คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 338 ยี่สิบกว่าปี……
ตอนที่ 338 ยี่สิบกว่าปี……
เส้าเอินเหรอ?
หลงเซียวมองดูชายชราที่เดินตรงเข้ามาด้วยแววตาที่ดูลึกซึ้ง “คุณพูดถึงใครนะครับ?”
บุหรี่ในมือถูกชายชราหนีบจนเริ่มเสียทรงแล้ว ควันบุหรี่ลอยวนอยู่รอบๆ ริมฝีปากกระตุกไปหลายครั้ง เมื่อกี้เพราะว่าตกใจแววตาจึงเป็นประกายขึ้นมาแต่ตอนนี้ก็กลับมามืดมนลงอีกครั้ง
จากความคาดหวังท้ายที่สุดก็กลายเป็นความผิดหวัง “คุณไม่ใช่เขา ต่อให้เขายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่น่าจะอายุน้อยขนาดนี้คุณไม่ใช่เขา……ไม่ใช่”
ชายชราพึมพำกับตัวเอง บุหรี่ที่ติดอยู่ถูกยกขึ้นมาสูบ ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมาจากทางจมูก เขาส่ายหน้าแล้วพยักหน้า พยักหน้าแล้วส่ายหน้าอีก “แต่ว่า……ทำไมถึงได้เหมือนขนาดนี้? ทำไมคุณถึงได้เหมือนเขาขนาดนี้?”
หลงเซียวรู้สึกแปลกใจกับการที่เขาเอาแต่พูดกับตัวเอง หลงเซียวจำมองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้แอบมีความดูถูกอยู่นิดๆ “เส้าเอินที่ผู้อาวุโสพูดถึงเขาคือใครเหรอครับ? หน้าตาผมเหมือนเขามากเลยเหรอครับ?”
ชายชราสูบบุหรี่ในปากไปอีกทีหนึ่งที “อืม……เหมือน เหมือนมาก ไม่……ถ้ามองดูดีๆ แล้ว ดวงตาของคุณเหมือนกับเขามาก แต่ว่า……มันบอกไม่ถูกเหมือนกัน กลิ่นอายของคุณก็เหมือนกับเขา อืม……ตาเหมือน ความรู้สึกเหมือน ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่แค่รู้สึกว่าพวกเธอสองคนเหมือนมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงกันอยู่”
เขาพูดออกมาอย่างงุนงงฟังดูค่อนข้างมั่วซั่ว เหมือนเขาต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างออกมา แต่เหมือนยิ่งพูดเขาก็ยิ่งสับสนในสิ่งที่ตัวเองพูด สุดท้ายก็เหมือนอยากจะล้มล้างทุกสิ่งที่พูดมา
แต่ว่า……
เขาก็ทนไม่ไหวต้องหันไปมองหน้าผู้ชายที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอีกครั้ง สายตาไม่อาจย้ายออกจากตัวเขาได้ ดูแล้วดูอีก เดินวนอยู่รอบๆ ตัวเขา ชายชราเอามือจับคางแล้วก็พูดกับตัวเองอีกครั้ง “เหมือน……ดูยังยังไงก็เหมือน……”
หลงเซียวขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “นี่ผู้อาวุโสกำลังพูดถึงอะไรอยู่เหรอครับ? เส้าเอินที่คุณพูดถึงคือใครกันครับ?”
ชายชรามองหน้าเขา บุหรี่ที่อยู่ในมือถูกสูบไปแล้วครึ่งหนึ่ง ขี้บุหรี่ติดอยู่ตรงยอด “คุณ……ชื่ออะไรเหรอ?”
