คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 339 รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตราย แต่ยังจะทำอีก
ตอนที่ 339 รู้ทั้งรู้ว่ามันอันตราย แต่ยังจะทำอีก
ถูกคนเอาใจแต่เช้าแบบนี้ ลั่วหานที่ถือดอกไม้ไว้ในมือกำลังรู้สึกอารมณ์ดีมาก
หลังกินข้าวเช้าเสร็จลั่วหานก็ขึ้นรถไป
จี้ตงหมิงขับรถอยู่ด้านหน้า ส่วนลั่วหานก็กดเบอร์โทรหาหลงเซียว
“คุณคะ ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ ฉันชอบมากเลยค่ะ และดีใจมากด้วย!” น้ำเสียงฟังดูทั้งหวานทั้งอบอุ่น
หลงเซียวที่กำลังขับรถอย่างช้าๆ “อยากรู้สึกดีใจมากกว่านี้ไหมครับ?”
“หือ? คุณหมายความว่ายังไงคะ?”
“ศาสตราจารย์ส้งอาจารย์ของคุณตกลงที่จะกลับประเทศเพื่อไปช่วยเหลือลูกสาวของหวังเค่ยแล้วครับ รู้สึกดีใจมากขึ้นไหมครับ?”
แล้วดวงตาของลั่วหานก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ความสุขล้นในใจไม่อาจปิดบังได้แล้ว “จริงเหรอคะ! นี่อาจารย์ของฉันยอมตอบตกลงแล้วจริงๆ เหรอคะ? ดีจริงๆ! ดีจริงเลย!”
พอได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากคนทางนั้น หลงเซียวก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบ้าง ริมฝีปากฉีกกว้างออกมาด้วยความดีใจ อยากจะรีบกลับไปโอบกอดลั่วหานเอาไว้ให้แน่นๆ เลย
“พอรู้ว่าอาจารย์จะกลับไปดูคุณจะดีใจยิ่งกว่าที่จะได้เจอหน้าผมอีกนะเนี่ย?” เขาพูดไปด้วยความน้อยใจนิดๆ
“มันคนละอย่างกันนะคะ คุณชายหลงอย่าน้อยใจง่ายๆ สิคะ จริงด้วย คุณไปเกลี้ยกล่อมอาจารย์ของฉันยังไงคะ? ตั้งแต่ที่เกษียณจากมหาวิทยาลัยไปเขาก็ไม่เคยตอบรับความช่วยเหลือจากใครอีกเลย แล้วคุณใช้วิธีอะไรคะ?”
บอกตามตรงตอนนี้ลั่วหานรู้สึกสงสัยมากอยากรู้จนใจจะขาดแล้ว
มือของหลงเซียววางอยู่บนพวงมาลัยขับรถอยู่กลางมหานครนิวยอร์กในยามค่ำคืน เขาตั้งใจตอบอย่างลับล่อและหลงตัวเองไปว่า “ง่ายมากเลย เพราะผมหน้าตาดีกว่าคนพวกนั้นไงครับ”
พูดจบเขาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วเขาก็เหมือนเห็นภาพของลั่วหานที่พยายามเอามือมาปิดปากของเขาไว้
“ก็ได้! คุณชายหลงผู้หล่อเหลา ใช้แค่หน้าตาก็สามารถทำงานได้แล้ว” แล้วถามส่งท้ายไปว่า “แล้วคุณจะกลับมาเมื่อไหร่คะ? อาการของเถียนเถียนค่อนข้างหนัก ฉันอยากพบหน้าอาจารย์เร็วๆ ค่ะ”
หลงเซียวแอบสูดหายใจเข้าลึกๆ “ผมจะให้คนส่งคุณส้งกลับไปก่อน ส่วนทางนี้ผมยังมีอะไรบางอย่างต้องไปทำ พอเสร็จแล้วผมจะรีบกลับไปทันทีครับ”
“ได้ค่ะ คุณขับรถระวังๆ ด้วยนะคะ ฉันต้องวางสายแล้ว”
“ครับ”
จี้ตงหมิงที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่มองเห็นใบหน้าที่งดงามของนายหญิงผ่านกระจกหลัง แล้วเขาก็ได้ข้อสรุปให้ตัวเองอย่างหนึ่งว่าคู่ครองที่เหมือนกันนี่มันมีอยู่จริงๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น เธอกับเจ้านายของเขาที่เวลาคุยโทรศัพท์จะไม่สามารถปิดบังรอยยิ้มบนใบหน้าได้นี่มันช่างเหมือนกันไม่มีผิด
พอหลงเซียววางสายไปแล้ว นาฬิกาที่ข้อมือแสดงเวลาของอเมริกา ณ ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง
