ตอนที่ 11 เปลี่ยนแปลง(1)
“หมัด ฝามือ ขา ฟุตเวิร์ค”
เทคนิคการต่อสู้ของซอมบี้แต่ละตัวนั้นแตกต่างกัน
แม้ว่าคววามทรงจำจะทับซ้อนกันแต่มันนก็ไม่ได้สับสน มันเหมือนกับว่าความทรงจำเป็นจิ๊กซอว์มันเตีมเต็มข้อบกพร่องของกันและกันทีละนิด ความทรงจำที่หลู่เซิงดูดซับมาส่วนมากเป็นเทคนิคหมัด
หลู่เซิงคิดว่าประโยชน์ทีดีที่สุดที่โลกแห่งความฝันมอบให้เขาคือการดูดซับความทรงจำเขาสามารถดูดซับได้อย่างต่อเนื่อง
หลู่เซิงสามารถเชี่ยวชาญเทคนิคต่างๆได้อย่างงายดายแตกต่างจากคนอื่นทีต้องใช้ทั้งเงินและเวลาในการที่จะเชี่ยวชาญเทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง
มันเหมือนเขาเหยียบไหล่ของคนอื่นเพื่อก้าวไปข้างหน้า
ในช่วงเวลานี้เขาดูดซับความทรงจำของซอมบี้ที่ใช้เทคนิคเดียวกันตอนนี้เทคนิคหมัดของเขาก็ก้าวกระโดด เขายังได้รับเบาะแสเกี่ยวกับฐานที่ 1359 จากความทรงจำที่เขาดูดซับมามันเริ่มปะติดปะต่อกันได้ และเขาก็รู้เส้นทางที่ไปฐาน1359แล้ว
“ทิศทางที่ฉันมาถูกแล้ว อีกไม่นานก็น่าจะถึง”
“วันนี้ไม่ควรไปไกลมาก”
หลู่เซิงมองไปข้างหน้าในหมอกสีเทาและเห็นร่างสองร่างกระพริบอยู่ในหมอก
ดวงตาของเขาแน่วแน่และเขาก็เดินไปข้างหน้า
…………..
“เกี่ยวกับการแก้ปัญหานี้…”
ในห้องเรียน หลู่เซิงตั้งใจฟังการบรรยายของอาจารย์
รับตั้งแต่เขาเริ่มฝึกฝนอย่างจริงจังเขารู้สึกว่าสมอของเขายืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม
เขาเดาว่ามันอาจเป็นความทรงจำที่เขาดูดซับมาจำนวนมากในโลกแห่งความฝันและการที่เขารับความทรงเหล่านั้นมามันช่วยกระตุ้นให้สมองเขาพัฒนา
กล่าวง่ายๆคือเขาฉลาดขึ้น
ตอนนี้เขากำลังเรียนจากหนังสือ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
บางอย่างที่ฉันไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลยตอนนี้ฉันสามารถเข้าใจในการอ่านครั้งเดียวมันเหมือนกับฉันกลายเป็น “ผู้เรียนรู้”
ความรู้ด้านศิลปะนั้นไม่ได้ไร้ประโยชนสำหรับเขา
เพราะยังไงก็ตามตอนสอบเข้ามหาลัยก็ต้องสอบศิลปะด้วยแต่คะแนนมันแค่ไม่มาก
“เอาละ เลิกเรียนกันได้”
เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นครูคณิตก็หยุดพูดและออกจากห้อง และ เตือนนักเรียนว่า”ชั้นเรียนต่อไปเป็นชั้นเรียนต่อสู้จริง อย่าพากันโดดเรียนและรีบไปเตรียมตัวกันได้แล้ว”
“เฮ้ หลู่เซิง”
ทันทีที่เขาเดินออกจากห้องหลิวฉีหมิ่งก็ทักเขาจากด้านหลัง
หลิวฉีหมิ่งวิ่งเข้ามาจะกอดคอคอของเขาแต่ยทนมาได้แค่ครึ่งเดียวก็ดึงกลับ
“เดี๋ยวก่อนรอฉันด้วย”
หลิวฉีหมิ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลู่เซิง
ในอดีตเขาและหลู่เซิงมักจะทะเลาะและหยอกกันเล่น
แต่ตอนนี้เวลาเขาอยู่ต่อหน้าของหลู่เซิงเข้ารู้สึกประมาทและรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนมีออร่าอยู่รอบๆตัวของหลู่เซิงผลักเขาออกตลอดเวลา
“นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ”
“ใช่?”