“หลงเซียวครับ” เขาพูดชื่อตัวเองออกมาอย่างห้วนๆ หลงเซียวจ้องมองไปที่ชายชรา สายตาที่ไม่อาจคาดเดาจ้องไปที่เขา แล้วทั้งคู่ก็ต้องตะลึง
อยู่ๆ ชายชราก็หายใจแรงเร็วขึ้นมา แล้วเรียกชื่อหลงเซียววนอยู่อย่างนั้น “หลง……หลงเซียวเหรอ? หลง……” เขาจ้องเขม็งมาที่หลงเซียว จ้องมองอยู่อย่างนั้น แล้วถามต่อว่า คุณหมายถึงตระกูลหลงของMBKที่อยู่ในเมืองหลวงใช่ไหม? คุณเป็นลูกชายบ้านนั้นเหรอ?”
หลงเซียวไม่คิดเลยว่าชายแก่ที่ดูเลอะเลือนและไม่ค่อยชอบเข้าสังคมคนนี้จะรู้จักตระกูลหลงด้วย ตอนนั้นเขาก็คิดว่าคนๆ นี้น่าจะเป็นอาจารย์ของลั่วลั่วส้งชิงเซวี๋ยนไม่ผิดแน่ เขาไม่มีรูปถ่ายของส้งชิงเซวี๋ยน แต่ตอนนี้เขาก็ค่อนข้างมั่นใจแล้ว
“ใช่ครับ เป็นตระกูลหลงนั่นแหละครับ”
ส้งชิงเซวี๋ยนพยักหน้า แล้วดูดบุหรี่คำสุดท้ายเข้าไป ในมือตอนนี้เหลือเพียงแค่ก้นบุหรี่แล้วเท่านั้น เขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีที่ให้ทิ้งจึงต้องถือมันเอาไว้แบบนั้น “นั่นหมายความว่าหลงถิงก็เป็นพ่อของคุณสินะ?”
“ใช่ครับ เขาเป็นพ่อผมเอง”
ส้งชิงเซวี๋ยนร้องอ๋อออกมา “ถึงว่าหล่ะ……ถึงว่าหล่ะ……ถ้าอย่างนั้นฉันก็เข้าใจแล้ว”
หลงเซียวยังคงไม่เข้าใจ ชายชราเอาแต่พูดกับตัวเองวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น พอหาคำตอบให้ตัวเองแล้วก็ยังทำตัวแปลกๆ อยู่ เขาต้องการจะพูดอะไรกันแน่?
“ ศาสตราจารย์ส้งครับ คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ ว่าเส้าเอินที่คุณพูดถึงนั้นเป็นใครกันแน่ครับ ผมกับเขา เรามีอะไรที่เหมือนกับ? ศาสตราจารย์ส้งมีรูปของเขาอยู่ด้วยใช่ไหมครับ?”
“คุณรู้ด้วยเหรอว่าฉันเป็นใคร? แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันแซ่ส้ง?” ส้งชิงเซวี๋ยนรู้สึกแปลกใจ เขาไม่เคยเจอกับชายคนนี้มาก่อน และเขาก็ออกจากวงการแพทย์มานานมากแล้ว และเขาก็ยังไม่เคยไปร่วมงานอะไรที่มันเผยแพร่สู่โลกภายนอกเลยด้วยซ้ำ ไม่เคยมีรูปถ่ายของตัวเอง แล้วเขารู้จักตัวเองได้ยังไง?”
