ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5437 ถ่ายทอดตำแหน่ง 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5437 ถ่ายทอดตำแหน่ง 2
หลงซือฉีก็รู้สึกงอนเล็กน้อย กล่าวขึ้น: “อาจารย์คะ อาจารย์อยากเรียกอะไรก็เป็นเรื่องของอาจารย์ ในทางกลับกันฉันก็เหมือนกัน”
หงฉางชิงอดไม่ได้ที่จะกล่าวตำหนิ: “ซือฉี! อย่าเสียมารยาท!”
ตอนนี้เองเย่เฉินก็ได้ยิ้มกล่าวขึ้นมา: “อาจารย์หง คุณหลงพูดถูก เรื่องแบบนี้ใครสะดวกแบบไหนก็เรียกแบบนั้น คุณไม่ต้องไปบังคับคุณหลงหรอก”
หงฉางชิงกล่าวพลางยิ้มแห้ง ๆ รีบกล่าวขึ้นมา: “อาจารย์เย่พูดถูก งั้นก็ใครสะดวกแบบไหนก็เรียกแบบนั้นแล้วกันครับ”
หลงซือฉีที่อยู่ข้าง ๆ เห็นอาจารย์ของตนประจบสอพลอเช่นนี้มาตลอด ภายใต้ความประหลาดใจ ก็มีความไม่พอใจแฝงอยู่ด้วย
ในสายตาของเธอ อาจารย์เป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีแต่ไหนแต่ไรมา อีกอย่างเธอก็คิดมาตลอดว่า อาจารย์เป็นเจ้าสำนักของเต๋าไท่เจิน ก็ควรต้องมีรัศมีบารมีที่แน่นอน เป็นเรื่องปกติที่บางครั้งคนภายนอกได้เห็นแล้วจะรู้สึกว่าเขายิ่งยโส
และในความทรงจำของเธอ เมื่อก่อนอาจารย์รักษาออร่าของผู้สูงส่งไว้ได้อย่างพอดิบพอดี แต่ว่า ไม่รู้ว่าอยู่จินหลิงในครั้งนี้อาจารย์ได้กินยาอะไรผิดไป ทำไมถึงได้ประจบประแจงผู้ชายที่อายุยังน้อยคนหนึ่งเช่นนี้
หลงซือฉีได้กราบเข้าเต๋าไท่เจินตั้งแต่อายุสิบเจ็ดสิบแปด มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเต๋าไท่เจิน เมื่อเห็นอาจารย์ก้มหัวให้กับเย่เฉินเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าภาพลักษณ์ของเต๋าไท่เจินถูกเขาดึงลงไปด้วย ภายในใจก็ยิ่งทนดูไม่ได้
ดังนั้น เธอจึงกล่าวขึ้นมาด้วยความไม่พอใจนัก: “อาจารย์คะ อาจารย์ให้หนูเดินทางมาไกลขนาดนี้ มีเรื่องอะไรกันแน่ ตอนนี้พูดได้หรือยังคะ?”
หงฉางชิงยิ้มกล่าว: “ได้ ๆ ได้แน่นอนอยู่แล้ว”
กล่าวไป หงฉางชิงก็รีบหันไปหาหลงซือฉี แล้วกล่าวอย่างจริงจัง: “ซือฉี อาจารย์ก็จะไม่อ้อมค้อมแล้ว มีเรื่องที่สำคัญมากบางอย่างจะบอกกับเธอ นั่นก็คือ อาจารย์ได้ตัดสินใจแล้ว ว่าจะถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักเต๋าไท่เจินให้เธอตอนนี้เลย หลังจากนี้มีเธอเป็นผู้นำของเต๋าไท่เจิน หวังว่าเธอจะสามารถนำเต๋าไท่เจินไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง!”
หลงซือฉีกล่าวด้วยความตกใจอย่างสุดขีด: “ทำไมล่ะคะ?! อาจารย์ ท่าน……ท่านจะถ่ายทอดตำแหน่งให้ศิษย์ตอนนี้?!”
“ใช่!” หงฉางชิงกล่าวอย่างหนักแน่น: “ที่อาจารย์เรียกเธอมาในครั้งนี้ ก็เพราะต้องการถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักให้เธอที่นี่ ภายใต้การเป็นสักขีพยานของอาจารย์เย่!”
“ทำไมล่ะคะ?!” หลงซือฉีกล่าวด้วยความสงสัย: “ตามประเพณีที่ผ่านมาของเต๋าไท่เจิน อย่างน้อยก็ต้องรออีกสิบปีอาจารย์ถึงจะถ่ายทอดตำแหน่งให้ฉันไม่ใช่เหรอคะ? อีกอย่างตอนนี้คุณสมบัติและประสบการณ์ของฉันในตอนนี้ยังน้อยอยู่ หากรับตำแหน่งมาตอนนี้คงยากที่จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน! อาจารย์โปรดคิดดูอีกทีนะคะ!”
หงฉางชิงโบกมือ: “ประเพณีที่สืบทอดมาที่เธอพูดถึงเป็นเพียงความบังเอิญ เต๋าไท่เจินไม่มีกำหนดว่าจำเป็นต้องอายุถึงกี่ปีถึงจะสามารถสละตำแหน่งได้ และไม่ได้กำหนดว่าเจ้าสำนักคนใหม่ต้องมีอายุกี่ปีถึงจะสามารถสืบทอดตำแหน่งได้ ฉันคิดว่าตอนเธอสามารถขึ้นรับตำแหน่งนี้ได้แล้ว”
หลงซือฉีซักถามต่อ: “อาจารย์คะ ทำไมอาจารย์ถึงได้รีบร้อนถ่ายทอดตำแหน่งแบบนี้ล่ะคะ? หากถ่ายทอดตำแหน่งให้ศิษย์แล้ว อาจารย์มีแผนอะไร? เตรียมที่จะไปเก็บตัวฝึกฝนต่อเหรอคะ?”
หงฉางชิงส่ายศีรษะ: “อาจารย์มีแผนว่า หลังจากนี้จะตั้งรากฐานอยู่ที่จินหลิง”
“ตั้งรากฐานที่จินหลิง?!” หลงซือฉีอ้าปากค้างแล้วเอ่ยถาม: “ทำไมอาจารย์ต้องตั้งรากฐานที่จินหลิงด้วย? หรือว่าหลังจากนี้อาจารย์จะไม่ซักถามเรื่องในเต๋าไท่เจินแล้วเหรอคะ?”
หงฉางชิงพยักหน้าอย่างตั้งใจ กล่าว: “ถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักให้เธอ ฉันก็จะไม่ไปซักถามเรื่องต่าง ๆ ในเต๋าไท่เจินแล้ว มีเธอดูแลควบคุมเต่าไท่เจิน อาจารย์ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกแล้ว”
หลงซือฉีเม้มปากเบา ๆ จ้องมองหงฉางชิงพลางเอ่ยถาม: “อาจารย์ ศิษย์อยากรู้ ทำไมอาจารย์ถึงเลือกตั้งรากฐานที่จินหลิง? ถ้าอาจารย์ไม่ให้คำอธิบายที่เหมาะสมกับศิษย์ งั้นศิษย์ก็ปฏิเสธสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก!”