เขากดตัวเลขกลุ่มหนึ่งลงไป แล้วน้ำเสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนที่มีเมื่อกี้ไปหายไปหมดแล้วกลายเป็นเสียงที่แสนเย็นชาเข้ามาแทน บรรยากาศในรถก็เปลี่ยนจากช่วงเดือนมีนาเป็นสิ้นเดือนตุลาไปซะแล้ว
“” เวลาที่นัดหมายคือกี่โมงนะครับ?” น้ำเสียงที่พูดออกมาช่างเย็นเยือกเหลือเกิน
“สี่ทุ่มครับ สถานที่ไม่เปลี่ยน”
“ครับ”
พอวางสายไปหลงเซียวก็มองไปยังGPSสายตาสุขุมที่ไม่อาจคาดเดาได้มองไปยังข้างทางในยามค่ำคืนและถนนที่เยอะแยะมากมาย
ผ่านไปไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
พอหลงเซียวเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามารอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์และอันตรายก็ปรากฏขึ้น “คุณเกาครับ คุณเป็นคนซื่อสัตย์มากครับ”
เกาจิ่งอานที่อยู่ต้นสายหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง “เมื่อผู้มีคนมาขอให้ช่วย เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือ หลักการง่ายๆ ในการอยู่ในสังคมนี้ผมรู้อยู่หรอกหน่า”
หลงเซียวไม่รับและไม่ปฏิเสธ เขารีบหักพวงมาลัยออกจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ๆ มุ่งไปเมื่อกี้ทันที แล้วขับไปทางใต้ต่อ “สี่ทุ่ม ที่เดิม คุณเกาอยากไปก่อนหรือจะรอผมแล้วไปพร้อมกันครับ?”
“ก็ต้องไปพร้อมคุณอยู่แล้วสิครับ ถ้าผมไปก่อนมีหวังถูกฆ่าก่อนหน่ะสิ คุณอยู่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปหา”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นไปให้”
ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น รถของเกาจิ่งอานกับรถของหลงเซียวก็มาเจอกันที่สี่แยกไฟแดงแห่งหนึ่ง เกาจิ่งอานมองๆ รถของเขาแล้วพูดแซวขึ้นมาว่า “ถ้าผมทายไม่ผิดนะรถของคุณน่าจะปรับแต่งมาใช่ไหมครับ? กันกระสุน และน่าจะป้องกันแก๊สพิษได้ด้วย”
หลงเซียวมองไปทางเขาอย่างทนไม่ได้ “คุณเกานี่ตาถึงจริงๆ ครับ”
เกาจิ่งอานเอากุญแจรถไปแขวนไว้บนกระจกรถของเขา ตบๆ มือแล้วพูดว่า “ในเมื่อรถของคุณหลงปลอดภัยขนาดนี้ผมว่าผมนั่งรถคุณไปจะดีกว่านะครับ”
หลงเซียวไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาก็กึ่งๆ จริงจังไปว่า “คุณเกาครับ นอกจากภรรยาของผมแล้ว ผมจะไม่เป็นคนขับรถให้คนอื่นครับ”
เกาจิ่งอานอยู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองได้เห็นภาพหวานบาดตา ได้แต่กุมขมับอย่างจนปัญญา “ได้ๆ ได้ เดี๋ยวผมจะเป็นคนขับรถให้คุณเอง เชิญคุณหลงไปนั่งด้านหลังเลยครับ”
เมื่อทั้งคู่นั่งลงในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว โรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ที่ถูกปรับแต่งมาแล้วก็ได้วิ่งออกไปในทันที!
เกาจิ่งอานพูดขึ้น “การร่วมมือกันระหว่างคุณกับพวกเขามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ? ถึงขั้นต้องให้คุณออกโรงด้วยตัวเองแบบนี้? สงสัยคนพวกนั้นยังไม่รู้สินะครับว่าคุณเป็นใคร?”