“ฉู่ลั่วหานลูกศิษย์ของคุณเป็นภรรยาของผมครับ”
“อ๋อ……ลั่วหาน……ที่แท้คุณก็เป็นสามีของเธอนี่เอง……” ส้งชิงเซวี๋ยนพยักหน้า แล้วมองหลงเซียวด้วยความสงสัยเหมือนจะเชื่อถือได้ แล้วเหมือนเขาจะคิดอะไรได้ “คุณตามผมเข้าไปข้างในสิ”
มือที่ค่อนข้างผอมแห้งของเขายื่นไปเปิดประตูออก โค้งตัวแล้วเดินเข้าไปข้างใน ประตูของบ้านไม้ไม่ค่อยสูงนัก หลงเซียวที่ตัวสูงจำเป็นต้องย่อตัวลงไปถึงจะเข้าได้
ภายในห้องจัดแต่งไว้ค่อนข้างเรียบง่าย เครื่องชงชาชุดหนึ่ง ที่นอนหนึ่งชุด ตู้ขนาดใหญ่ตู้หนึ่ง ในชั้นเต็มไปด้วยหนังสือ ข้างๆ ก็มีสมุนไพรวางอยู่เป็นถุงๆ
หลงเซียวมองสำรวจไปรอบๆ ส้งชิงเซวี๋ยนเปิดลิ้นชักลิ้นชักหนึ่งออก แล้วหยิบอัลบั้มรูปเล่มหนึ่งที่ไม่รู้ว่าถูกเก็บมานานเท่าไหร่แล้ว
“หลง……หลงอะไรนะมานี่หน่อย มาดูนี่สิ”
หลงเซียวค่อยๆ เดินไปอย่างไม่รีบร้อนอะไร ส้งชิงเซวี๋ยนชี้ไปที่เก้าอี้หวายที่อยู่ตรงหน้า “นั่งๆ”
หลงเซียวหันไปมองเก้าอี้ตัวน้อยตัวนั้น มันค่อนข้างเตี้ยแถมยังตัวเล็กมากด้วย เขากลัวว่าถ้านั่งลงไปแล้วมันอาจจะพังเลยก็ได้
ชายชรายังคงพูดออกมาอย่างใสซื่อ “นั่งสิ มันไม่พังหรอก ถึงพังกูไม่ให้คุณชดใช้หรอกหน่า”
หลงเซียว “……”
ยกเก้าอี้มานั่งลง ร่างกายที่สูงยาวถูกย่อส่วนลงไปเยอะเลย ร่างกายที่สูงใหญ่นั่งม้วนอยู่บนเก้าอี้ตัวน้อยดูแล้วเขาช่างเหมือนกับเด็กนักเรียนเลย บวกกับแววตาที่สุขุมของหลงเซียวแล้วยิ่งดูไม่เข้ากันเข้าไปใหญ่
แต่ชายชรากลับกำลังตื่นเต้นอยู่ เขาเปิดอัลบั้มรูปออก “นี่ อันนี้ไง นี่คือรูปถ่ายใบเดียวของเขา แถมยังเป็นรูปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วอีกด้วย ไม่คิดเลยว่า……นี่มันผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้วเหรอเนี่ย”
หลงเซียวมองไปยังรูปรวมใบนั้น หนึ่งในนั้นมีชายคนวัยรุ่นคนหนึ่งที่ใส่แว่นตาที่มีกรอบสีดำเอาไว้ ถึงแม้รูปถ่ายจะเก่ามากแล้ว แถมสียังออกเหลืองๆ แล้วด้วย แต่มันก็ไม่สามารถลดทอนราศีและความสง่างามของเขาลงได้เลย เห็นยิ้มอ่อนๆ ให้กล้อง ดูโดดเด่นกว่าใครในรูปนั้น
หลงเซียวมองไปยังดวงตาที่ดูคล้ายคลึงกับเขาที่อยู่หลังแว่นตาคู่นั้นอย่างตื่นตกใจ ชั่วขณะหนึ่งเขาเหมือนจะลืมหายใจไปเลย ดวงตาเบิกกว้างแล้วหรี่เล็กลง นิ้วมือชี้ไปยังผู้ชายที่อยู่ในรูป ริมฝีปากเปิดออก “เขา……เป็นใครกันแน่ครับ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนเอามือลูปไปที่คาง เหมือนอยากจะถูกให้หนวดเคราร่วงออกมาทั้งหมด “เขานั่นแหละคือเส้าเอิน พี่น้องที่รักใคร่ของฉันในตอนนั้น เพื่อนรัก แต่น่าเสียดายที่ยี่สิบปีก่อน……เฮ้อ อุบัติเหตุครั้งนั้นมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป……เฮ้อ เร็วเกินไป คนดีๆ คนหนึ่งต้องมาจากไปแบบนี้”
“อุบัติเหตุอะไรครับ?” นิ้วของหลงเซียวจิกอยู่ตรงมุมหนึ่งของอัลบั้มรูป เขาจิกมันอย่างแรง เหมือนตั้งใจจะทำมันให้พังเลย
