ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5062 พิธีสำเร็จการศึกษา1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5062 พิธีสำเร็จการศึกษา1
ทว่า เซียวชูหรันเองก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร เพราะเธอก็รู้ ว่าสถานะของเฟ่ยเข่อซินนั้นสูงส่งแค่ไหน ตัวเองเป็นแค่ครอบครัวธรรมดาที่ทำธุรกิจเล็กๆ กับเธอนั้นแตกต่างกันคนละชั้น เขาใช้สถานะอื่นมาเป็นเพื่อนกับตัวเองก็ดีแค่ไหนแล้ว อีกทั้งเขาก็ยังช่วยให้ตัวเองได้สิทธิ์มาเรียนหลักสูตรมาสเตอร์คลาสแบบนี้อีกด้วย
สิ่งเดียวที่เซียวชูหรันรู้สึกเสียใจก็คือ เฟ่ยเข่อซินเพื่อนที่พูดคุยกันได้ทุกเรื่องของตัวเอง แต่แล้วจู่ๆก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เซียวชูหรันเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนมากมายนัก และเวลาที่คบหากับใครก็จะมีแต่ความจริงใจ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหายตัวไปอย่างเงียบๆ และต่อมาก็พบว่าแม้แต่ตัวตนก็ยังปลอมขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธออยู่ใน้อย
คิดมาถึงตรงนี้ เซียวชูหรันก็อดไม่ได้ที่จะถาม“เอ่อนี่คุณ คุณหนูเฟ่ยเธอกลับไปกับเราด้วยไหม?”
เย่เฉินส่ายหน้า“ไม่น่านะ ทำไมเหรอ?”
เซียวชูหรันถอนใจเสียงเบา แล้วกล่าวอย่างปลงตก“ไม่มีอะไร เพื่อนกัน แค่เธอสุขสบายดีก็พอแล้ว”
เย่เฉินมองออก ว่าภายในใจของเซียวชูหรันนั้น ได้เห็นเฟ่ยเข่อซินเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง
เพียงแต่ว่า สถานะทางสังคมของคนทั้งสองนั้นแตกต่างกันเกินไป ทำตัวเธอเองรู้สึกลำบากใจอยู่ลึกๆเช่นกัน
เรื่องนี้ ภายในใจของเย่เฉินก็รู้แก่ใจดี
อีกทั้ง สำหรับเย่เฉินแล้ว เขาก็ไม่ต้องการให้ภรรยานั้นสนิทสนมกับเฟ่ยเข่อซินมากมายนัก
ส่วนหนึ่ง เพราะเฟ่ยเข่อซินรู้ตัวตนของตัวเองแล้ว หากภรรยาไปสนิทสนมกับเธอ ก็อาจจะเผยข้อพิรุธในตัวตนของตัวเองได้
อีกส่วนหนึ่ง เพราะเฟ่ยเข่อซินนั้นฉลาดเกินไป เมื่อเทียบกันแล้ว เซียวชูหรันกับเธอ ก็เหมือนกับเด็กนักเรียนกับมหาบัณฑิต คนหนึ่งฉลาดเกินไป และอีกคนหนึ่งก็ไร้เดียงสาเกินไป คนสองคนนี้หากเป็นเพื่อนกันจริงๆ ทั้งสองฝ่ายอยากจะหาจุดกึ่งกลางระหว่างกัน ต้องเป็นเรื่องที่เหนื่อยอย่างมากแน่นอน
ดังนั้น ทั้งสองคนอยู่ในสถานะแบบนี้ สำหรับเย่เฉินแล้วมองว่ามันดีที่สุด
ดังนั้น เย่เฉินก็จึงเปลี่ยนเรื่อง แล้วเอ่ยถามเซียวชูหรัน“ที่รัก พิธีจบการศึกษาเริ่มกี่โมง?”
เซียวชูหรันตอบ“พิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา17.00-17.30 น ก็จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ”
เย่เฉินพยักหน้ารับ และพูดว่า“งั้นตอนบ่ายเรามาจัดกระเป๋ากัน พรุ่งนี้เช้าจะได้ขับรถไปที่นครนิวยอร์กเลย”
“ก็ได้!”เซียวชูหรันตอบตกลงอย่างหน้าชื่นตาบาน พูดอย่างระรื่น“จากบ้านมานานขนาดนี้ รู้สึกคิดถึงเหมือนกัน!ไม่กี่วันก่อนพ่อฉันก็เพิ่งจะจบการแลกเปลี่ยน เดินทางจากเกาหลีกลับเมืองจินหลิงไป ไม่รู้ว่าอยู่บ้านคนเดียวจะเป็นยังไงบ้าง ตัวเขาเองก็ทำกับข้าวไม่เป็น เรื่องอาหารการกินก็เป็นปัญหาเหมือนกัน”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม“เรื่องกินเรื่องเล็ก สมัยนี้มีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่ง ไม่มีทางอดอยู่แล้ว นี่แม่เองก็ไม่ได้อยู่ด้วย ไม่แน่ว่าพ่อคงอาจจะมีความสุขอย่างมาก บางทีอาจจะอยากให้เราไม่ต้องรีบกลับไปก็ได้ สำหรับพ่อบ้านสูงวัยแล้ว การได้อยู่บ้านคนเดียวลำพังสักสองสามวัน มันสุขสบายกว่าการได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเสียด้วยซ้ำ”
เซียวชูหรันอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ“พูดเรื่องดูแลบ้านช่อง ยังไงก็ต้องเป็นผู้หญิง!คุณดูตอนที่เรามาสหรัฐอเมริกาใหม่ๆสิ พ่อก็ไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลี ที่บ้านมีแค่แม่คนเดียว หากเป็นอย่างที่คุณพูดเมื่อกี้ เธออยู่บ้านคนเดียวก็ต้องสุขสบายอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังเอาแต่คิดถึงพวกเรา จึงเดินทางมาหาพวกเราที่สหรัฐอเมริกานี่ไงล่ะ”
เย่เฉินก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ แอบคิดในใจ“หม่าหลันนี่นะคิดถึงพวกเรา?ภรรยาผู้แสนดี คุณไม่รู้จักแม่ของคุณเอาซะเลย ที่แม่คุณมาสหรัฐอเมริกา นั้นก็เพราะผมให้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ วางแผนเล็กๆขึ้นมา ให้เธอใช้เงินจนหมด หากเธอยังมีเงินอยู่สักแสนสองแสน เอาเกี้ยวไปรับตัวเธอมา เธอก็ไม่มีทางมาสหรัฐอเมริกานี้แน่นอน ”