หลงเซียวนั่งอยู่บนเบาะนั่งอย่างสบายๆ ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างกว้างเลย มือข้างหนึ่งวางอยู่บนที่พักแขนที่เป็นหนังแท้นิ้วมือเคาะเบาๆ อย่างไร้เสียง ทีละครั้งทีละครั้งอย่างเป็นจังหวะ “การทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง เมื่อผลประโยชน์เกิดขัดแย้งกันก็อาจจะต้องมีการแยกทางกันโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“เรื่องพวกนี้ผมรู้ดี คุณไม่ต้องสอนผมก็ได้ครับ แต่ประเด็นคือสถานะของคุณคือหลงเซียว ประธานของMBK ใครที่กล้าหักหลังคุณระหว่างทาง คนๆ นั้นก็คงไม่รักชีวิตแล้วครับ”
หลงเซียวยิ้มออกมานิดหน่อย “คนที่รักเงินแต่ไม่รักชีวิตมีถมเถไป แปลกตรงไหนครับ”
เกาจิ่งอานตั้งใจขับรถ ออร่าของหลงเซียวที่นั่งอยู่ด้านหลังทำให้เกาจิ่งอานรู้สึกว่าไม่ต้องไปสงสัยในสิ่งที่ท่านประธานของเขาคนนี้จะทำเลย แค่ออร่าที่ปล่อยออกมาเขาก็เทียบไม่ติดแล้ว
“จริงด้วยครับ โม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินกำลังจะแต่งงานกันแล้วคุณรู้เรื่องหรือเปล่าครับ?” ระยะทางที่ยาวไกล เกาจิ่งอานพยายามที่จะหาเรื่องคุย
“ไม่รู้และไม่อยากรู้เรื่องด้วยครับ” หลงเซียวตอบกลับไปอย่างเรียบง่าย
“ทำไมถึงไม่อยากรู้เหรอครับ อีกสามวันพวกเขาก็จะแต่งกันแล้วนะครับ จากที่ผมรู้จักพวกเขามา พวกเขาต้องเชิญคุณกับคุณลั่วหานคนสวยไปร่วมงานอย่างแน่นอนครับ อีกสามวันคุณจะกลับไปทันไหมครับ?”
หือ?
นิ้วที่กำลังเคาะของหลงเซียวหยุดลง “แสดงว่า……”
มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว แล้วสีหน้าก็กลับไปเรียบเฉยอีกครั้ง
รถยนต์ขับมาถึงบริเวณที่หมายในเวลาสี่ทุ่มสิบนาที หลงเซียวหันไปหยิบกล่องออกมาสองใบ ในกล่องมีปืนพกวางอยู่
“หนึ่งแม็กมีสิบนัด ถ้าเกิดเหตุที่ต้องต่อสู้กันทุกนัดที่ยิงต้องหวังผลได้ ฝั่งนั้นคนเยอะมาก ทางเรามีแค่สองคนเข้าใจไหมครับ?”
เกาจิ่งอานกระตุกปาก “ปัง” เขาชักปืนเล่น “ทุกนัดหวังผลอาจจะทำไม่ได้ แต่หนีเอาตัวรอดนั้นทำได้อยู่แล้วครับ”
“ก็ไม่เลวครับ”
ทั้งคู่หน้าคนหลังคนเดินตามพรมสีแดงเลือดไปยังวิลล่าสีขาว พอเดินไปถึงพวกเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ที่หน้าประตู “รบกวนทั้งสองท่านให้ความร่วมมือในการตรวจสอบความปลอดภัยของพวกเราด้วยครับ”
เกาจิ่งอานตากระตุก
หลงเซียวพูดไปด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “คุณมีสิทธิ์อะไร? ไปเรียกหัวหน้าคุณมา”
เหลียงหยู้คุนที่กำลังถูกท่านเซียวกดดันเข้าอยู่
ก็เงยหน้าขึ้นมาเห็นตราสัญลักษณ์ที่ติดอยู่ตรงเนกไท จึงได้รับโค้งตัวแล้วพูดว่า “เชิญด้านในเลยครับท่าน”
เกาจิ่งอานอึ้งไปเลย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
ห้องโถงภายในวิลล่ามีคนนั่งอยู่สิบกว่าคน บางคนกำลังสูบซิการ์ บางคนกำลังจิบไวน์ บางคนก็มีสาวนั่งอยู่บนตักบางคนก็ยิ้มเย็นชาแล้วมองมาที่พวกเขา
เหลียงหยู้คุนที่เป็นผู้นำพอเห็นหลงเซียวมาแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “คุณหลงเป็นคนที่รักษาคำพูดจริงๆ กล้าหาญมากท่านสองท่านเชิญนั่งครับ!”
ทั้งคู่นั่งลง เหลียงหยู้คุนปรบมือ ผู้หญิงสองคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ได้เดินออกมาจากข้างใน เดินวนอยู่รอบหลงเซียวแล้วยิ้มให้เขาอย่างเย้ายวน
หลงเซียวถลึงตา “คุณอยากให้พวกเธอตาย? หรือจะให้พวกเธอไสหัวไป?”
