ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5434 เหมือนจะอ่อนหัดไปหน่อย 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5434 เหมือนจะอ่อนหัดไปหน่อย 1
สำหรับหงฉางชิงนั้น เย่เฉินวางแผนไว้ว่าจะรับเขาเข้ามาทำงานให้จริง ๆ
แม้ฝีมือของเขาจะไม่นับว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》ส่วนแรกที่เขาฝึก เป็นส่วนแรกที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ บวกกับที่หลายปีมานี้เขาได้ฝึกส่วนนี้มาตลอด ดังนั้นที่สามารถมั่นใจได้ก็คือ ความเข้าใจเบื้องต้นที่เขามีต่อ《จิตกลียุคเต๋าไท่เจิน》จะต้องอยู่เหนือตนเองอย่างแน่นอน
บางครั้ง คนที่แข็งแกร่งที่สุดใช่ว่าจะเหมาะที่จะเป็นคุณครู แม้จะให้คนที่มีการศึกษาสูงระดับดุษฎีบัณฑิตไปสอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะไม่รู้วิธีทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งเข้าใจสิ่งที่เขาบรรยาย
แต่ถ้าหากให้คุณครูที่สอนเด็กประถมมาหลายสิบปีมาสอน เช่นนั้นเขาจะต้องมีประสบการณ์มากมายรวมทั้งทัศนคติและวิธีการต่าง ๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง สามารถทำให้เด็กชั้นประถมเรียนรู้และเข้าใจถึงสิ่งที่ตนเองต้องการบรรยาย ได้โดยเร็วที่สุด
ในสายตาของเย่เฉิน หงฉางชิงก็คือคุณครูประถมแบบนี้นี่เอง
นอกจากนี้ เขาได้ศึกษาวิเคราะห์แผนการเรียนการสอนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งโดยเฉพาะมานับสิบปี รับรองได้ว่ามีคุณวุฒิบารมี จำเนื้อหาได้ขึ้นใจอย่างแน่นอน
มีพื้นฐานในหลายสิบปีมานี้ของเขา ถึงตอนนั้นตนเองค่อยเอาแผนการเรียนการสอนของชั้นประถมศึกษาปีที่สองให้ เขาย่อมต้องสามารถคุ้นเคยกับมันได้อย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ชายชราคนนี้ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์นัก ได้ผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยก็คิดจะหนีกลับอเมริกา เย่เฉินย่อมต้องดัดนิสัยเสีย ๆ แบบนี้ของเขาหน่อย รอเขาสละตำแหน่งเจ้าสำนักแล้ว ค่อยทำเป็นไม่สนใจเขาสักสองสามวัน ก็สามารถค่อย ๆ ช่วยเขาฟื้นฟูการฝึกตน ให้เข้าค่อย ๆ เข้าสู่สถานภาพ
หงฉางชิงในเวลานี้ก็ทราบเป็นอย่างดี ตอนนี้ตนเองนอกจากภักดีต่อเย่เฉินอย่างสุดจิตสุดใจ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงแทบทนไม่ไหวที่จะสละตำแหน่งเจ้าสำนัก ต่อหน้าเย่เฉินโดยเร็ว
ในเมื่อพรุ่งนี้เย่เฉินมีเวลา เขาย่อมไม่อยากจะรีรอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นจึงได้กล่าวขึ้นโดยเร็ว: “อาจารย์เย่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพรุ่งนี้พวกเราก็ไปแต่เช้าหน่อย เก้าโมงเช้าโอเคไหมครับ?”
เย่เฉินกล่าว: “ตื่นแต่เช้าแบบนั้นทำไม สิบโมงก็แล้วกัน ให้ผมนอนอีกหน่อย”
หงฉางชิงก็ได้แต่ตอบตกลง กล่าวอย่างกระตือรือร้น: ผมอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ยินดีต้อนรับอาจารย์เย่ทุกเมื่อ!”
……
……
วันถัดมา
เย่เฉินรอหลังจากเซียวชูหรันไปบริษัท ถึงได้ขับรถออกมาอย่างไม่รีบร้อน มุ่งหน้าไปยังโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง
ในตอนที่เขามาถึงโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง หงฉางชิงก็โทรเข้ามาพอดี กล่าวถามอย่างนอบน้อม: “อาจารย์เย่มาถึงหรือยังครับ?”
เย่เฉินตอบอืมครั้งหนึ่ง: “ผมมาถึงแล้ว คุณอยู่ห้องไหน?”
“8802!” หงฉางชิงกล่าวโดยเร็ว: “อาจารย์เย่ ให้ผมลงไปรับนะครับ!”
“ไม่ต้องหรอก” เย่เฉินกล่าวลวก ๆ: “เดี๋ยวผมขึ้นไปเอง”
หงฉางชิงยิ้มแหะ ๆ: “อาจารย์เย่ครับ ผมเข้าลิฟต์มาแล้ว กำลังลงไปครับ!”
เย่เฉินจอดรถที่ที่จอดรถข้าง ๆ ทางเข้าหลักของโรงแรม เพิ่งเดินเข้าห้องโถง หงฉางชิงก็เดินออกมาต้อนรับอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเห็นเย่เฉิน ก็กล่าวอย่างเคารพนอบน้อม: “อาจารย์เย่มาแล้วเหรอครับ พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!”
เย่เฉินพยักหน้า ถามเขา: “ศิษย์สืบทอดของคุณคนนั้นล่ะ?”
หงฉางชิงกล่าวโดยเร็ว: “ตอบอาจารย์เย่ ศิษย์สืบทอดของผมอยู่ข้างบนครับ”
“โอเค” เย่เฉินยิ้มอ่อน ๆ: “งั้นพวกเราขึ้นไปกันเถอะ พอดีถือโอกาสนี้ชื่นชมพิธีถ่ายทอดตำแหน่งเจ้าสำนักของเต๋าไท่เจินของพวกคุณ”
หงฉางชิงพยักหน้าติดต่อกัน ยิ้มสู้กล่าว: “พิธีการของสำนักเล็ก ๆ อย่างพวกเราไม่เข้มงวดขนาดนั้นหรอกครับ หวังว่าอาจารย์เย่เห็นแล้วจะไม่รังเกียจที่มันเรียบง่ายเกินไป”
“ไม่หรอกน่า” เย่เฉินกล่าวเรียบ ๆ : “เรื่องแบบนี้ยิ่งง่ายก็ยิ่งดี พิธีการเข้มงวดเกินไป กลับจะทำให้เสียความหมายดั้งเดิมของมันไป”
“ครับ ๆ ๆ!” หงฉางชิงพยักหน้าก้มศีรษะกล่าว: “อาจารย์เย่กล่าวถูกต้อง เรื่องแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องทำให้มันใหญ่โตจริง ๆ”
กล่าวไป เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วกล่าวกับเย่เฉินด้วยความลังเล: “อาจารย์เย่……ผมขอร้องคุณเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ?”
เย่เฉินพยักหน้า: “คุณพูดมาสิ”