ส้งชิงเซวี๋ยนเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย “มันเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานมากแล้ว……ไฟไหม้ครั้งใหญ่ มันไหม้ไปทั้งวันทั้งคืน ทุกคนตายกันหมดเลย เฮ้อ ไม่มีใครออกมาเลยสักคน แค่คืนเดียวเท่านั้น บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกไฟเผาจนวอดวาย เด็กที่อายุน้อยที่สุดแค่เก้าขวบ ส่วนคนที่อายุมากที่สุดก็เจ็ดสิบกว่าแล้ว”
พอชายชรานึกถึงเรื่องในอดีตสีหน้าก็ดูเจ็บปวดขึ้นมาทันที ฝ่ามือที่แห้งเหี่ยวถูกยกขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ แล้วขยี้ตาเบาๆ
“ใครเป็นคนทำครับ? สืบได้หรือยัง?” น้ำเสียงของหลงเซียวสั่นเล็กน้อย
“ไม่เลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนร้าย เฮ้อ มันเคยเป็นจุดสูงสุดในวงการธุรกิจ ณ เวลานั้น แต่เพียงคืนเดียวทุกอย่างก็พังทลายลง ยี่สิบกว่าปีแล้ว คลื่นใหญ่ซัดทราย! ตอนนี้ใครยังจะจำได้อีกเหรอ?”
ชายชราถอนหายใจออกมา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “พ่อหนุ่มเอารูปคืนฉันเถอะ”
“ให้ผมถ่ายมันเก็บไว้หน่อยได้ไหมครับ?”
“หือ? อ๋อ ได้ ถ่ายเลย”
หลงเซียวหยิบมือถือออกมาถ่ายมันเก็บไว้ เส้าเอิน?ตระกูลมู่?มู่เส้าเอิน?
ทุกอย่างพังทลายลงในชั่วข้ามคืน หน้าตาเหมือนเขามาก ถ้าจะบอกว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยนั้นไม่มีทาง!
“เวลาก็ไม่สายแล้ว คุณกลับไปเถอะ” ส้งชิงเซวี๋ยนปรับอารมณ์กลับมาแล้ว จึงไล่ส่งแขกในทันที
หลงเซียวจึงพูดขึ้นว่า “ศาสตราจารย์ส้งครับ ที่ผมมาหาคุณในครั้งนี้ ความจริงผมมีเรื่องจะขอร้องครับ และหวังว่าผมจะได้รับความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ส้งครับ”
ส้งชิงเซวี๋ยนจุดบุหรี่อีกมวนแล้วเอาไปคาบไว้ที่ปาก “เรื่องอะไรหล่ะ?”
หลงเซียวได้บอกรายละเอียดทุกอย่างให้ส้งชิงเซวี๋ยนฟังอย่างละเอียด และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ ส้งชิงเซวี๋ยนกลับพยักหน้าแล้วตอบมาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
“ได้ ประเทศจีน……ฉันเองก็ไม่ได้กลับไปนานมากแล้วเหมือนกัน ก็ดีเหมือนกันจะได้กลับไปเยี่ยมลูกศิษย์ของฉันด้วยธุระครั้งนี้ฉันจะช่วยคุณเอง”
ส้งชิงเซวี๋ยนมองไปยังหลงเซียวด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาลังเล แล้วพยักหน้า
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีมากเลยครับ ขอบคุณศาสตราจารย์ส้งมากเลยครับ”
“รอเดี๋ยว คุณยังไม่ต้องขอบคุณฉันเร็วขนาดนี้ก็ได้ ฉันยังมีเรื่องอยากให้คุณช่วยฉันสักเรื่องหนึ่งก่อน”
“ได้ครับ ศาสตราจารย์ส้งมีอะไรให้ช่วยก็บอกมาได้เลยครับ ผมจะให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถเลยครับ”
ส้งชิงเซวี๋ยนหรี่ตายิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นแปรเปลี่ยนเป็นหน้าของหมาจิ้งจอกไปในทันที “นี่พ่อหนุ่ม ฉันดูคุณเป็นคนที่มีราศีไม่เหมือนคนทั่วไป เอาอย่างนี้ไหมพอฉันกลับไปกับคุณแล้วคุณช่วยมาเป็นผู้ช่วยของฉันให้หน่อยเป็นไง?”
