ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5461 คุณอยากเรียนวิถีบู๊ไหม?(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5461 คุณอยากเรียนวิถีบู๊ไหม?(2)
นานาโกะยกนิ้วโป้งขึ้นมา และเอ่ยชม“เป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยจินหลิงได้ ก็น่าจะต้องระดับปริญญาเอก วิเศษมากจริงๆ!”
มือหลิวม่านฉงลูบจับไปที่ทรงผม พูดอย่างสุภาพและไม่เป็นธรรมชาติว่า“ปริญญาเอกไม่ใช่เรื่องที่เก่งกาจอะไร ตอนนี้คนที่อยู่ในระดับปริญญาเอกนั้นมีอยู่มากมาย”
ระหว่างที่พูด ลิฟต์ก็หยุดลงที่ชั้นหนึ่ง หลิวม่านฉงรีบเดินออกจากลิฟต์ ก่อนไปยังได้แสร้งทำทีสงบนิ่งและเอ่ยทักทายนานาโกะ พูดอย่างสุภาพว่า“เอ่อคือ ฉันขอตัวก่อนนะคะ !”
“ได้ค่ะ!”
มองดูแผ่นหลังของหลิวม่านฉง นานาโกะรู้สึกว่าเธอมีท่าทีแปลกๆเล็กน้อย แต่ก็บอกไม่ถูกว่าแปลกตรงไหน รู้สึกเหมือนเธอจะหวาดกลัวตัวเองยังไงอย่างนั้น ตั้งแต่ที่เจอตัวเองสายตานั้นก็ดูแปลกไป ตอนที่เดินออกจากลิฟต์ไม่รู้ทำไม ก็ราวกับดูจะโล่งใจไม่น้อย
นานาโกะแอบคิดในใจ“เราน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ ?”
คิดอยู่แบบนั้น ลิฟต์ก็ได้มาถึงที่โรงจอดรถชั้นใต้ดิน
หลังจากที่รออยู่ประมาณห้านาที เย่เฉินก็ขับรถเข้ามาในชั้นใต้ดิน
นานาโกะรีบยืนให้ห่างและชะเง้อมองดู รอจนเย่เฉินจอดรถเสร็จ ก็รีบเดินมาหาที่รถ
ทันทีที่เย่เฉินลงจากรถ อิโตะ นานาโกะก็โบกมือให้เขา จากนั้นก็โค้งคำนับเล็กน้อยและพูดว่า“เย่เฉินซัง ขับรถมาลำบากแย่แล้ว!”
เย่เฉินตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มและพูดว่า“ไม่ลำบากเลย คุณรออยู่ที่นี่นานหรือยัง ?”
อิโตะ นานาโกะตอบกลับ“ฉันเพิ่งมาถึง”
พูดจบ เธอก็รีบถามต่อ“จู่ๆเย่เฉินซังก็มาหาฉัน มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับฉันเหรอ?”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดอย่างจริงจัง“เรื่องที่ผมจะคุยกับคุณนั้นสำคัญอยู่ เราไปคุยกันข้างบนดีกว่า”
อิโตะ นานาโกะยิ้มแป้น แล้วทำท่าเชิญ “เชิญเย่เฉินซัง!“
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในลิฟต์ อิโตะ นานาโกะรูดบัตรแล้วกดปุ่มชั้น พูดกับเย่เฉินไปด้วยว่า“เย่เฉินซัง ที่ห้องพักชั้นบนของฉันมีสาวสวยคนหนึ่งพักอาศัยอยู่ และเธอก็เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจินหลิงด้วย”
“จริงเหรอ?”เย่เฉินถามด้วยความสงสัย“ คุณรู้ได้ยังไง?”
อิโตะ นานาโกะตอบ“เมื่อกี้บังเอิญลงลิฟต์มาพร้อมกับเธอ ก็เลยได้พูดคุยกัน ”
เย่เฉินพยักหน้า และพูดอย่างไม่คิดอะไร“อาจารย์ในมหาวิทยาลัยจินหลิง สามารถซื้อห้องพักที่นี่ได้ แล้วยังเป็นเพนเฮาส์แบบเดียวกันกับคุณอีก ฐานะไม่ธรรมดาเลยนะ ห้องราคาหลายสิบล้าน ครูทั่วไปเกรงว่าคงซื้อไม่ได้แน่ ยิ่งคุณบอกว่าเธอเป็นสาวสวย อายุก็น่าจะยังเด็กอยู่ เด็กสาววัยรุ่นนั้นยิ่งไม่มีเงินเก็บออมมากมายขนาดนี้แน่ คาดว่าคงน่าจะเป็นทายาทเศรษฐีที่ไหนสักที่ ”
อิโตะ นานาโกะพูดอย่างเห็นด้วย“เย่เฉินซังวิเคราะห์ได้มีเหตุผลมาก ฉันเห็นเธอดูดีและมีสง่าราศี คงน่าจะใช้ชีวิตที่มั่งคั่งและร่ำรวย ถูกอบรมเลี้ยงดูอย่างดีมาตั้งแต่เด็ก”
เย่เฉินตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง แล้วไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจอีก
ในตอนนี้ลิฟต์ก็ได้มาถึงยังชั้นที่นานาโกะอยู่ ประตูลิฟต์เปิดออก นานาโกะก็เชิญเย่เฉินเข้าไปด้านในห้อง
นานาโกะในตอนนี้ ได้เตรียมอุปกรณ์ชงชาไว้ตรงห้องรับแขกเรียบร้อย ทันทีที่เข้ามาในห้องก็เอ่ยพูดกับเย่เฉินอย่างดีใจว่า“เย่เฉินซังเชิญนั่งก่อน ฉันจะชงชาให้คุณ!”
เย่เฉินพยักหน้า และนั่งลงตรงข้ามกับนานาโกะโดยมีถาดน้ำชากั้นกลาง จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น“นานาโกะ ช่วงนี้คุณยังได้ฝึกศิลปะการต่อสู้อยู่ไหม ?”
นานาโกะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเย่เฉินถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา พูดตอบไปตามความจริง“ช่วงนี้ไม่ได้ฝึกเลย ตั้งแต่ที่โอโต้ซังให้ฉันมาดูแลกิจการของครอบครัว ฉันก็ไม่มีเวลาที่จะฝึกฝนมันเหมือนเมื่อก่อนอีก ตอนนี้นอกจากฝึกความยืดหยุ่นของแขนขาแล้ว ก็แทบไม่ได้ฝึกอะไรเลย”
พูดจบ เธอถามเย่เฉิน“ทำไมจู่ๆเย่เฉินซังถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมา ?”
เย่เฉินยกยิ้มเล็กน้อย และถามเธอ“นานาโกะ คุณอยากจะฝึกวิถีบู๊ไหม?”