ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 4940 ความลับอันลี้ลับที่หลบซ่อน 1
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน บทที่ 4940 ความลับอันลี้ลับที่หลบซ่อน 1
“อ๊า……ฉัน……”
ถูกเย่เฉินถามกะทันหัน ผู้อาวุโสคนนั้นดูเหมือนตึงเครียดมากในตอนแรก
เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี และก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรบ้าง ทำได้แต่เงยหน้ามองเด็กสาวงดงามคนนั้นที่อยู่ด้านข้างตามจิตใต้สำนึก
เด็กสาวเห็นว่าเป็นเช่นนี้ เลยรีบเอ่ย : “คุณปู่……ตอนนี้จนถึงขั้นนี้แล้ว คุณก็บอกความจริงกับคุณคนนี้เถอะค่ะ ! ”
“ผม……” ผู้อาวุโสนึกไม่ถึงว่าเด็กสาวจะถึงกับพูดขนาดนั้น ในตอนแรกเลยยิ่งไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
อย่างไรซะ เขาเป็นเพียงข้ารับใช้ที่อยู่ข้างกายคุณหนู คุณหนูเรียกตัวเองว่าคุณปู่ต่อหน้าทุกคน เขาสามารถเข้าใจได้ เขาสามารถฟังความหมายที่อยู่ในคำพูดของคุณหนูออก คือต้องการแสร้งความสัมพันธ์ปู่หลานกับตัวเอง
แต่ว่า จู่ ๆ ตอนนี้คุณหนูต้องการให้ตัวเองพูดความจริง นี่เลยทำให้ตัวเองสับสน
เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่า ความจริงควรพูดอย่างไรกันแน่
เด็กสาวคนนั้นฉวยโอกาสตอนที่ผู้อาวุโสยังไม่ได้ปล่อยไก่ รีบแย่งนำไปก่อนก้าวหนึ่ง พูดกับเย่เฉิน : “คุณคะ คุณปู่ของฉันเขาตัดสินใจไม่ได้ มิสู้ให้ฉันอธิบายให้คุณดีกว่า”
เย่เฉินไม่ได้มองเห็นความแปลกประหลาดระหว่างเด็กสาวกับผู้อาวุโสออก เห็นเด็กสาวเต็มใจบอกสาเหตุ เลยพยักหน้าเอ่ย : “สาวน้อย เชิญว่ามาได้เลย”
เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะเม้มปากยิ้ม จากนั้นเอ่ยปาก : “อันที่จริง สาเหตุที่คนกลุ่มนี้ต้องการจับฉันกับคุณปู่ฉัน เป็นเพราะคนคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ต้องการของล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่คุณพ่อฉันทิ้งไว้ให้”
“ของล้ำค่า ?” เย่เฉินได้ยินคำนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจอยู่หน่อย : “ของล้ำค่าอะไรที่คุ้มค่าให้ผู้มีพระคุณของพวกเขาคิดหาวิธีการอย่างสุดความสามารถก็ต้องให้ได้มาเช่นนี้ ?”
แม้ว่าเย่เฉินไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณคนนั้นชื่อแซ่อะไร และไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณนั่นมีความสามารถแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่เขายังคงสามารถเห็นส่วนปลีกย่อย ผ่านการเข้าใจองค์กรนี้ในปริมาณน้อยในตอนนี้ได้
จากมุมมองของเขา ความสามารถโดยรวมขององค์กรลึกลับนี้ต้องอยู่เหนือตัวเองอย่างแน่นอน ถึงขนาดที่แม้กระทั่งตระกูลอานก็จะถูกพวกเขาเล่นอยู่ในเงื้อมมือ
ดังนั้น เย่เฉินคาดการณ์ว่า ความสามารถขององค์กรลึกลับนี้ จะไม่ด้อยไปกว่าตระกูลรอธส์ไชลด์ที่จัดอยู่ในอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้
ถึงขนาดที่มีความเป็นไปได้ว่า แข็งแกร่งกว่าตระกูลรอธส์ไชลด์มากโขเลยด้วยซ้ำ
เป็นเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถแข็งแกร่งมาก เย่เฉินเลยไม่เข้าใจ คนที่ยืนอยู่เหนือมวลชนพวกนี้ ทำไมถึงแย่งของกับปู่หลานสองคนนี้ด้วย
เด็กสาวนั่นเห็นเย่เฉินมีข้อสงสัย เธอเลยลังเลอยู่พักหนึ่ง หยิบถุงหอมใหญ่เท่าฝ่ามือถุงหนึ่งออกมาจากในเสื้อผ้าที่อยู่ติดตัวเองไว้
จากนั้น เธอใช้มือขาวอ่อนนุ่มละเอียด หยิบแหวนสีบรอนซ์ที่ธรรมดา ๆ วงหนึ่งออกมาจากในถุงหอม
วินาทีนั้นที่แหวนวงนั้นหยิบออกมาจากถุงหอม เย่เฉินก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีให้เห็นมาก กลับมีความรู้สึกว่าคุ้นเคยมากอีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่า แหวนเล็ก ๆ วงนี้เป็นเครื่องมือทางธรรมชิ้นหนึ่งที่เหมือนกับมีดทะลุวิญญาณ ยันต์ฟ้าร้องของตัวเอง !
และนี่ก็เป็นครั้งแรกของเย่เฉินด้วยเช่นเดียวกัน ที่เห็นเครื่องมือทางธรรมที่มีคุณค่าที่แท้จริงในมือของคนอื่น !
เขายังนึกว่าสาวน้อยคนนี้เองก็มีปราณทิพย์เหมือนกับตัวเอง ครั้นแล้วเลยแบ่งปราณทิพย์สองสามส่วนค่อย ๆ ตรวจสอบเด็กสาวคนนี้อย่างเงียบ ๆ ตามจิตใต้สำนึก
แต่ว่า พอตรวจสอบไปแล้ว เขาหาร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับปราณทิพย์จากตัวเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เลยสักนิด
ซึ่งก็หมายถึง เด็กสาวคนนี้ไม่มีปราณทิพย์อย่างแน่นอน ไม่มีทางที่จะเป็นคนที่อยู่ในทางเดียวกันกับเย่เฉิน
ครั้นแล้ว เย่เฉินจึงอดไม่ได้ที่จะถามเธอ : “สาวน้อย แหวนวงนี้ มีที่มาที่ไปยังไงกันแน่ ?”
เด็กสาวเอ่ยเบา ๆ : “แหวนวงนี้คุณพ่อเป็นคนทิ้งเอาไว้ให้ฉัน”