ดั่งรักบันดาล - ตอนที่ 48
หร่วนซือซือในใจสงสัย นำความทรงจำที่เคยทานอาหารกลับมาคิดในสมองอย่างจริงจัง แน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้ทานมะม่วงหรืออาหารที่ผสมมะม่วง
เธอเอียงศีรษะ“จริงๆแล้วตรงไหนที่ผิดปกติล่ะ?”
เธอคิดพลาง มืออีกข้างหนึ่งก็เกาแขนอีกข้างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
อวี้อี่มั่วมองเห็นการกระทำนี้ของเธอ เลิกคิ้วขึ้น เอื้อมมือออกไป คว้ามือของเธอเอาไว้“อย่าเกา”
คนที่เป็นภูมิแพ้ห้ามเกาผิวหนัง แบบนี้ไม่เพียงจะไม่ช่วยบรรเทา มีแต่จะเพิ่มความคันและทำให้หายยากขึ้น
หร่วนซือซือได้สติกลับมา มองเห็นมือของตัวเองถูกผู้ชายจับเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะแก้มแดง“อ้อ”
อวี้อี่มั่วพูดสั่งอย่างจริงจัง“สำหรับเรื่องที่คุณเป็นภูมิแพ้ยังไง ผมสามารถจะตรวจสอบได้ ตอนนี้หน้าที่ของคุณคือพักผ่อนเยอะๆ”
หร่วนซือซือพยักหน้า เงยหน้าไปมองผู้ชาย ถามอย่างระมัดระวัง“คุณเพิ่งกลับประเทศเหรอ?”
อวี้อี่มั่วตอบเสียงเย็นชา“อืม”
เธอถามอย่างลังเล“ข่าวลือในบริษัท…จะมีผลกระทบกับคุณไหม?”
เธอกังวลที่สุดก็คือเรื่องนี้ ตอนนี้อวี้อี่มั่วกลับมาแล้ว แต่ว่าข่าวลือในบริษัทยังไม่หายไปหมด เธอกลัวว่าจะมีผลกระทบที่ไม่ดีกับเขา
มองเห็นตัวผู้หญิงเองเป็นภูมิแพ้นอนอยู่บนเตียง คาดไม่ถึงว่ายังคงกังวลกับสถานการณ์ของเขาตลอด อวี้อี่มั่วใจอ่อนขึ้นมากะทันหัน“ไม่มี”
หร่วนซือซือวางใจไม่ลง ยังอยากจะถามอีกหลายประโยค ยังไม่ทันจะได้เปิดปากถาม อวี้อี่มั่วก็พูดขึ้นมาก่อน“ผมจะให้ตู้เยี่ยลางานให้คุณ คุณพักผ่อนเยอะๆ รอให้คุณหายดีแล้วค่อยว่ากัน”
หร่วนซือซือจำเป็นต้องยินยอม“ค่ะ”
อวี้อี่มั่วปล่อยมือของเธอ เสียงเบาลงเล็กน้อย“งั้นผมกลับบริษัทก่อน ตอนเย็นจะกลับมาหาคุณ”
เห็นว่าเขาจะออกไปแล้ว หร่วนซือซือในใจหดหู่โดยไม่รู้สาเหตุ จำเป็นต้องพยักหน้า
อวี้อี่มั่วหมุนตัวกลับ เพิ่งจะเริ่มก้าวเดิน ก็รู้สึกถึงมุมเสื้อตึงแน่น ทันใดนั้นก็ถูกคนดึงไว้
เขาหันหน้ากลับไป ก็มองเห็นหร่วนซือซือดึงมุมเสื้อของเขาไว้ สีหน้าลังเล กำลังจะพูดและหยุดลง
“เป็นอะไร?”
หร่วนซือซือสูดหายใจเข้าลึกๆ ปลุกความกล้าเผชิญหน้ากับดวงตาสีดำขลับของผู้ชาย พูดเสียงเบา“คืนนี้…กลับไปทานข้าวที่บ้านด้วยกันได้ไหม?”
หลายวันที่ผ่านมาเวลาที่อวี้อี่มั่วไม่อยู่ เธอมักจะทานอาหารได้น้อย ถึงแม้ว่าในบ้านจะมีป้าหรง แต่เธอก็รู้สึกว่างเปล่า
อวี้อี่มั่วมองเห็นผู้หญิงขอร้องอย่างระมัดระวัง คำพูดที่จะปฏิเสธก็พูดไม่ออก เขาหยุดไปชั่วขณะ ตอบรับเสียงเบา“ได้”
เห็นเขาตอบรับแล้ว หร่วนซือซือจึงค่อยๆปล่อยมือ
อวี้อี่มั่วก้าวเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ยื่นมือออกไปปิดประตูลง
ตู้เยี่ยที่อยู่หน้าประตูก็เดินเข้ามาตรงหน้า“ประธานอวี้ จำเป็นต้องให้คนมาดูแลคุณนายไหม?”
