไปอีกเป็นเวลานาน จะอยู่และขยายกิจการที่เมืองจินหลิงแห่งนี้ ดังนั้น ตระกูลอานในตอนนี้กำลังมีการวางแผน จะจัดตั้งศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ในเมืองจินหลิง เมื่อถึงตอนนั้น ธุรกิจกว่าครึ่งหนึ่งของตระกูลอาน จะโอนย้ายจากสหรัฐอเมริกามาที่เมืองจินหลิง”
“แต่ว่า กระบวนการขั้นตอนนี้คงต้องใช้เวลาอีกกว่าหลายปีถึงจะทำให้สำเร็จได้ อย่างแรกเลยคือต้องหาพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่มากพอสักแห่ง และลงทุนสร้างศูนย์สำนักงานที่มีขนาดไม่น้อยกว่าสำนักงานใหญ่ของแอปเปิลในแคลิฟอร์เนีย งบประมาณการลงทุนมีไม่ต่ำกว่าแปดพันล้านเหรียญสหรัฐ ผมได้ยินว่าซ่งซื่อกรุ๊ปในเมืองจินหลิงนั้นมีศักยภาพและความแข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย หากคุณซ่งไม่รังเกียจ โครงการนี้ของตระกูลอาน รบกวนซ่งซื่อกรุ๊ปช่วยเป็นผู้บุกเบิกให้มันเป็นจริงด้วย !”
“แปดพันล้านเหรียญสหรัฐ?!”ซ่งหวั่นถิงพูดโพล่งออกมาด้วยความตกใจสุดขีด“คุณอาน……โครงการลงทุนที่ขนาดใหญ่แบบนี้ ในเมืองจินหลิงไม่เคยได้ยินมาก่อนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ที่ซ่งซื่อกรุ๊ปก่อตั้งมาโครงการที่ใหญ่ที่สุด นอกจากตึกระฟ้ารวมถึงอาคารเสริมสองสามแห่ง กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ค่าก่อสร้างทั้งหมดรวมกันแล้วก็เพียงห้าร้อยล้านเหรียญเท่านั้น……โครงการแปดพันล้านเหรียญสหรัฐนี้ อย่าว่าแต่ให้ซ่งซื่อกรุ๊ปเป็นคนทำเลย แค่ให้คิดก็ยังคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำ……”