ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5435 เหมือนจะอ่อนหัดไปหน่อย 2
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5435 เหมือนจะอ่อนหัดไปหน่อย 2
หงฉางชิงกล่าวด้วยความประหม่า: “ตอบอาจารย์เย่ การถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักของเต๋าไท่เจิน รวมไปถึงของแทนตัวสำนัก สองส่วนสุดท้ายของ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》 รวมทั้งเตายานั่น……แต่ตอนนี้ผมได้ยกเตายาให้คุณไปแล้ว ดังนั้นอีกสักครู่คุณอย่าพูดถึงเรื่องนี้นะครับ……”
เย่เฉินพยักหน้า: “วางใจเถอะ ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน”
ได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดหงฉางชิงก็วางใจลง
ทั้งสองขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นแปด หงฉางชิงแตะคีย์การ์ดเปิดประตู จากนั้นก็เชิญเย่เฉินให้นั่งรอที่โซฟาสักพัก ส่วนตนเองยกหูโทรศัพท์ในห้องขึ้นมา โทรหาหลงซือฉีที่อยู่ห้องข้าง ๆ
พอโทรติด เขาก็กล่าวกำชับ: “ซือฉี เธอมาที่ห้องอาจารย์หน่อย
หลงซือฉีที่อยู่ปลายสายกล่าวโดยเร็ว: “ได้ค่ะอาจารย์ รอแป๊บหนึ่งนะคะ ศิษย์ทำการฝึกหายใจโครจรรอบสุกดท้ายเสร็จก็จะไปหาอาจารย์ทันที”
หงฉางชิงรู้ว่าศิษย์ของตนคนนี้คลั่งไคล้ในวิชาบู๊ ในตอนที่เธอฝึกวิชา ต่อให้ท้องฟ้าถล่มลงมาก็ต้องฝึกฝนให้เสร็จ ดังนั้นเลยไม่ได้บังคับ เพียงแค่กล่าวว่า: “อย่าช้านักล่ะ อาจารย์มีแขกสำคัญคนหนึ่งจะแนะนำให้เธอรู้จัก”
เสียงหายใจออกอย่างสม่ำเสมอของหลงซือฉีดังมาจากโทรศัพท์: “ฟู่……”
จากนั้น เธอถึงกล่าวขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน: “ได้ค่ะอาจารย์ เธอแป๊บหนึ่งนะคะ ศิษย์จะไปในอีกประมาณหนึ่งก้านธูป”
เย่เฉินได้ยินเสียงผู้หญิงดังลอยมาจากในโทรศัพท์ เอ่ยถามด้วยความสงสัย: “อาจารย์หง ศิษย์สืบทอดของคุณเป็นผู้หญิงเหรอ?”
“ใช่ครับ” หงฉางชิงกล่าว: “ตอบอาจารย์เย่ เต๋าไท่เจินของเราไม่มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนเกี่ยวกับเพศของเจ้าสำนัก เจ้าสำนักแต่ละคน ล้วนสามารถเลือกศิษย์สืบทอด ตามความชื่นชอบของตนได้ ขอเพียงผลการฝึกฝนของศิษย์สืบทอด ไม่ต่ำไปกว่าศิษย์ทั่วไปคนอื่น ๆ เช่นนั้นศิษย์ใหญ่คนนี้ก็มีคุณสมบัติที่จะได้รับการสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก ในประวัติศาสตร์ของเต๋าไท่เจิน ก็เคยมีเจ้าสำนักที่เป็นผู้หญิงมาเหมือนกัน”
พูดไป เขาก็ได้กล่าววอธิบายต่อ: “พรสวรรค์ของศิษย์สืบทอดคนนี้ของผมสูงมาก นอกจากนี้พ่อของเธอยังค่อนข้างมีวาสนาสัมพันธ์กับเต๋าไท่เจินของเรา ผมก็เลยรับเธอเป็นศิษย์สืบทอด เธอเองก็มานะบากบั่น อายุเพียงสามสิบ ก็สามารถบรรลุถึงนักบู๊ห้าดาวโดยอาศัยตัวเองได้”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม กล่าวกระแนะกระแหน: “อาจารย์หง ดูท่าแล้ว ฝีมือของศิษย์สืบทอดคนนี้ของคุณ สูงกว่าคุณหนึ่งขั้นสินะ!”
สีหน้าของอาจารย์หงเปลี่ยนเป็นหดหู่ขึ้นมามาก กล่าวพึมพำ: “อาจารย์เย่……ผมกำลังอยากพูดเรื่องนี้กับคุณพอดีเลย คุณคิดดูจะว่ายังไงผมก็เป็นเจ้าสำนักของสำนักหนึ่ง อีกไม่นานก็จะสละตำแหน่งแล้ว คุณคงจะไม่ปล่อยให้ฝีมือของผมต่ำกว่าลูกศิษย์อีกตั้งหนึ่งขั้นหรอกนะครับ เห็นแก่ที่ผมจงรักภักดีต่อคุณ ช่วยผมฟื้นฟูผลการฝึกฝนเถอะนะครับ……”
เย่เฉินเห็นเขามีท่าทางน่าสงสาร ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำ จากนั้นก็ถามเขา: “คุณคงพบกับลูกศิษย์ใหญ่ของคุณแล้วสินะ? เธอดูไม่ออกหรือว่าผลการฝึกฝนของดคุณต่ำกว่าเธอ?”
หงฉางชิงรีบกล่าว: “ตอบอาจารย์เย่ เมื่อวานตอนที่ผมรับศิษย์สืบทอดคนนี้ของผมกลับมา เธอไม่ได้สังเกตเห็นผลการฝึกตนของผม……แต่อีกสักครู่ผมต้องถ่ายทอด《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》สองท่อนสุดท้ายของเต๋าไท่เจินให้เธอ และยังต้องแสดงวิธีการฝึกหายใจของสองท่อนสุดท้ายให้เธอดู หากคุณยังไม่ช่วยผมฟื้นฟูผลการฝึกฝน เกรงว่าผมคงต้องปิดไม่อยู่แล้วแน่เลย……”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม กล่าว: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ช่วยคุณฟื้นฟูถึงนักบู๊หกดาวก็แล้วกัน แบบนี้ศิษย์สืบทอดคนนั้นของคุณก็ดูอะไรไม่ออกแล้ว อย่างมากก็แค่สงสัยอยู่ภายในใจ รู้สึกว่าอาจารย์คนนี้ของตนเหมือนจะอ่อนหัดไปหน่อย”