คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 83 จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอไม่ได้
ตอนที่ 83 จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอไม่ได้
สองชั่วโมงผ่านไป ระหว่างทางเดินหน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล
“คุณทำอะไรกับเธอกันแน่? ทำไมอยู่ๆ เธอถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้!”
ถังจิ้นเหยียนเดินออกจากห้องฉุกเฉินมา สองมือคว้าเอาคอเสื้อของหลงเซียว ทั้งคู่ที่ส่วนสูงพอๆ กัน พร้อมระเบิดความโมโหใส่อีกฝ่าย ทางเดินหน้าห้องฉุกเฉินแม้มีคนเดินผ่านไปผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะเข้ามาห้ามหรือหยุดมองถังจิ้นเหยียนกับหลงเซียวแม้แต่คนที่ต้องเดินผ่านบริเวณนั้นยังเลือกที่จะเดินอ้อมพวกเขาสองคนไป
ถังจิ้นเหยียนมีชื่อเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล เขาทะเลาะวิวาทกับหลงเซียวประธานบริษัทMBKตรงทางเดินในโรงพยาบาล ถ้าเรื่องนี้คงเป็นข่าวที่น่าสนใจ
แต่ประธานบริษัทMBKอย่างหลงเซียวถูกรองคณบดีถังคว้าคอเสื้อที่ทางเดินในโรงพยาบาลนั้นยิ่งน่าสนใจกว่า
นัยน์ตาสีดำสนิทของหลงเซียวลุกโชนไปด้วยความโกรธ จ้องถังจิ้นเหยียนเขม็ง “ปล่อยซะ”
ถังจิ้นเหยียนไม่เพียงไม่ยอมปล่อยมือกลับลงน้ำหนักมือดึงรั้งคอเสื้อหนักขึ้น “ที่แท้คุณก็ไม่ได้ใส่ใจเธอเลย! คุณรู้ไหมว่าเธอถูกวางยา?”
“ถูกวางยา? คุณจะบอกว่าเธอถูกวางยา?” นัยน์ตาของหลงเซียววูบไหว ยัยผู้หญิงโง่นี่ถูกวางยา?
เขาไม่รู้เลย กลับมาเมื่อตอนเช้าเธอไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“แม้แต่เรื่องที่เธอถูกวางยาคุณก็ยังไม่รู้?!”
ถังจิ้นเหยียนยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีกเขายกกำปั้นหมายจะชกไปที่หน้าของหลงเซียว แล้วชกไปอย่างแรง
“บอกมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น?” สายตาท่านเซียวตอนนี้แทบจะฆ่าคนได้
ถังจิ้นเหยียนปล่อยมือจากคอเสี้อเขา “เธอถูกวางยาเมื่อคืน ยาพิษชนิดรุนแรง แม้จะช่วยทันแต่ว่าฤทธิ์ยายังคงตกค้างอยู่ในร่างกายเลยยังต้องระบายออกอย่างต่อเนื่องแต่เช้านี้เธอกลับดันทุรังจะกลับบ้าน…..”
พอพูดถึงตรงนี้ ถังจิ้นเหยียนใช้สายตาเย็นเยือกมองหลงเซียว ใบหน้าสะอาดสง่างามพูดออกมาด้วยความโกรธทุกคำ “เธอบอกว่า มีเรื่องที่บ้าน!”
ที่แท้ก็เป็นความผิดของหลงเซียว
ท่านเซียวไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด เขายื่นมือไปคว้าคอเสื้อของถังจิ้นเหยียน แผ่รังสีสังหารโรยรอบตัว “เธอจะฟื้นเมื่อไหร่?”
“ผมก็ไม่ทราบ ต้องดูอาการของคนป่วย”
เธออาการทรุดลงเป็นครั้งที่สองแล้ว เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก
“หมอเก๊! ผมว่าคุณควรลาออกจากโรงพยาบาลไปซะ!”
ไม่ทราบ! ดีซะจริง!
ถังจิ้นเหยียนรู้สึกกลัดกลุ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ใช่ ผมไม่สามารถรักษาเธอได้ทันที เพราะความรู้ผมมีไม่พอ แต่คุณ หลงเซียว เป็นถึงสามีเธอกลับไม่ใส่ใจไม่ใช่ว่าควรไปจากเธอซะ?”
“เหอะ คุณถือสิทธิ์อะไรมาพูดกับผม? รองคณบดีถัง” ถามอย่างเย็นชา
สถานะของถังจิ้นเหยียนนั้นเป็นช่องว่างที่กระอักกระอ่วนของพวกเขา เป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน “เห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันต้องใช้สถานะด้วย?”