หัวหน้าของคนหัวเราะเสียงดัง “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?”
เกาจิ่งอานมองไปยังผู้คนที่นั่งอยู่รอบๆ ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันไม่ใช่อะไรที่ดีแน่ๆ โดยเฉพาะคนตัวอ้วนที่นั่งดูดซิการ์อยู่ตรงที่นั่งหลักอย่างเหลียงหยู้คุน และเขาก็กำลังจ้องมองไปยังหลงเซียวด้วยสายตาที่เย่อหยิ่ง
หลงเซียวพูดเปิดประเด็น “ที่ผมมาตรงนี้มีเพียงแค่จุดประสงค์เดียว ช่วยเอาสินค้าของผมไปคืนในสภาพที่สมบูรณ์ด้วยครับ”
“ฮาๆ ฮาๆ! คุณหลงครับ มันไม่ดีมั้งครับ? ลูกน้องของผมมากมายก็ต้องกินข้าวเหมือนกันนะครับ ถ้าคุณเอามันไปแล้วพวกเขาจะเอาที่ไหนมากินหล่ะครับ”
หลงเซียวโยกแก้วทรงสูงที่อยู่ในมือเล่น ของเหลวสีแดงหมุนวนอยู่ในนั้น “สำหรับอาหารนั้นถ้าหมดแล้วก็ยังไปหาใหม่ได้ แต่ถ้าชีวิตสิ้นแล้ว……คุณว่าจะเอาอะไรไปหาอีกครับ?”
เหลียงหยู้คุนดูดซิการ์ที่อยู่ในปากเข้าไปคำใหญ่ แล้วควันก็ถูกพ่นออกมาจากจมูกทั้งสอง ควันสีขาวที่ถูกพ่นออกมาทำให้บริเวณรอบๆ ตัวเขาขุ่นมัวไปหมด
มืออ้วนๆ ข้างหนึ่งของเขากำส้อมไว้แน่น “แต้ง แต้ง แต้ง” เขาเคาะมันลงไปที่จาน แววตาดังงูพิษประดับอยู่บนใบหน้าของเขา “งั้นก็หมายความว่าคุณหลงกะว่าจะไม่เหลือลู่ทางให้ลูกน้องของผมได้หากินแล้วใช่ไหมครับ?”
หลงเซียวยังคงโยกแก้วในมืออย่างใจเย็น “ทางรอดไม่ใช่การรอคนอื่นมายื่นให้ แต่มันต้องไขว่คว้าด้วยตัวเอง ตอนนี้ผมเองก็อย่างชี้นำทางรอดให้พวกเขาแต่ก็มีคนไม่ต้องการ คุณว่าผมควรจะทำยังไงดีครับ?”
แววตาที่อันตรายของแผ่ซ่านรังสีแห่งความอำมหิตออกมา แล้วมองไปยังคนพวกนั้นด้วยความสุขุม
“สินค้าล็อตนี้ผมเอามันแน่แล้ว ผมอยากให้คุณหลงยอมรับความจริงข้อนี้ซะ ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ยังต้องร่วมมือกันอยู่แต่ถ้ายอมรับไม่ได้ละก็……”
แกร็ก!
ชายชุดดำหลายสิบคนชักปืนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ปากกระบอกปืนเหล่านั้นชี้ตรงมาที่พวกเขาสองคน
หลงเซียวยิ้มที่มุมปากแล้วขำออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่หยาบกร้านไม่มีความอ่อนโยนเลย “หือ? ดูท่าวันนี้ผมคงกลับไปไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ?”
เกาจิ่งอานหัวใจเต้นรัว คนที่ทำธุรกิจย่อมต้องมีด้านที่ไม่อาจเปิดเผยออกมาได้สินะ สินค้าที่อยู่ในมือของหลงเซียวเป็นอะไรกันแน่ถึงได้ทำเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
“สินค้าล็อตนี้ยังไงผมก็จะเอา คุณหลงกับผมเราร่วมมือกันมาไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว มีเงินเราใช้ด้วยกัน มีเหล้าเราแบ่งกันดื่ม แต่ว่านะ……คุณหลง คุณเป็นคนฉลาดเกินไป คุณได้ผลประโยชน์จากฝั่งนี้มากไปแล้วนะครับ!”
หลงเซียวขำออกมาอย่างเย็นเยือก “สี่สิบหกสิบเหมือนเดิม ผมเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบใคร ผมว่าหลังๆ มานี้คุณดูจะโลภขึ้นนะครับ สี่สิบนี่กินไม่อิ่มแล้วใช่ไหมครับ!”