“หยุดชั่วคราว ให้เธอพักผ่อนเยอะๆ ฉันจะมารับเธอสายหน่อย”
พูดพลาง ก้าวเท้าเดินตรงออกไป แต่เหมือนกับคิดอะไรออก ทันใดนั้นสายตาก็เย็นชาลง“เมื่อกี้ให้นายไปตรวจสอบพบหรือยัง?”
ตู้เยี่ยพยักหน้า“ตรวจสอบพบแล้ว คือเลขาของท่าน เฉิงลู่เลขาหน้าห้องประธาน”
ได้ยินชื่อนี้ อวี้อี่มั่วขมวดคิ้วขึ้น และพูด“กลับบริษัท”
ไม่ว่ายังไงก็ตาม หร่วนซือซือก็คือภรรยาของเขา หากคนอื่นต้องการจะรังแกเธอ ก็ต้องผ่านด่านเขาไปก่อน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า คนที่ลงมือกับหร่วนซือซือจะเป็นเลขาของเขาเอง!
จากโรงพยาบาลกลับมาถึงบริษัท ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อวี้อี่มั่วก็กลับมาถึงห้องทำงาน มองดูตู้เยี่ยเปิดวีดีโอที่บันทึกจากกล้องวงจรปิดไว้ สีหน้าก็ยิ่งเยือกเย็นขึ้นกว่าเดิม
หลังจากที่ดูช่วงที่เฉิงลู่ผสมน้ำมะม่วงลงไปในแก้วของหร่วนซือซือดูกลับไปกลับมาห้าครั้งแล้ว ก็ยกแก้วขึ้น ดื่มกาแฟ สั่งตู้เยี่ยเสียงเย็น“ไปเตรียมของที่เหมือนกันมา…”
อีกด้านหนึ่ง เฉิงลู่ที่นั่งอยู่ในห้องทำงานเลขาไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ที่นี่โดยสิ้นเชิง เธออารมณ์ดี ฮัมเพลงสบายใจ เติมลิปสติก
ห้องทำงานประธานไม่ได้มีเพียงเลขาคนเดียว ห้องทำงานเลขาก็ใช้ร่วมกันสองคน อันหร่านเลขาอีกคนกำลังจัดเรียงเอกสารในมือ มองเห็นเฉิงลู่ ยิ้มและถาม“มีเรื่องอะไรทำไมดีใจขนาดนั้น?”
เฉิงลู่มองกระจกพลาง ยิ้มและพูด“มองเห็นคนที่ตัวเองเกลียดขายหน้า อารมณ์ดีมากจริงๆ!”
อันหร่านถามด้วยความแปลกใจ“คนที่เกลียด ใครเหรอ?”
เฉิงลู่ยิ้ม จงใจเสแสร้ง“ไม่บอกเธอ!”
อันหร่านได้ฟัง ก็ไม่ได้ถามต่อ เพียงแค่พูดเสียงเบา“ประธานอวี้กลับมาแล้ว เธอรู้ไหม?”
“ประธานอวี้กลับมาแล้ว?”เฉิงลู่หยุดการกระทำไปชั่วขณะ ดวงตาเปล่งประกาย
ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในอวี้กรุ๊ป ก็เป็นเลขาอวี้อี่มั่วมาโดยตลอด เธอมีใจให้เขามานานแล้ว แต่เป็นเพราะว่าฐานะของทั้งสองคนกีดขวาง ไม่กล้าแสดงออกความในใจของเธอ
ครั้งนี้อวี้อี่มั่วออกไปทำงานนอกสถานที่ ถึงแม้ว่าเธอจะคิดถึง แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกชัดเจน ทำได้เพียงอ้างเรื่องงานเพื่อส่งข้อความไปหาเขา ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เป็นธรรมชาติที่เธอจะกระวีกระวาดร้อนใจ
อันหร่านพูดตามอำเภอใจ“ใช่แล้ว ประธานอวี้กลับมาสักพักแล้ว เพียงแต่เหมือนเขาจะมีเรื่องอะไร อยู่ในห้องทำงานตลอด”
เฉิงลู่ยากที่จะระงับความตื่นเต้นเอาไว้“หรือว่า ฉันจะเข้าไปถามดู?”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นห้องทำงานก็ถูกคนผลักเข้ามา เธอหันตามไปมอง มองเห็นอวี้อี่มั่วยืนอยู่หน้าประตู รู้สึกประหลาดใจ รีบลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น“ประธานอวี้ ท่านกลับมาแล้ว?”