เป็นคนดีซะจริง! ท่านเซียวคลายมือออกจากเสื้อคลุมสีขาว “บอกมา เกิดอะไรขึ้นกับเธอ? ทำไมถึงถูกวางยา? แล้วโดนที่ไหน?”
ถังจิ้นเหยียนสะกดความโกรธเอาไว้ เรื่องนี้เขาไม่สามารถปิดบังหลงเซียวได้ อีกทั้งยังต้องหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้และคนทำ ยังไงซะหลงเซียวมีสิทธิ์ที่จะรู้
“เมื่อคืนเพื่อนสนิทของเธอโทรหาผม ตอนที่ผมมาถึงโรงพยาบาลเธอก็ไม่ได้สติแล้ว เรื่องนี้คุณต้องถามเพื่อนของเธอ หรือรอให้เธอฟื้นแล้วค่อยถามเธอ”
ใบหน้าอ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนฉายแววความเสียใจ
ความคิดสองอย่างปรากฏขึ้นในใจของหลงเซียว อย่างแรกคือเธอโดนวางยา อย่างที่สองคือเมื่อถูกวางยาคนที่เธอคิดถึงคนแรกกลับไม่ใช่เขาแต่เป็นถังจิ้นเหยียน
ท่านเซียวยิ่งร้อนรุ่ม
“ลั่วลั่ว!”
ลู่ซวงซวงที่เห็นฉู่ลั่วหานถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินจึงรีบร้อนถาม “เธอพ้นขีดอันตรายแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้กลับเข้าไป? คุณ…”
เบิกตาโพลง แม่ง หลงเซียวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
บรรยากาศน่ากลัวแปลกๆ
ถังจิ้นเหยียนมองดวงหน้าซีดเซียวของฉู่ลั่วหานอย่างปวดใจ “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย ฝากคุณดูแลเธอต่อด้วย รบกวนแล้ว”
ลู่ซวงซวงเห็นท่าทางของทั้งสองคนแล้ว ไม่กล้าแย้งอะไร รีบพยักหน้าแล้วเดินตามผู้ช่วยเข็นเตียงผู้ป่วยไปที่ห้องพัก
หลงเซียวมองถังจิ้นเหยียนอย่างเย็นชา แล้วหมุนตัวเดินตามมา
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”
หลงเซียวกดดันจนลู่ซวงซวงต้องหลบลงไม่กล้าสบตา แต่ในเมื่อเธอเองก็เป็นเหยื่อ ลู่ซวงซวงคิดว่าไม่มีอะไรที่เธอต้องกลัวจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เขาฟังหนึ่งรอบ
สายตาที่เย็นชาแต่แทบจะแผดเผาเธอของท่านเซียวทำให้ยิ่งไม่กล้าเงยหน้า แย่แล้ว พูดไปพูดมาเธอเองก็มีความผิด
“เพราะงั้นคุณลู่ ผมควรขอบคุณคุณจริงๆ ที่พาเธอออกไปสนุกทั้งคืน” น้ำเสียงนั้นเย็นชาเสียจนน่าขนลุก
ลู่ซวงซวงกัดกรามกรอด “ฉัน ฉันก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้”
หลงเซียวมองลู่ซวงซวงที่ส่วนสูงต่างจากตัวเองอยู่มาก “เธอไม่เป็นไรก็แล้วไป ไม่อย่างนั้นคุณเดือดร้อนแน่”
หลังจากคาดโทษ หลงเซียวไม่ได้อยู่ในห้องต่อเขาล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินจากไป
ร่างที่เหมือนมีประกายไฟอยู่รอบตัวยืนอยู่บริเวณระเบียง เขาต่อสายหาจี้ตงหมิง
“เช็กทุกคนที่อยู่ในผับเมื่อคืนนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่ยกเว้น!”
“ครับ จะเช็กให้เดี๋ยวนี้”
จี้ตงหมิงไม่ได้ถามต่อว่าต้องการเช็กอะไร แต่หลงเซียวโกรธขนาดนี้แสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่
“ถ้าผับไม่ให้ความร่วมมือ คืนนี้ก็ทำให้มันปิดกิจการไปซะ”
“เจ้านายวางใจได้ ผมจะจัดการให้”
วางยา? ยาชนิดนี้เธอคงไม่ได้ดื่มมันโดยบังเอิญแน่ ต้องมีคนแอบพยายามทำร้ายเธอ
ถ้าเขารู้ว่าเป็นใคร มันต้องตายสถานเดียว!
