ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย - ตอนที่ 690 วางอุบาย
ตอนที่ 690 วางอุบาย
สองสาวใช้ไม่กล้าตอบโต้ สุดท้ายถูกฟางซื่อตีจนปางตาย แต่ฟางซื่อยังคงโมโหมาก สั่งหัวหน้าสาวใช้ ไปตามแม่เล้าสำนักคณิกามารับไป นางส่งไปสำนักคณิกาทันที ไม่เอาแม้สักแดง แต่มีเงื่อนไขว่าให้พวกนางรับแขกทุกวันไม่น้อยกว่าห้าคน
กล้าแย่งผู้ชายของนาง ไปตายซะ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่รู้เรื่องที่เกิดในตระกูลเจิ้ง เขาพาลูกน้องกลับเมืองหนิงโจว
พอถึงบ้าน ลู่เจียวกำลังเอนหลังพิงเตียงรอเขาอยู่ พอเห็นเขากลับมาก็โล่งอก แต่ก็ได้กลิ่นสุราที่ตัวเขาทันที อดขมวดคิ้วไม่ได้ “เจ้าไม่ได้ไปจัดการเรื่องคดีเซี่ยต้าเฉียงหรือ เหตุใดจึงมีกลิ่นสุราเต็มตัว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเล่าเรื่องเจิ้งจื้อซิ่งเลี้ยงข้าวเขาที่จวน ลู่เจียวได้ยินว่าเจิ้งจื้อซิ่งวางยาปลุกกำหนัดเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็โมโหมาก แทบจะบุกไปตระกูลเจิ้ง ตบบ้องหูชายผู้นั้นสักที
วันๆ ไม่ทำเรื่องดี คิดแต่เรื่องชั่ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวขมวดคิ้ว ก็รีบเดินเข้าไปปลอบนาง “ไม่เป็นไร ข้าจะระมัดระวัง”
“มีเพียงพันวันเป็นโจร ไม่มีพันวันป้องกันโจร เจิ้งจื้อซิ่งจับจ้องเจ้าไม่ยอมปล่อย ไม่ได้การ ต้องรีบหาวิธีกำจัดเขา”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้ม สีหน้ามีแววร้ายกาจขึ้นมาทันที
“ข้าทายาออกฤทธิ์ช้าไว้ที่เสื้อผ้าเขา ก็คือยาที่เมื่อก่อนเจ้าเคยใช้ ค่อยๆ ทำให้คนอารมณ์รุ่มร้อน จากนั้นก็ไม่อาจควบคุมตนเองได้”
ลู่เจียวได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ในที่สุดก็ไม่กล่าวอันใดอีก จากนั้นถามถึงเรื่องเซี่ยต้าเฉียง พอฟังจุดจบของเซี่ยต้าเฉียง นางก็แค่นยิ้มด่าสมน้ำหน้า ตนเองมันตัวอันใดไม่รู้หรือ อยู่ดีๆ ไปหลงกลอุบายผู้อื่น
สองสามีภรรยาคุยกันได้ครู่หนึ่งก็ไม่คุยเรื่องนี้ต่อ หันไปคุยเรื่องปลูกข้าวเจ้าแทน
วันนี้พ่อบ้านเซียวไปซื้อที่นาสิบหมู่นอกเมืองหนิงโจวติดภูเขาด้วยชื่อของเขา ละแวกนั้นเป็นที่นาปลูกข้าวเจ้า ที่นาพวกเขาอยู่มุมสุด ไม่เป็นที่สะดุดตา
ลู่เจียวถามเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ตอนนี้ฤดูใบไม้ร่วง ปลูกข้าวเจ้าได้ พวกเราปลูกตอนนี้ ก่อนปีใหม่ก็เก็บเกี่ยวได้”
“พรุ่งนี้พวกเราไปโรงนาเพาะปลูกกันดีหรือไม่”
ลู่เจียวคิดถึงว่าวันนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปอำเภอชิงเหอ ไม่ได้ไปประจำการที่ทำการ หากพรุ่งนี้ไม่ไปอีก หลินจือฝู่จะมาหาเรื่องหรือไม่
“หลินจือฝู่จะมาหาเรื่องหรือไม่”
“ข้าหางานให้เขาทำนิดหน่อย ให้เขาไม่มีเวลาว่างมาจับจ้องข้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ก็ยิ้มสำทับอีกประโยคว่า “พรุ่งนี้ข้าให้ใต้เท้าหูไปตรวจสอบแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือสักหน่อย”