เหลียงหยู้คุนถูกหลงเซียวพูดจี้ใจดำ สายตาเหมือนละอายใจ แล้วหันไปส่งสายตาให้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ เหลียงหยู้คุน ชายคนนั้นก็หันกระบอกปืนไปยังหน้าอกของหลงเซียวทันที
“คุณหลงครับ ถ้าคุณอยากเอาสินค้าล็อตนี้กลับไปก็ได้ครับ แต่ว่าต่อไปส่วนแบ่งของเราจะเป็นห้าสิบห้าสิบนะครับ”
หลงเซียวกระแอมแล้วลุกขึ้นยืน ท่ามกลางปากกระบอกปืนนับสิบที่ชี้มาทางเขา เขาได้เดินไปหาเหลียงหยู้คุนอย่างไม่เร่งรีบในมือถือแก้วไวน์เอาไว้ “แล้วถ้าผมไม่เห็นด้วยหล่ะครับ?”
เกาจิ่งอานอึ้งจนปากค้างตาค้าง!
สายตาที่อันตรายของเหลียงหยู้คุนกระตุก เอามือเกาคาง มือปืนรอบๆ เล็งปืนมาที่หลงเซียวทันที!
แทบจะในทันทีปากกระบอกปืนในมือของหลงเซียวก็ชี้ไปยังขมับของเหลียงหยู้คุนทันที “คุณเหลียงหยู้คุนครับ คุณคิดว่าผมมาเพื่อต้องการฟังข้อเสนอจากคุณอย่างนั้นเหรอครับ?”
ความแตกตื่นก่อเกิดขึ้นมาในทันที
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเกาจิ่งอานก็ชักปืนออกมาเหมือนกัน ปืนสองกระบอกเล็งไปที่หัวของเหลียงหยู้คุนพร้อมๆ กันกระบอกปืนที่ดำเข้มจะไม่ถูกชักกลับถ้ามันไม่ได้ลิ้มรสของเลือด
เหลียงหยู้คุนตกตะลึง “หลงเซียว นี่คุณกล้าขู่ผมอย่างนั้นเหรอ?!”
หลงเซียวค่อยๆ ยิ้มออกมา “ขู่เหรอครับ? ผมเป็นคนที่ไม่ชอบล้อเล่นด้วยการขู่ แต่ผมชอบการลงมือจริงเลยด้วยสิครับคุณเหลียงครับ เราสองคนร่วมมือกันมานานหลายปี ผมเป็นคนยังไงคุณยังไม่รู้อีกเหรอครับ? หือ…… แต่ถ้าไม่รู้ละก็ เดี๋ยวผมจะแสดงให้คุณได้เห็นในวันนี้เลยดีไหมครับ?”
“คุณหลงเซียวใจเย็นก่อนครับ! รอบตัวมีปืนตั้งหลายกระบอก ต่อให้คุณฆ่าผมไปคุณก็หนีออกไปไม่ได้หรอกครับ!”
“ออกไปเหรอครับ? ถ้าได้ฆ่าคุณ ต่อให้ผมออกไปไม่ได้แล้วมันยังไงเหรอครับ? คุณเหลียงมีทรัพย์สินในครอบครองอยู่ตั้งมากมายมหาศาล มีธุรกิจอยู่ทั่วโลก คุณค่าในตัวคุณเหมือนจะสูงกว่าผมมากเลยนะครับ การที่มีคุณมาตายเป็นเพื่อนผมว่ามันก็คุ้มค่าดีนะครับ”
เกาจิ่งอานกำปืนแน่น “คุณเหลียงครับ วันนี้ครึกครื้นขนาดนี้ข้าน้อยเกาจิ่งอานมีโอกาสได้เล่นสนุกกับผู้สูงส่งอย่างท่าน ข้าน้อยว่ามันก็น่าสนใจดีนะครับ”
แม่งเอ๊ย!
จะเล่นท่านี้ใช่ไหม!
เหลียงหยู้คุนขำออกมาอย่างเยือกเย็น “ฮึๆ คุณหลงครับ ผมได้ยินมาว่าคุณมีสาวดุจดอกไม้อยู่ดอกหนึ่ง เธอชื่อว่าฉู่ลั่วหานใช่ไหมครับ? มีสาวงามขนาดนั้นอยู่ในอ้อมอกคุณไม่เสียดายเหรอครับที่จะมาตายลงแบบนี้?”
นี่กล้าใช้ลั่วลั่วมาขู่เขาอย่างนั้นเหรอ!
ก็ได้ ตอนนี้เขาได้กระตุกหนวดของหลงเซียวเข้าแล้ว