มือเรียวเขวี้ยงโทรศัพท์ลงอย่างแรงจนเกือบแตก ที่จริงท่านเซียวอยากเขวี้ยงแบบนี้ไม่ใช่โทรศัพท์แต่เป็นคนที่ทำร้ายฉู่ลั่วหานต่างหาก!
เขาโกรธเป็นอย่างมาก ครั้งนี้ต่อให้เจอเทพฆ่าเทพ เจอพระฆ่าพระ
พอจี้ตงหมิงไปถึงผับก็โดนแจ้งว่าเมื่อวานกล้องวงจรปิดที่คลับมีปัญหาจึงไม่มีวิดีโอเหตุการณ์ของเมื่อวาน
“หาบันทึกใบเสร็จทั้งหมดให้ฉัน อย่าลืมว่าทั้งหมด”
จี้ตงหมิงนั้นเป็นตัวแทนของใครทุกคนทราบดี แต่ว่าทางผับเองก็มีมาตรการไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต…..
“คุณจี้ เรื่องนี้มัน….พวกเราเองก็ลำบากใจ ถ้าลูกค้ารู้เข้าว่าพวกเราเปิดเผยข้อมูลพวกเขา เกรงว่า….ต่อไปคงทำธุรกิจยาก”
จี้ตงหมิงกระตุกยิ้มมองเขาอย่างไม่แยแส ยิ้มเย็นที่ยังเทียบไม่ได้กับหลงเซียว แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว “ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าพวกคุณไม่จำเป็นต้องคิดมากเรื่องธุรกิจอีกต่อไปแล้ว”
พูดพลางยกโทรศัพท์หมายจะโทรหาหลงเซียว เจ้าของผับรนหาที่และเขาก็ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง
“เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน คุณจี้…..เชิญด้านนี้ อย่าลืมเก็บเป็นความลับ….”
“พูดมาก”
จี้ตงหมิงขัดเสียงเย็น เจ้าของคลับจึงไม่กล้าเอ่ยต่ออะไรอีก
บันทึกใบเสร็จทำให้รู้ว่ามีผู้ใช้บริการไม่มาก แต่คนร้ายที่วางยาก็ยังไม่แน่ว่าจะใช้บริการด้วย เวลาก็ยังไม่แน่ชัด
จี้ตงหมิงนำบันทึกการเข้าใช้บริการส่งให้หลงเซียว คนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะเคาะนิ้วเบาๆ หลังจากอ่านจบแล้วก็ขมวดคิ้ว “แผนนี้หลวมเกินไป ความสำเร็จต่ำ”
จี้ตงหมิงถามต่ออย่างระมัดระวัง “แล้วท่านเซียวจะทำอย่างไรต่อ?”
หลงเซียวปล่อยเอกสารทิ้ง ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานในห้องทำงานของประธานบริษัทMBK ตึกระฟ้าในเมืองหลวงด้านหน้าราวกับถูกเขาเหยียบไว้ใต้เท้า ชายน่าเกรงขามกวาดตามองไปทั่ว คิดวางแผนหาคนลงมือ
“รอ เดี๋ยวเขาก็ติดกับ”
“นายครับ มันกล้าวางยาคุณหญิง เกรงว่าตอนนี้คงหนีไปไกลแล้ว เราจะหาตัวเจอได้อย่างไร?”
ริมฝีปากบางของหลงเซียวยกขึ้นนิดๆ แววตาล้ำลึกอยากจะคาดเดาได้ฉายประกายวาววับ
“ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะไม่งับเหยื่อ”
จี้ตงหมิงที่ตั้งใจฟังแผนการของหลงเซียวพลันดวงตาสว่างวาบขึ้นในทันใด “แผนนี้น่าจะได้ผลผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
จี้ตงหมิงออกไปเพียงชั่วครู่หลงเซียวก็โทรออกอีกสาย
“เตรียมรถไปโรงพยาบาล”
ฉู่ลั่วหานที่สลบไปเกือบสามชั่วโมงในที่สุดก็ฟื้นลืมตาขึ้นช้าๆ
เธอเห็นเงาของร่างสูงใหญ่ที่ยืนหันหลังให้เธอ สูทสีดำนั้นถูกรีดมาอย่างดีแผ่นหลังกว้างทว่าตั้งตรง
หลงเซียว?
เขาคงไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่ไหม?