อวี้อี่มั่วสีหน้าไร้ความรู้สึก แทบจะไม่มีความลังเลก็ก้าวเดินตรงไปมาหาเธอ“อืม”
เฉิงลู่ได้เห็น ในใจก็เต้นรัว ถามเสียงเบา“ออกไปดูงานนอกสถานที่ราบรื่นไหมคะ?”
“ราบรื่น”อวี้อี่มั่วตอบรับด้วยเสียงเย็นชา เดินตรงมาหน้าโต๊ะทำงานของเธอ เปิดปากถาม“เธอล่ะ?ไม่กี่วันมานี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกอวี้อี่มั่วถามแบบนี้ เวลานี้ตื่นตะลึงเพราะได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึง“ดี…ดีมากค่ะ”
อวี้อี่มั่วพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“งั้นก็ดี ครั้งนี้ฉันกลับมา ตั้งใจให้ตู้เยี่ยนำของขวัญมาให้เธอ”
เฉิงลู่ทั้งตกใจและดีใจ“ของขวัญ?”
ตั้งแต่ที่เธอมาเป็นเลขาของเขา ถึงแม้ว่ามีชื่อเป็นเลขาของเขา แต่การสื่อสารระหว่างทั้งสองคนก็ล้วนเกี่ยวกับเรื่องงาน ครั้งนี้อวี้อี่มั่วเอาใจใส่เธอเหมือนกับกลายเป็นคนอีกคนอย่างกะทันหัน เป็นธรรมชาติที่เธอจะประหลาดใจ
ขณะที่เธอกำลังดีใจและตื่นเต้น ทันใดนั้นอวี้อี่มั่วก็ตบมือ
เร็วมาก ตู้เยี่ยก็ขนกล่องใหญ่เข้ามา วางลงบนโต๊ะของเฉิงลู่
เฉิงลู่จ้องมอง บนกล่องสีน้ำตาลก็ประทับตราลูกมะม่วงขนาดใหญ่ ด้านข้างยังมีตัวอักษร“มะม่วงคุณภาพดี”
มองเห็นมะม่วงกล่องนี้ ทันใดนั้นเธอก็ขาดความมั่นใจขึ้นมา มองไปที่อวี้อี่มั่วอย่างประหลาดใจ“ประธานอวี้ นี่คือท่าน…”
อวี้อี่มั่วเงยคางขึ้น พูดแสดงเจตนา“ของพวกนี้ ให้เธอทั้งหมด”
เฉิงลู่ไม่เข้าใจ“นี้…”
อวี้อี่มั่วกวาดสายตาเย็นชามองเธอ ไม่ได้พูดจา หันหน้าไปมองที่ตู้เยี่ย
ตู้เยี่ยเข้าใจ เดินมาด้านหน้า ส่งโทรศัพท์ไปที่ด้านหน้าเฉิงลู่
เฉิงลู่ได้เห็น คาดไม่ถึงว่าเป็นวีดีโอจากกล้องวงจรปิด เป็นช่วงที่เธอนำน้ำมะม่วงใส่ในแก้วของหร่วนซือซือ!
ชั่วพริบตาเดียว เธอก็เสียวสันหลังขึ้นมา“ประธานอวี้…ฉันแค่อยากจะเตือนสติเธอ เพราะว่าเธอ ข่าวลือของท่านแพร่กระจายไปทั่วในบริษัท ฉันไม่สามารถจะกลืนความโกรธนี้ได้ลง!”
ไม่รอให้เธอได้พูดจบ อวี้อี่มั่วก็เปิดปากพูดอย่างเย็นชา หยุดคำพูดของเธอ“นำของพวกนี้กินให้หมด”
เฉิงลู่มองสายตาของอวี้อี่มั่ว มองดูมะม่วงกล่องใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะ อดไม่ได้ที่ร่างกายจะสั่นเทา“ประธานอวี้ ครั้งต่อไปฉันไม่กล้าทำแล้ว…”
อวี้อี่มั่วไม่กระพริบตา พูดออกคำสั่ง“มีสองทางเลือก จะลาออก หรือทานให้หมด”