ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 5059 จบหลักสูตรมาสเตอร์คลาส1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 5059 จบหลักสูตรมาสเตอร์คลาส1
“เพิ่มยอดฝีมือแดนมืดอีกสามคน ?!”
คำพูดของเย่เฉิน ทำเอาว่านพั่วจวินถึงกับอ้าปากค้าง
ถึงตอนนี้เขาจะเป็นยอดฝีมือแดนมืดไปแล้ว แต่ในใจเขารู้ดี การจะเป็นยอดฝีมือแดนมืดคนหนึ่งได้นั้นยากเย็นแค่ไหน
พูดตามตรง การบำเพ็ญตนจนสามารถบรรลุแดนมืดไปได้ด้วยตัวเองนั้น ว่านพั่วจวินไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยสักคน
ก่อนอื่นเริ่มจากที่ตัวเอง สามารถจะบรรลุแดนมืดได้ ล้วนเพราะมีเย่เฉินคอยให้การสนับสนุน
ถัดไปอาจารย์ของเขา กว่าสามสิบปีที่ไม่สามารถจะบรรลุได้ ก็อาศัยการสนับสนุนจากเย่เฉินเหมือนกัน ถึงได้สมดังหวังได้
ส่วนต้วนลี่เย่ทูตพิเศษขององค์กรพั่วชิง หนี่เจิ้นหยูขุนพลหัวเมือง นั้นก็ล้วนได้รับการฝึกฝนมาจากค่ายฮูเบนในองค์กรพั่วชิง
ดังนั้น จนถึงตอนนี้ ว่านพั่วจวินก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ายอดฝีมือแดนมืดคนไหน ที่สามารถบรรลุได้ด้วยตัวเอง
และเพราะแบบนี้ ในตอนที่ว่านพั่วจวินได้ยินเย่เฉินบอกว่าจะเพิ่มยอดฝีมือแดนมืดของสำนักว่านหลงอีกสามคนนั้น คนทั้งคนก็ทั้งตกใจและดีใจ แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง
ในมุมมองของว่านพั่วจวิน หากสำนักว่านหลงมียอดฝีมือแดนมืดได้ถึงห้าคน ความแข็งแกร่งนั้นต้องก้าวไปอีกขั้นอย่างแน่นอน นี่ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก
ดังนั้น เขาจึงพูดกับเย่เฉินอย่างตื้นตันและตื่นเต้น“คุณเย่ หากผมบอกเรื่องนี้กับพี่น้องนายพลหกดาวทุกคน พวกเขาจะต้องตื่นเต้นและดีใจอย่างมากแน่ๆ!”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเรียบ“องค์กรพั่วชิงก่อตั้งค่ายฮูเบน มันเป็นการกระทำที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง!ที่แตกต่างจากทหารหน่วยกล้าตายนั้นก็คือ สามารถเข้าร่วมกับค่ายฮูเบนได้ ล้วนเป็นผู้เก่งกาจแดนสว่างชั้นสูงสุด แต่ที่ล้ำค่ากว่านั้นคือ องค์กรพั่วชิงแทบไม่ต้องกักขังหรือให้พวกเขาต้องตกเป็นทาสเลย เพียงแค่บอกว่าค่ายฮูเบนนั้นสามารถให้พวกเขากลายเป็นยอดฝีมือแดนมืดได้ พวกเขาก็ตะเกียกตะกายกัน ถึงขั้นแก่งแย่งกันเพื่อจะได้เข้าร่วมองค์กรพั่วชิง อีกทั้งพวกเขาก็ยังเต็มใจที่จะกินยาพิษนั้นเอง”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดด้วยสีหน้าจริงจัง“ข้อได้เปรียบอย่างยิ่งของค่ายฮูเบน คือเขาไม่ต้องไปฝึกฝนคนเหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่เลือกจากนักบู๊ทั่วทั้งมุมโลกได้เลย อย่ามองข้ามสิทธิพิเศษแบบนี้เป็นอันขาด มันสามารถตั้งเกณฑ์การคัดกรองแบบขั้นสุดได้ ช่วยหย่อนระยะเวลาและสรรพกำลังของตัวเองไปได้มากโข ”
ว่านพั่วจวินอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ“พวกเขาให้ยอดฝีมือแดนมืดทุกคนออกเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลก เพื่อเสาะแสวงหาคนมาเข้าร่วมค่ายฮูเบน การเดินหมากแบบนี้ก็ถือว่าฉลาดมาก ยอดฝีมือแดนมืดเหล่านี้ สามารถมองเห็นพลังวิชาของนักบู๊แดนสว่างชั้นสูงสุดทุกคนกับนักบู๊ที่มีการฝึกฝนต่ำกว่าแดนสว่างชั้นสูงสุด เมื่อเป็นเช่นนี้ หากพวกเขาพบนักบู๊แดนสว่างชั้นสูงสุด ก็ยากที่จะปฏิเสธการเป็นยอดฝีมือแดนมืดและตกเป็นเหยื่อได้”
เย่เฉินพูดอย่างเห็นด้วย“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรเอามาเป็นแบบอย่าง สำนักว่านหลงก็ควรที่จะก่อตั้งองค์กรภายในที่จะสามารถฝึกฝนยอดฝีมือแดนมืดขึ้นมา ขั้นตอนแรกสามารถคัดเลือกจากภายในของเราเอง ขั้นตอนที่สอง ก็สามารถทำแบบค่ายฮูเบนขององค์กรพั่วชิง เสาะหาผู้ที่เหมาะสมจากทั่วทุกมุมโลก”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดต่อ“เรื่องนี้ ฉันกลับไปแล้วจะลองคิดทบทวนดูอีกที และจะพยายามบรรจุไว้ในวาระการประชุมโดยเร็วที่สุด”
ว่านพั่วจวินพูดด้วยความเคารพ“ได้ครับคุณเย่ ผมจะรอคำชี้แนะของคุณครับ !”
……
ในตอนเที่ยง เรือเร็วที่เย่เฉินกับว่านพั่วจวินโดยสารมา ได้มาเทียบท่าที่เบรุตเมืองหลวงของเลบานอน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา จากเลบานอนเย่เฉินก็นั่งเครื่องบินคองคอร์ดกลับสหรัฐอเมริกาในทันที
ส่วนว่านพั่วจวินเองหลังจากที่เย่เฉินขึ้นเครื่องไปแล้ว ก็เดินทางกลับไปยังฐานที่มั่นของสำนักว่านหลงในซีเรีย
องค์กรพั่วชิงที่แข็งแกร่งไม่รับรู้เลยสักนิด ว่าพวกเขาได้สูญเสียฐานที่มั่นในไซปรัสไปแล้วอย่างสมบูรณ์