หลู่เซิงไม่ได้สังเกตอาการแปลกๆของหลิวฉีหมิ่งและตอบกลับไปว่า”ยังไงก็ตามการสอบเข้ามหาลัยใกล้จะเริ่มแล้ว นายต้องเข้าใจฉันถ้าฉันไม่ฝึกหนักฉันจะกลายเป็นภาระของครอบครัว”
หลิวฉีหมิ่งตั้งใจเดินตามหลังหลู่เซิง1ก้าวเสมอเพื่อไม่ให้รู้สึกกดดันและพูดขึ้น
“ครอบครัวฉันดีกว่านายอย่างน้อยๆฉันก็เป็นลูกคนเดียว”
หลู่เซิงพยักหน้า
หลิวฉีหมิ่งพูดถูก ถ้าครอบครัวเขามีเขาหรือน้องสาวเขาคนเดียวความกดดันที่พ่อแม่ได้รับคงจะน้อยลง
“แต่น้องสาวนายมีความสามารถมันไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะได้รับคำรับเชิญจากมหาลัยหวูฮั่นเพื่อเข้าเป็นนักเรียนทุน ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ข้างหน้าฉันจะไปเปีดประตูให้”
หลิวฉีหมิ่งวิ่งผ่านหลู่เซิงและเปีดประตูให้
พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ตอนนี้เหมือนจะมีความห่างเหินแต่หลิวฉีหมิ่งไม่ได้สนใจและทำเหมือนทุกอย่างปกติดี
“ทุนการศึกษา”
ดวงตาของหลู่เซิงกระตุก
คำพูดของหลิวฉีหมิ่งทำให้หลู่เซิงคิดออกเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงิน
ด้วยเงินทุนพ่อแม่ของเขาก็จะได้รับความกดดันลดลงและเขาก็จะมีทรัพยากรเพื่อพัฒนาตัวเขาเอง
ยกตัวอย่างเรื่องอาหาร
ตอนนี้หลู่เซิงกินแค่อาหารธรรมดาเท่านั้นและเขาไม่ซื้ออาหารเสริมที่เพี่มค่าฉีและเลือดได้เลยอาหารธรรมดาไม่เพี่ยงพอต่อการเพี่มค่าฉีและเลือดยิ่งกินบ่อยๆค่าเลือดและฉีก็เพี่มน้อยลงๆ
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแม้ว่าเขาจะมีโลกแห่งความฝันแต่ความก้าวหน้าของเขาก็จะช้าลงมาก
ตอนแรกหลู่เซิงตั้งใจจะแก้ไข้ปัญหาด้วยการเป็นนักรบระดับ1ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้เงินเบี้ยเลี้ยงทุกเดือน1000หยวนด้วยเงินนี้เขาสามารถซื้ออาหารเสริมได้
ด้วยคำพูดของหลิวฉีหมิ่งเขาก็นึกหาทางอื่นได้ “ทุนการศึกษา”
ทุกโรงเรียนมีทุนให้สำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดีและโรงเรียนที่เขาอยู่โรงเรียนที่3ของเมืองไปเห่อก็มี
“ฉันจำได้ว่าทุนของโรงเรียนที่3คือ10000หนวรถ้าฉันได้ทุนละก็”
จังหวะนั้นหลู่เซิงคิดได้ว่าเขาต้องแสดงความสามารถเพื่อรับเงินทุนนี้
……………………………………………………………………………………………………………….
แปลโดย มือใหม่แปลนิยาย
ไม่ต้องสงสัยทำไม2ตอนก่อนอ่านไม่ได้แอดลืมกดsave55555555555555555555555555
MANGA DISCUSSION