นายน้อยเจ้าสำราญ - ตอนที่ 1150 เฉลิมฉลอง
ตอนที่ 1150 เฉลิมฉลอง
เมืองซ่างหลัวได้บังเกิดภาพครึกครื้นขึ้นมาอีกครา
ทหารบนกำแพงเมืองวางหอกลง พวกเขายืนเคร่งขรึมอยู่สองฟากฝั่งประตูเมือง
ใบหน้าของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความสุข ในที่สุดก็มิต้องทำสงครามแล้ว !
ชาวฝูหล่างจีที่น่ารังเกียจ ถูกจำกัดโดยกองทัพของต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่ !
องค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งต้าเซี่ยได้เสด็จมาเยือนด้วยพระองค์เอง เขาคือจักรพรรดิ ทั้งยังตรัสว่าจะนำมิตรภาพมาสู่สถานที่แห่งนี้ เช่นนั้นแคว้นซ่างหลัวอาจจะสามารถเป็นพันธมิตรกับประเทศที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ !
ฟู่เสี่ยวกวนสวมใส่ฉลองพระองค์เต็มยศ เนื่องจากนี่เป็นการมาเยือนของพวกเขา ควรจะเป็นทางการสักเล็กน้อย
ทหารนาวิกโยธินจำนวน 300 นายซึ่งนำโดยเฮ้อซานเตาได้ทำการเบิกทาง ราชรถมังกรของฟู่เสี่ยวกวนค่อย ๆ เคลื่อนเข้าไปในเมืองซ่างหลัว จากนั้นก็มีขุนนางฝ่ายบุ๋นนับร้อยคนซึ่งนำโดยหยุนซีเหยียนตามไปติด ๆ ปิดท้ายขบวนด้วยทหารนาวิกโยธิน 200 นายเป็นผู้คุ้มกันโดยมีถังเชียนจวินเป็นผู้นำ
พวกเขาเดินเข้าไปในเมืองซ่างหลัวอย่างสง่างามและยิ่งใหญ่ ราษฎรในเมืองซ่างหลัวออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น
โบลล์ตกตะลึงที่องค์จักรพรรดิเฒ่าได้นำคณะขุนนางขั้นสูงมายืนต้อนรับอยู่กลางถนนจั่วหลิน และตกตะลึงในพระเกียรติขององค์จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย
ทหารของต้าเซี่ยเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ชุดเกราะของพวกเขาประกายแสงวาววับเมื่อสะท้อนกับแสงสุริยา ราวกับว่าทำมาจากเงิน !
พวกเขามีวินัยที่เข้มงวดมากยิ่งนัก มิมีทหารคนใดเหล่ตามองฝูงชนที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างทางเลยสักคน
พวกเขายืนประจันหน้ากับจักรพรรดิซ่างหลัว แปรขบวนออกเป็นสองแถว จากนั้นราชรถมังกรของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยก็ได้แล่นมาหยุดอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิเฒ่า
จากการประคองของหลิวจิ่น ฟู่เสี่ยวกวนได้เสด็จลงจากราชรถมังกรโดยมีเฮนรี่ยืนตัวตรงอยู่ข้าง ๆ ฟู่เสี่ยวกวน บัดนี้เฮนรี่รู้สึกสับสนมากยิ่งนัก อยู่ ๆ เขาก็มีความรู้สึกว่าตนมิได้เป็นเชลยหรือนักโทษแต่อย่างใด รู้สึกราวกับว่าตนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของต้าเซี่ย !
ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ !
เขารู้สึกภาคภูมิใจในต้าเซี่ยและภาคภูมิใจแทนองค์จักรพรรดิหนุ่มผู้นี้มากยิ่งนัก !
ตัวเขาเองก็มิเข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดตนเองถึงมีความคิดเช่นนี้ รู้เพียงแค่ว่าชีวิตในตอนนี้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากโข
ฟู่เสี่ยวกวนยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับองค์จักรพรรดิซ่างหลัว จักรพรรดิเฒ่าจ้องมองไปที่จักรพรรดิหนุ่ม อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาล
ดุจภูเขาที่หนักอึ้งและท้องทะเลอันกว้างใหญ่ !
นี่คือความยิ่งใหญ่ของต้าเซี่ย !
เขาก้มตัวลงแสดงความเคารพต่อฟู่เสี่ยวกวน !