ความจริงเขารู้มานานแล้วว่าทางแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือมีเบื้องหลัง เพียงแต่ยังไม่แตะต้องมาตลอด หลินจือฝู่ยังคิดว่าพวกเขาไม่รู้ว่าเรื่องแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือโผล่หางออกมาแล้ว
พรุ่งนี้เขาแสร้งบอกใต้เท้าหูให้ไปตรวจสอบแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือ หากไม่เหนือความคาดหมาย หลินจือฝู่ย่อมต้องไปขวางเขาไว้ ด้วยการไปด้วยกันกับเขา
เช่นนั้นเขายังมีเวลามาคอยจับจ้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีกหรือ
ลู่เจียวเองคิดเข้าใจแล้วก็หัวเราะขำ
“ข้าว่าเจ้าอาศัยเรื่องแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือมาล้มหลินจือฝู่ดีกว่า”
เช่นนี้วันหน้าทำอันใดก็จะได้สะดวกมากขึ้น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเห็นด้วย “อืม ก่อนหน้านี้ข้าคิดอยู่ ว่าจะค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ดูท่ารอไม่ไหวแล้ว”
ปีหน้าเขาวางแผนจะส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวเจ้าในเมืองหนิงโจว หากมีหลินจือฝู่อยู่ ย่อมยุ่งยากยิ่ง ดังนั้นเขาตัดสินใจว่าปีนี้จะต้องกำจัดหลินจือฝู่ จากนั้นขอให้อ๋องเยียนแนะนำจือฝู่ที่ไม่ค่อนสนใจเรื่องราวอันใด มาแทน เช่นนี้เขาก็จะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่คิดว่าตนเองจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งจือฝู่เมืองหนิงโจว เขาเพิ่งจะรับตำแหน่งถงจือระดับหกยังไม่ได้ทำอันใดเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่อาจเลื่อนตำแหน่งเป็นจือฝู่ได้
ลู่เจียวไม่กล่าวอันใดต่อ เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองนางแล้วก็ค่อยๆ โน้มตัวลงจุมพิตริมฝีปากนาง ตั้งแต่ลู่เจียวตั้งครรภ์ สองสามีภรรยาไม่ค่อยได้คลอเคลียใกล้ชิดกันสักเท่าไร สาเหตุหลักก็เพราะเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลัวจะทำร้ายลูกในครรภ์ แต่ไม่ได้คลอเคลียใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน บางครั้งเขาเองก็ทนไม่ไหวจริงๆ
“เจียวเจียว ข้าจะระวัง”
ลู่เจียวไม่ได้ปฏิเสธ ผู้ชายไม่รับอนุ ก็คงได้แต่เป็นนางแล้ว
วันรุ่งขึ้นตื่นนอน เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปที่ทำการรายงานตัวก่อน จากนั้นก็เขาแอบบอกกับใต้เท้าหูว่า วันนี้พวกเขาสองคนจะพาคนไปตรวจสอบแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือเมืองหนิงโจว
ใต้เท้าหูรับปากทันที ทั้งสองคนสั่งการเจ้าหน้าที่ที่ทำการว่าอีกสักครู่จะไปตรวจสอบแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือเมืองหนิงโจว ชาและเกลือเป็นของมีราคา ทำไมพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือเมืองหนิงโจวจึงยังยากจนเช่นนี้ ไม่สมเหตุสมผล
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับใต้เท้าหูเพิ่งจะขยับ หลินจือฝู่ก็ได้ข่าว เขารีบนำคนมาทันที
“ได้ยินว่าพวกเจ้าสองคนจะไปตรวจสอบพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือหรือ”