อะไรนะ?
ให้หลงเซียวไปเป็นผู้ช่วยของเขาอย่างนั้นเหรอ? นี่ถ้าให้จี้ตงหมิงหรือคนอื่นๆ ได้ยินเข้านะรับรองได้เลยว่าคงตกใจจนเหยียบแว่นแตกแน่นอน!
แต่หลงเซียวกลับตอบกลับไปอย่างเรียบเฉยว่า “ได้ครับ ผมรับปาก”
“ใช้ได้ ใช้ได้ ยังหนุ่มยังแน่นแต่รู้จักปรับตัวตามสถานการณ์ ใช้ได้! งั้นเราตกลงตามนี้นะ พอกลับไปถึงพ่อหนุ่มต้องดูแลชายชราคนนี้เป็นอย่างดีเลยนะ ฉันแก่มากแล้วร่างกายก็ชราตามสภาพ ถ้าหากไม่ระวังเกิดตายขึ้นมาละก็ ชีวิตของตุ๊กตาน้อยคนนั้นก็หมดทางเยียวยาแล้วนะ!”
หลงเซียวพยักหน้า “ผู้อาวุโสโดยวางใจ ผมจะทำให้สุดความสามารถเลยครับ”
“ฮาๆ ฮา ดีๆ ดี คำพูดนี้ทำให้ชายแก่อย่างฉันฟังแล้วอารมณ์ดีจริงๆ เลย”
หลงเซียวกำมือถือไว้แน่น แววตาเปลี่ยนเป็นสุขุมในทันที
____
ในเช้าวันนี้ ลั่วหานจะตื่นขึ้นมาจากฝันที่แสนหวาน
“พี่สะใภ้ พี่ชาย อรุณสวัสดิ์ค่ะ! กระเพาะของพี่ชายเป็นยังไงบ้างคะ?” ลั่วหานกล่าวทักทายทั้งคู่ด้วยความเป็นกันเองอย่างร่าเริง พอเห็นสีหน้าที่เหลืองซีดของหลงยี่แล้ว เธอก็รู้เลยว่าเมื่อคืนเขาคงไม่ได้นอนดีๆ แน่
หลงยี่กัดฟันแน่นด้วยความเคียดแค้น “ดี ขึ้น แล้ว!”
“งั้นก็ดีค่ะ เห็นพี่ชายดีขึ้นฉันค่อยสบายใจหน่อย พี่ชายจำไว้นะว่าต้องกินยาให้ตรงเวลาด้วย ถ้ามีอะไรไม่สู้ดีต้องรีบบอกฉันทันทีเลยนะคะ”
“ฮึ! ฉู่ลั่วหาน ไม่ต้องมาเสแสร้งตรงนี้! สามีของฉันไม่จำเป็นต้องให้เธอช่วยหรอก ไสหัวไปให้พ้น!!”
ลั่วหานเดินลงบันไดมาอย่างไม่เร่งรีบ “พี่ชายพี่สะใภ้ระวังตัวตัวนะคะ ฉันไปกินข้าวเช้าก่อนแล้วค่ะ”
พอได้ยินคำว่าข้าว หลงยี่ก็เกือบอ้วกออกมาแล้ว
ข้าวเช้ายังไม่ทันได้กินเลย ข้างนอกก็มีรถส่งของคันหนึ่งมาส่งของแล้ว จากนั้นก็มีรถบริษัทของMBKขับตามหลังมา
“อะไรกันเนี่ย? เช้าขนาดนี้ก็มีคนมาส่งงานแล้วเหรอเนี่ย?” หลงจื๋อเดินโซซัดโซเซไปที่หน้าประตู แล้วยืนพิงประตูเอาไว้เห็นคนที่ลงจากรถมาก็คือจี้ตงหมิงนั่นเอง
“คุณชายรองหลง อรุณสวัสดิ์ครับ ผมมาส่งของในนามของนายท่านครับ”
“ของอะไรเหรอครับ?”