“ข้ามีนามว่าโดฮาจักรพรรดิแห่งซ่างหลัว ขอต้อนรับจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยที่เสด็จมาเยือน ! ”
เฮนรี่รีบแปลให้แก่ฟู่เสี่ยวกวนฟังทันที ฟู่เสี่ยวกวนยังคงยืนตัวตรงอยู่ที่เดิม “ข้ามีนามว่าฟู่เสี่ยวกวน จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย ยินดียิ่งนักที่ได้พบท่าน”
“ต้าเซี่ยหรือดินแดนเทพทางตะวันออก ในครานี้พวกเราเดินทางออกสำรวจและได้พบเข้ากับแคว้นซ่างหลัว ได้ยินมาว่าชาวฝูหล่างจีกำลังรุกรานเข้ามายังซ่างหลัว พวกเราได้ทำการกำจัดพวกเขาแล้ว จงไปนำตัวฟิลิปมา…”
“เขาผู้นี้เป็นแม่ทัพใหญ่ในการเดินเรือครานี้ เพื่อเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพระหว่างต้าเซี่ยกับซ่างหลัว ข้าจะขอมอบเขาให้แก่ท่าน โดยท่านจะสังหารหรือจะทำเยี่ยงไรก็ตามแต่ท่านจะประสงค์”
“ข้าขอขอบคุณจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งต้าเซี่ยมากยิ่งนักที่ให้การช่วยเหลือในครานี้ ทหารนำตัวมันไปขังไว้ในคุกและจับตาดูอย่างเข้มงวด”
โดฮาโค้งคำนับต่อฟู่เสี่ยวกวนอีกครา “องค์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์ได้ช่วยซ่างหลัวเอาไว้ พระองค์และประเทศต้าเซี่ย ถือเป็นผู้มีพระคุณต่อราษฎรและแคว้นซ่างหลัวตลอดไป ! ”
“ได้โปรดอนุญาตให้ข้าได้จุมพิตที่เท้าของท่าน แคว้นซ่างหลัวยินดีมากยิ่งนักที่จะได้เป็นพันธมิตรกับประเทศต้าเซี่ยไปตลอดกาล ! ”
เมื่อได้ยินคำแปลจากเฮนรี่ ฟู่เสี่ยวกวนก็รู้สึกกระสับกระส่ายและอึดอัดขึ้นมาทันใด จุมพิตที่เท้าเยี่ยงนั้นหรือ ? จับมือแทนมิได้หรือเยี่ยงไรกัน ? เท้านั้น…เมื่อคืนข้ามิได้ล้าง ประเดี๋ยวจะทำให้ท่านจักรพรรดิเป็นลมล้มพับเอาได้ !
“ฝ่าบาทนี่คือมารยาทสูงสุดของแคว้นซ่างหลัว หากฝ่าบาทมิเต็มใจ…พวกเขาอาจจะคิดว่าฝ่าบาททรงละทิ้งพวกเขาก็เป็นได้ ! ”
“จำต้องถอดรองเท้าหรือไม่ ? ”
“ต้องถอดพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งยังต้องถอดถุงเท้าอีกด้วย ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนและเฮนรี่สนทนากันไปมา ทำให้จักรพรรดิแห่งซ่างหลัวรู้สึกกังวลใจมากยิ่งนัก เขาเกรงว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยผู้นี้จะปฏิเสธ เขาหวังจากใจจริงว่าซ่างหลัวจะได้รับความคุ้มครองจากต้าเซี่ยซึ่งเป็นประเทศที่มหาอำนาจและมีการทหารที่แข็งแกร่ง หากซ่างหลัวมีพวกเขาคอยสนับสนุน บนผืนปฐพีแห่งนี้จะมีประเทศใดกล้ามารังแกแคว้นซ่างหลัวที่อ่อนแออีก
จะมิมีสงครามเกิดขึ้นอีกต่อไป ราษฎรในซ่างหลัวก็จะสามารถลืมตาอ้าปากได้ในที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นแคว้นซ่างหลัวคงสงบสุขอย่างแท้จริง
ฟู่เสี่ยวกวนทำได้เพียงจำใจยอมรับพิธีการนี้
หลิวจิ่นทำการถอดรองเท้าและถุงเท้าให้แก่ฟู่เสี่ยวกวน จักรพรรดิเฒ่าก้มกราบลงบนพื้น จากนั้นก็บรรจงจูบที่เท้าของฟู่เสี่ยวกวนด้วยความเคารพ
ขุนนางที่อยู่เบื้องหลังของเขา รวมถึงบรรดาทหารและราษฎรที่อยู่สองข้างทางก็วางใจขึ้นมาทันใด นั่นหมายความว่าทั้งสองประเทศได้สร้างพันธมิตรร่วมกันขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่านับจากนี้สืบไปแคว้นซ่างหลัวจะยอมจำนนต่อต้าเซี่ยและจงรักภักดีต่อต้าเซี่ยเพียงผู้เดียว
ชาวซ่างหลัวบูชาผู้แข็งแกร่ง และต้าเซี่ยก็แข็งแกร่งอย่างที่พวกเขามิอาจจะจินตนาการถึงได้
มิมีอันใดให้รู้สึกแย่ที่พวกเขาต้องยอมจำนนเช่นนี้ พวกเขารู้สึกว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยคือของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้พวกเขา
เสียงปรบมือดังปะทุขึ้นในเมืองซ่างหลัว ราวกับว่าราษฎรกำลังจัดงานเฉลิมฉลองครายิ่งใหญ่ ดวงตาของพวกเขาเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา จากนั้นก็วิ่งไปป่าวประกาศข่าวดีนี้ให้กับชาวบ้านคนอื่น ๆ ได้รับรู้ พวกเขานำเบคอนที่มีอยู่ในบ้าน รวมถึงอาหารต่าง ๆ มอบให้แก่บรรดาทหารต้าเซี่ย !
