ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5457 ผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวของเย่เฉิน(2)
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5457 ผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวของเย่เฉิน(2)
เฉินจื๋อข่ายถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดอย่างตื่นเต้นว่า“พี่ห้าพูดถูก!พอได้ยินพี่พูดแบบนี้ ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเลย !”
หงห้ายิ้มและพูดว่า“นายไปเตรียมตัวก่อน หากมีอะไรฉันจะรีบแจ้งกลับไปทันที !”
เฉินจื๋อข่ายรีบพูดขึ้นว่า“พี่ห้า หรือวันนี้น้องอย่างผมทำอาหาร แล้วเราสองคนมานั่งดื่มกินกัน!”
หงห้ากล่าว“ฉันคงยังปลีกตัวไปไหนไม่ได้ในตอนนี้ งานดูแลสนับสนุนของทางนี้ฉันเป็นคนรับผิดชอบ ตามหลักแล้ว ฉันต้องประจำการอยู่ที่นี่ตลอด 24 ชั่วโมง”
พูดจบ หงห้าก็พูดต่อ “เอาแบบนี้ไหม หลังจากที่เริ่มเข้าเรียนอย่างเป็นทางการ เราค่อยหาโอกาสมาดื่มกันที่ช็องเซลีเซียน ถึงตอนนั้นต้องมีเวลาว่างแน่นอน ”
“ได้!”เฉินจื๋อข่ายพูดด้วยรอยยิ้ม“งั้นก็ตามนี้แล้วกัน!”
……
ในตอนนี้เอง เย่เฉินกำลังขับรถมุ่งตรงไปยังเมืองจินหลิง
ครั้งนี้ให้หงฉางชิงมาอยู่ที่เมืองจินหลิงเพื่อช่วยตัวเองฝึกฝนนักบู๊ที่เก่งกาจ สำหรับเย่เฉินแล้วมันมีความสำคัญอย่างมาก
ตัวเขาเองไม่เคยฝึกฝนวิถีบู๊มาก่อน อยากจะฝึกฝนนักบู๊ที่เก่งกาจนั้น นอกจากให้โอสถ กับพลังภายในแล้ว ก็ไม่สามารถจะใช้ความพิเศษที่วิถีบู๊มีมาปรับระดับความสามารถของวิถีบู๊ตามเข้าใจโดยแท้ได้
ตั้งแต่ที่ได้《ตำราเก้าเสวียนเทียน》มา จนตอนนี้ เย่เฉินก็ได้สอนพริกขี้หนูฉินเอ้าเสวี่ยนไปแค่ครึ่งกระบวนท่าเท่านั้น แต่เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์อะไร ดังนั้นก็จึงสอนเธอไปแค่เพียงผิวเผินเล็กน้อยเท่านั้น
ครั้งนี้ เย่เฉินตั้งใจจะเอาจุดแข็งเพิ่มจุดอ่อน ให้หงฉางชิงรับผิดชอบวางรากฐานทางทฤษฎีที่มั่นคงให้กับผู้เข้าเรียนในอนาคต ส่วนตัวเองก็คอยให้การสนับสนุนในเรื่องของโอสถกับพวกเขา เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอกให้กับพวกเขา
ดังนั้น เย่เฉินก็รู้ดี สิ่งนี้สำหรับนักบู๊แล้ว เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งอย่างแน่นอน
และเพราะโอกาสนั้นหายาก เย่เฉินก็จึงอยากที่จะฝึกกองกำลังทหารของสำนักว่านหลง และอยากให้คนของตระกูลเหอได้รับประโยชน์นี้ด้วย โดยเฉพาะซูรั่วหลีที่บรรลุนักบู๊แปดดาว การฝึกฝนของเธอนั้นยกระดับได้รวดเร็วมาก แต่พื้นฐานนั้นยังตามหลังอยู่เล็กน้อย หากสามารถจะใช้โอกาสนี้เติมเต็มพื้นฐานที่ขาดหายไป ในอนาคตจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแน่
นอกจากซูรั่วหลีของตระกูลเหอ เย่เฉินก็อยากให้ฉินเอ้าเสวี่ยนเข้าร่วมด้วย เพราะเธอนั้นหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ แต่ไม่เคยได้เข้าสู่วิถีบู๊จริงๆ สำหรับเธอแล้ว มันเป็นโอกาสที่ดีในการกลับเข้าสู่เส้นทางสายนี้
เมื่อนึกถึงฉินเอ้าเสวี่ยน เย่เฉินก็นึกไปถึงอิโตะ นานาโกะที่อยู่เมืองจินหลิงด้วย
ตัวเองรู้จักนานาโกะ ผ่านการแข่งขันกันระหว่างฉินเอ้าเสวี่ยนกับเธอ
พูดตามตรง การเรียนรู้ของนานาโกะในเต๋าบู๊นั้น อันที่จริงแล้วเหนือกว่าฉินเอ้าเสวี่ยนมาก
ยิ่งกว่านั้น เย่เฉินก็รู้ดี ความแตกต่างกันของฉินเอ้าเสวี่ยนที่มุ่งมั่นตั้งใจอยากจะคว้าแชมป์ นานาโกะนั้นถือเป็นผู้โง่เขลาในการต่อสู้โดยแท้ หลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บในครั้งนั้น เธอก็รับปากกับตัวเองว่าจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติอีก ดังนั้นตัวเองก็จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นเธอฝึกการต่อสู้อีก
ประจวบเหมาะกับนานาโกะก็อยู่ที่เมืองจินหลิงด้วย เย่เฉินก็จึงหวังว่าเธอจะเก็บเอาความรักที่มีในเต๋าบู๊นี้ขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ เธอก็เคยใช้ยาอายุวัฒนะมาก่อน มีรากฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เพียงแค่สิ่งที่เธอฝึกฝนมาอยู่ตลอดนั้น ไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้โบราณของหัวเซี่ย แต่เป็นวิถีบู๊ของญี่ปุ่น ดังนั้นจึงยังไม่ได้ฝึกวิธีการเปิดเส้นลมปราณ แต่เมื่อเธอรู้วิธีการเปิดเส้นลมปราณแล้ว เชื่อว่าก็น่าจะอยู่ในขั้นนักบู๊สามดาวได้เช่นกัน
นอกจากความรู้สึกพิเศษที่มีต่อนานาโกะแล้ว เย่เฉินก็ตัดสินใจว่า ระหว่างทางกลับนั้นจะแวะไปบ้านใหม่ที่ Tomson Riviera ของอิโตะนานาโกะ และจะบอกเรื่องนี้กับเธอด้วยตัวเอง ดูว่าเธอมีความสนใจหรือเปล่า
เหตุผลที่มีความคิดนี้ขึ้นมา นั้นก็เพราะผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวภายในของเย่เฉินเอง
เขาไม่รู้ว่านานาโกะจะอยู่เมืองจินหลิงนานแค่ไหน หากให้เธอเข้ามาร่วมด้วย อย่างนั้นแล้วเธอก็จะต้องอยู่ที่เมืองจินหลิงอีกสักระยะหนึ่ง ……