จี้ตงหมิงชี้ไปยังรถคันที่ใหญ่เท่าตู้คอนเทนเนอร์ “ของอยู่ข้างในครับ”
หลงจื๋อชะเง้อหน้ามอง “โอ้ว?”
พนักงานเปิดตู้ออก แล้วสิ่งที่ถูกขนออกมาก็คือเตียงคู่ขนาดใหญ่เตียงหนึ่ง
หลงจื๋อแทบสำลัก “นี่มันหมายความว่าไงเนี่ย? พี่ให้คุณส่งเตียงมาเนี่ยนะ……”
จี้ตงหมิงโค้งตัวแล้วพูด “นายท่านสั่งให้ผมเอาเตียงนี้มามอบให้คุณหลงยี่ด้วยตนเอง ไม่ทราบว่าเขาอยู่ไหมครับ?”
หลงจื๋อ “……ห๊ะ? อยู่ครับอยู่! เขาอยู่ข้างในนั่นแหละ”
หลงยี่กับหลงถิงและคนอื่นๆ ต่างก็เห็นว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่หน้าประตูแล้ว พนักงานได้ยกเตียงลงมาไว้ที่หน้าประตูเป็นที่เรียบร้อย จี้ตงหมิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลงยี่ครับ นายท่านตั้งใจสั่งทำที่นอนหลังนี้ให้คุณโดยเฉพาะเตียงหลังนี้แข็งแรงเป็นอย่างมาก ไร้เสียงรบกวนและนอนสบายครับ”
ลั่วหานขำออกมาในทันที หลงเซียวนี่ช่างโหดร้ายจริงๆ เลย!
หลงยี่ทำหน้าเคร่งขรึม “นี่คุณ……”
“คุณหลงยี่ครับ ไม่ทราบว่าจะให้เอาเตียงไปตั้งไว้ห้องไหนครับ?”
โจวหยู่เช่นกับหลงยี่หันมาจ้องหน้ากัน อายจนเกือบกระอักเลือดออกมาแล้ว
พนักงานยกเตียงขึ้นชั้นบนไป จี้ตงหมิงยื่นช่อดอกพุดซ้อนช่อหนึ่งให้ลั่วหานด้วยความสุภาพ “คุณนายครับ ดอกไม้ช่อนี้นายท่านตั้งใจฝากมาให้คุณ หวังว่านายหญิงจะชอบนะครับ”
ลั่วหานยิ้มอยู่ที่มุมปาก “ว้าวสวยจังเลย ฉันชอบมากเลยค่ะ!”
หลงถิงและทุกคนในที่นั้น “……”
หลงจื๋อ “นี่ขนาดพี่ใหญ่อยู่อเมริกานะเนี่ย ยังสามารถทำอะไรได้รอบคอบแบบนี้เลย”
จี้ตงหมิงพูดต่อ “คุณนายครับ หลังจากนี้ผมจะเป็นคนมารับมาส่งคุณเองนะครับ เดี๋ยวถ้าคุณทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็มาขึ้นรถได้เลยนะครับ”
หลงจื๋อกะพริบตาปริบๆ มองดอกไม้ช่อนั้นและรถคันนั้นด้วยความรู้สึกที่ทั้งอิจฉาและหึงหวง “เชอะ! พี่เขาจะสั่งอะไรรอบคอบขนาดนั้นเนี่ย!”
จะให้คนโสดมีชีวิตต่อไปได้ยังไงเนี่ย!