การต้อนรับอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้ทำให้เฮ้อซานเตารู้สึกอึดอัดมากยิ่งนัก พวกเจ้าทำเช่นนี้…ข้าจะกล้าปล้นได้เยี่ยงไร ?
พวกเจ้าควรจะโยนไข่เน่าใส่ข้าสิ !
พวกเจ้าควรจะถ่มน้ำลายใส่ข้าต่างหาก !
ให้ตายเถิด !
สตรีชาวซ่างหลัวนางหนึ่งเบียดเข้ามาในฝูงชนด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ นางถือผ้าพันคอสีขาวซึ่งทำมาจากขนสัตว์แล้วเดินตรงเข้าไปหาเฮ้อซานเตา จากนั้นก็นำผ้าพันคอนี้คล้องไปที่คอของเขา จากนั้น…นางก็ทำการจูบเฮ้อซานเตาแล้ววิ่งกลับไปรวมกลุ่มกับฝูงชนด้วยความดีใจ
นี่มัน…
เฮ้อซานเตาตกตะลึงขึ้นมาทันใด หรือในเมืองซ่างหลัวแห่งนี้จะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นกันนะ ?
จากนั้นร่างทั้งร่างของเขาก็แข็งเกร็งขึ้นมา ใบหน้าของคุณหนูหกแห่งตระกูลโจ่งปรากฏขึ้นมาในภาพจำของเขา เขาจึงดับภาพลวงตาทั้งหมดและดึงสายตากลับมาจากแม่นางผู้นั้น
เอาเถิด…ข้ามิได้มีความใจกว้างเฉกเช่นเดียวกับนายน้อยแห่งเมืองหลินเจียงผู้นั้น !
จากการนำทางของจักรพรรดิโดฮาแห่งซ่างหลัว ฟู่เสี่ยวกวนมิได้นั่งราชรถมังกรแต่อย่างใด เขาเดินอยู่ข้าง ๆ โดฮาบนถนนในเมืองซ่างหลัวแห่งนี้ โดยที่โดฮาเดินตามหลังเขาอยู่ครึ่งก้าว เขาสนทนากับฟู่เสี่ยวกวนไปตลอดทาง
เฮนรี่ทำการแปลอย่างเหน็ดเหนื่อย ทว่ารู้สึกมีความสุขมากยิ่งนัก นี่คือคุณค่าในตัวเขา เขาเชื่อมั่นว่าจักรพรรดิหนุ่มแห่งต้าเซี่ยผู้นี้จะทำสงครามตั้งแต่เหนือจรดใต้อย่างแน่นอน เขาจะได้ติดตามอยู่ข้างกายพระองค์อีกเป็นเวลานาน ได้เป็นสักขีพยานในความยิ่งใหญ่แห่งการก่อตั้งอาณาจักรใหม่
ฝูหล่างจี…พระองค์จะเสด็จไปยังฝูหล่างจีหรือไม่ ?
ทวีปยุโรปมีประเทศมหาอำนาจก่อตั้งขึ้นมามากมาย กองเรือของเขาจะแล่นไปยังทวีปอันไกลโพ้นเหล่านั้นหรือไม่ ?
“สถานที่แห่งนี้มีนามว่าเยี่ยงไร ? ข้าหมายถึงแผ่นดินใหญ่”
คำถามของฟู่เสี่ยวกวนเข้ามาขัดจังหวะความคิดของเฮนรี่ เขาทำการแปลประโยคเมื่อครู่ จากนั้นโดฮาก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “นี่คือแผ่นดินใหญ่ลีอาห์ ข้ารู้เพียงว่ามีอยู่สามแคว้น ได้ยินมาว่าห่างไกลออกไปก็มีอยู่อีกหลายแคว้น ทว่าถูกแยกออกจากกันโดยมีทะเลทรายขวางกั้น จวบจนบัดนี้ก็ยังมิเคยมีผู้ใดเดินทางไป”
ฟู่เสี่ยวกวนชะงักงันไปชั่วครู่ แผ่นดินใหญ่ลีอาห์เยี่ยงนั้นหรือ ?
“นอกจากแคว้นซ่างหลัวแล้ว ที่นี่ยังมีแคว้นซูเฟิงและเทียนเย่า จะว่าไปแล้วก็น่าอับอายเสียเหลือเกิน ซ่างหลัวเป็นแคว้นที่ยากจนและล้าหลังที่สุด ในขณะที่เทียนเย่าเป็นแคว้นขนาดใหญ่และมีประชากรมากที่สุด ทั้งยังเป็นแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดในแผ่นดินใหญ่ลีอาห์”
“แต่แน่นอนว่าพวกเขายังห่างไกลกับต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่มากนัก ! ”
เมื่อชาติที่แล้ว มิมีแผ่นดินใหญ่นามนี้อยู่บนโลกและมิมีแคว้นเหล่านี้เช่นกัน โลกใบนี้…แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
ทว่ามีฝูหล่างจีและทวีปยุโรปเหมือนกันกับชาติก่อน แม้แต่ประเทศมหาอำนาจในทวีปยุโรปก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว โลกใบนี้มันเป็นเยี่ยงไรกันแน่ ?