ใต้เท้าหูเงียบกริบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ใช่แล้ว เมืองหนิงโจวมีพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ ตามหลักควรร่ำรวยถึงจะถูก เหตุใดชาวบ้านจึงยากจนอยู่ และพวกเราตรวจดูภาษีชากับเกลือก็ต่ำมาก ตามหลักการแล้วชาและเกลือเป็นแหล่งภาษีหลักของราชสำนัก เมืองหนิงโจวมีพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือ ควรจะเก็บภาษีได้มากถึงจะถูก แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับไม่ใช่ ข้ากับใต้เท้าหูสงสัยว่าพื้นที่ปลูกชากับบ่อเกลือทางนั้นมีคนปิดบังเบื้องสูงหรือไม่ พวกเราจะไปตรวจสอบสักหน่อย”
หลินจือฝู่ได้ยิน ในใจก็สะดุ้งโหยง หากปล่อยให้พวกเขาไปแหล่งปลูกชากับบ่อเกลือย่อมต้องพบพิรุธ เขาคงต้องโชคร้ายแล้ว
หลินจือฝู่ครุ่นคิดรีบกล่าวว่า “พอดีข้าจะไปดูเหมือนกัน ใต้เท้าหูไปกับข้าก็แล้วกัน ใต้เท้าเซี่ยก็อยู่จัดการการงานที่ทำการไป”
ใต้เท้าหูผู้นี้เลอะเลือน พาเขาไปไม่เป็นไร กลับกัน เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด คนเช่นเขาฉลาดเป็นกรด แค่มองก็เห็นพิรุธแล้ว
ใต้เท้าหลินคิดไปพลางมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เป้าหมายเดิมของเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือให้ใต้เท้าหลินออกไปทำงาน เขาจะได้ไปปลูกข้าวเจ้า
“ได้ เช่นนั้นก็ให้ใต้เท้าหลินกับใต้เท้าหูไปตรวจดู วันนี้พอดีข้ามีงานตรวจสอบที่นาละแวกนี้ ดูว่าดินในเมืองหนิงโจวเหมาะกับการเพาะปลูกอะไร”
หลินจือฝู่รู้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่อำเภอชิงเหอช่วยราษฎรในพื้นที่พัฒนาการเพาะปลูกสมุนไพรยามนี้ได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้ก็คิดว่าเขาจะคิดหาทางช่วยราษฎรเมืองหนิงโจวให้ร่ำรวย จึงปล่อยเขาไป
“ได้ ได้ เจ้าไปเถอะ”
หลินจือฝู่กล่าวจบมองไปยังใต้เท้าหู “พวกเราไปกันเถอะ”
ทั้งสองคนพูดแล้วก็เดินออกไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาลูกน้องกลับบ้าน เดินทางไปพื้นที่นอกเมืองหนิงโจวพร้อมกับลู่เจียวและเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ มีพ่อบ้านเซียวตามไปด้วย
พื้นที่นี้ค่อนข้างห่างไกล รอบข้างมีเพียงชาวบ้านสิบกว่าครอบครัว ยังแยกกันอยู่กระจัดกระจาย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นแล้วก็วางใจไม่น้อย
ทั้งสองคนไปดูมาแล้ว ที่นาข้าวเจ้าที่พ่อบ้านเซียวซื้อมาเป็นที่นาดี ยามนี้ท้องนามีข้าวเจ้ากำลังออกรวง
แต่การปลูกข้าวเจ้าเช่นนี้ได้ผลไม่ดีอย่างมาก ทั้งเตี้ยทั้งเหลืองแลดูกระจัดกระจาย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวลงไปตรวจดูก็พบว่าออกรวงได้ไม่ดีนัก จากนี้แม้รดน้ำใส่ปุ๋ยก็ไม่ได้ช่วยอันใดนัก
มิน่าตอนนี้ผลผลิตข้าวเจ้าต่อพื้นที่ไม่สูง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวตรวจสอบแล้วก็สั่งการพ่อบ้านเซียว
“หาคนมาถอนข้าวเจ้าบนที่นานี้ทิ้ง เตรียมไถดินไว้รอปลูกข้าวเจ้าฤดูใบไม้ร่วงใหม่ ส่วนเจ้าก็หาคนมาคอยดูแลนาข้าวเจ้าให้ข้า จำไว้จะต้องหาคนที่ไว้ใจได้”
พ่อบ้านเซียวรีบรับคำสั่งอย่างรู้ความสำคัญของเรื่องนี้ดี