ฉู่ลั่วหานลำคอแห้งผากจึงกลืนน้ำลาย “คุณมาได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินว่าเธอฟื้นแล้ว หลงเซียวไม่ได้หันกลับมาในทันที พูดให้ถูกคือเขาไม่กล้ามอง กลัวว่าถ้าเห็นท่าทางซีดเซียวของเธอแล้วเขาจะทนปวดใจไม่ได้
“ผมจะไปเรียกหมอ”
น้ำเสียงเย็นชาที่ไม่แสดงอารมณ์ ที่ไม่ว่าจะตั้งใจฟังแค่ไหนก็ไม่รู้สึกถึงความห่วงใย
เธอปวดแปลบในใจ “ขอบคุณค่ะ”
ประโยคสุภาพที่ยืดระยะห่างระหว่างสองคนให้ไกลกันมากขึ้น
หลงเซียวยังไม่ทันจะได้ออกไป ถังจิ้นเหยียนก็เข้ามาเสียก่อนด้านหลังยังมีหมออีกสองสามคนเดินตามเข้ามา เพราะในเวลาทำงานไม่ว่าถังจิ้นเหยียนจะไปที่ไหนต้องมีคนติดตามไปด้วย
เมื่อเห็นฉู่ลั่วหานฟื้นแล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เสื้อคลุมสีขาวสะอาดพอดีตัวบนตัวเขานั้นช่างดูดี เธอพึ่งสังเกตเห็นก็วันนี้ รองคณบดีถังอยู่ในกลุ่มคนแล้วโดดเด่นอย่างมาก
“ฉันรบกวนคุณอีกแล้ว รองคณบดี”
“ไม่หรอก ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง? ยังปวดท้องอยู่ไหม? มีอาการปวดแสบปวดร้อนหรือเปล่า? เมื่อตอนเช้าผมให้ยาแก้พิษคุณอาจมีผลข้างเคียงทำให้วิงเวียนศีรษะและคันคอ ไม่ต้องกังวลสักสองสามชั่วโมงก็จะดีขึ้น”
ฉู่ลั่วหานอยากหัวเราะ ถังจิ้นเหยียนพูดราวกับเธอเป็นเด็กเล็กๆ
“ไม่เจ็บแล้ว ดีขึ้นแล้วค่ะ” เธอตอบไปแค่ประโยคเดียวเพราะหลงเซียวยังอยู่ตรงนี้
“งั้นดีแล้ว” ความตึงเครียดบนใบหน้าของถังจิ้นเหยียนถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม
จนหมอติดตามเขาที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวเราะ “หมอฉู่รู้ไหม เมื่อกี้รองคณบดีราวด์คนไข้ในวอร์ดแล้วทนไม่ไหวที่จะตรวจคนไข้ให้ครบ
ขนาดคณบดีเรียกเข้าพบเขายังเลื่อนนัดเลย”
ฉู่ลั่วหานทั้งซาบซึ้งทั้งละอายใจ “ขอบคุณค่ะ…”
“กับผมคุณไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น…” เขามองไปที่ใบหน้าไร้อารมณ์ของหลงเซียว “คุณเป็นคนเก่ง ต้องหายเร็วๆ นะคนไข้ในโรงพยาบาลต้องการคุณ”
หลงเซียวแม้บนหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความโกรธในที่สุดก็กลั่นรวมกันออกมาเป็นประโยค “ในเมื่อรองคณบดียุ่งขนาดนั้น ทำไมยังไม่รีบไปอีก?”
นี่มันไล่ทางอ้อมชัดๆ
สมแล้วที่เป็นหลงเซียว
เมื่อหันกลับมามองเธอใบหน้าเย็นชาก็ครึ้มสีลง “ทำไม? ที่รีบอยากจะหย่าขนาดนั้นเพราะจะโผเข้าหาอ้อมกอดเขาล่ะสิ?”
ขี้เกียจจะสนใจเขาแล้ว!
“ท่านเซียวคิดมากเกินไปแล้ว ฉันอยากจะหย่าเองไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
“ผมว่า ไม่มากเกินไปหรอก! ขนาดต่อหน้าผมยังเล่นหูเล่นตากับเขา แล้วตอนผมไม่อยู่ล่ะ หมอฉู่คงไม่ได้ปีนขึ้นเตียงเขามาแล้วใช่ไหม? หืม”
“นี่คุณ…”
คนหน้าไม่อายไม่มองตัวเอง! ใส่ร้ายคนอื่น!
ฟาดฟันกันทางสายตาอยู่สักพัก โทรศัพท์มือถือของหลงเซียวก็ดังขึ้น
“นายครับ เหวี่ยงแหเรียบร้อยแล้ว รอแค่ปลามากินเหยื่อ”
หลงเซียวเหลือบมองผู้หญิงหัวรั้นที่อยู่บนเตียงก่อนตอบกลับเสียงแหบต่ำ “ฉันต้องการแน่ใจว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธออีก”