คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 311 คนที่เป็นสามีจัดการทุกอย่างเอง
ตอนที่ 311 คนที่เป็นสามีจัดการทุกอย่างเอง
เจิ้งซิ่วหยาพูดแทงใจดำเกินไป พูดแทงเข้าไปในใจของถังจิ้นเหยียน ไม่ให้โอกาสและเวลาเขาได้ตอกกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว
พอเห็นถังจิ้นเหยียนไม่ได้พูดตอบกลับมาในทันทีนั้น เจิ้งซิ่วหยามือก็หยุดชะงักลง จากนั้นก็ถอนหายใจ“ถังจิ้นเหยียน คุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึก คนแบบนี้ดีมากเลยนะ ดีกับคนอื่น แต่ไม่ดีกับตนเองเลยสักนิดเดียว คุณคิดดู คุณเอาความเป็นห่วงเป็นใยไปให้กับคนอื่นจนหมด แล้วตัวคุณเองล่ะ? ตัวเองคุณเองเหลืออะไรบ้าง?”
เจิ้งซิ่วหยาหันผ้าขนหนูไปอีกด้าน แล้วเช็ดให้ขาต่อ“แน่นอนว่าดีกับผู้อื่นมันเป็นสิ่งที่ดี แต่คุณคิดสักหน่อย จะช้าจะเร็วคนอื่นก็ต้องจากไปอยู่ดี หลังจากที่พวกเขาไปแล้วสิ่งเหล่านั้นที่คุณให้ไปมันก็หายไปด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณต้องรู้จักใช้สมองคิดสักหน่อย จากนี้ไปก็ดีกับตนเองบ้าง อย่าเอาแต่ให้ผู้อื่นไปอย่างซื่อๆจนไม่เหลืออะไรเลย แล้วก็ ถ้าเกิดมีคนดีกับคุณ ก็ไม่ต้องไปรู้สึกผิดอะไรแล้วด้วย”
“ในโลกใบนี้ มีหลายๆเรื่องที่สมดุลและเท่าเทียมกัน คุณให้คนอื่นไปเท่าไร ก็จะมีคนให้คุณกลับมาเท่านั้น คนที่ดีแบบนี้ถึงจะสามารถอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้”
เจิ้งซิ่วหยาพูดต่อ“บ้างครั้ง คุณดีกับคนคนหนึ่ง ต่อให้เธอไม่น้อมรับและไม่รู้สึกขอบคุณต่อน้ำใจของคุณ นั่นก็ไม่เป็นไร จะมีอีกคนที่เข้ามาทดแทนในสิ่งที่คุณให้ไปเอง เติมเต็มช่องว่างของคุณให้มันเต็ม”
ถังจิ้นเหยียนกำลังฟังผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกพูดร่ายยาวเรื่องกฎของการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนอยู่ข้างๆหูของตัวเองอย่างเงียบๆไม่พูดไม่จา รู้สึกว่าความคิดความอ่านเริ่มจะกระเจิดกระเจิงไม่เป็นที่แล้ว“คุณเจิ้ง ที่คุณบอกผมมาพวกนี้ หมายความว่ายังไง? คุณอยากจะบอกอะไร?”
เจิ้งซิ่วหยาชำเลืองตามามองหน้าเขา พูดเหมือนกับกำลังลงชื่อเซ็นสัญญาอย่างไรอย่างนั้น“ตอนนี้ดูท่าคงจะเยอะมากแล้วล่ะ อย่างน้อยพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาก็ไม่ค่อยน่าเกลียดเท่าไร……อ้อ พวกคำพูดเมื่อตะกี้นี้ ฉันอยากจะบอกว่า คุณน่ะขาดความรักมากไปแล้ว!”
ถังจิ้นเหยียนพูดอะไรไม่ออกทันที แต่คำพูดของผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ก็ดันทำให้เขาไม่สามารถโต้แย้งกลับได้ ถูก เมื่อก่อนเขาใช้แรงใจและเวลาไปกับลั่วหานจนหมด ทุ่มเทให้เธอทุกอย่าง จากนั้นเธอก็จากไป ในใจองเขาก็ว่างเปล่า
“ขอบคุณคุณที่ช่วยผม ผมควรจะไปได้แล้วล่ะ”ถังจิ้นเหยียนลุกขึ้นกำลังจะเดินจากไป กลับมีมือคู่หนึ่งดึงรั้งชายเสื้อเขาเอาไว้
“ดึกขนาดนี้แล้วจะไปไหน? ฉันพาคุณมาไม่ได้กะจะให้คุณกลับไปนะ คืนนี้คุณก็พักที่นี่สิ วางใจได้ ว่าคุณจะปลอดภัย!ฉันจะไม่ปีนขึ้นมายั่วเย้าคุณกลางดึกแน่นอน ok? ฉะนั้นตอนนี้คุณสามารถไปอาบน้ำที่ห้องน้ำได้เลย ใช่แล้ว ห้องนอนทางซ้ายที่คุณนอน ข้างในมีห้องน้ำกับห้องอาบน้ำ ในห้องอาบน้ำมีของที่คุณสามารถใช้ได้นะ”
เจิ้งซิ่วหยาพูดปาวๆจนจบ ก่อนจะหันเดินไปยังห้องนอนทางขวาอย่างสง่างาม เหลือไว้เพียงแค่ถังจิ้นเหยียนยืนอึ้งกิมกี่อยู่คนเดียวสักพัก!
เจิ้งซิ่วหยาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกานานเกินไปแล้วอย่างที่คิดไว้ ท่าทางดูเหมือนคนอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ค่อยเข้าใจวิถีชีวิตที่เร่งรีบแบบนี้ของเธอเท่าไร ถังจิ้นเหยียนนวดๆหัวคิ้วให้ตัวเองได้สูดหายใจเข้าลึกๆอยู่สักพัก
ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆเจิ้งซิ่วหยาก็โผล่หัวออกมาจากประตูห้องนอน ผมเปียกๆ สวมใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีขาวตัวหนึ่ง“เอ่อ ถังจิ้นเหยียน คุณช่วยอะไรฉันสักหน่อยได้ไหม?”
ที่ขอให้ช่วยก็คือก๊อกน้ำในห้องอาบน้ำของเธอน้ำไม่ไหล
ถังจิ้นเหยียนไปตรวจเช็คดู“ข้างในมันตัน ต้องเปลี่ยนอันใหม่ คุณ……”
พอเห็นสภาพเธอที่อาบน้ำมาได้ครึ่งหนึ่ง ถังจิ้นเหยียนก็รีบหันสายตาไปมองเท้าเปล่าของเธอทันที“คุณไปอาบห้องน้ำข้างๆก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวผมจะดูว่าก๊อกมันสามารถระบายออกไปได้หรือเปล่า”
เจิ้งซิ่วหยาจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอย สีหน้าเหลือเชื่อ“ถังจิ้นเหยียนคุณรู้เรื่องพวกนี้เหรอ? คุณซ่อมก๊อกน้ำเป็น!!!”
ถังจิ้นเหยียนรู้สึกแปลกใจกับท่าทางที่ตกอกตกใจของเธอ“เรื่องง่ายๆแบบนี้ ผู้ชายก็ทำเป็นหมดแหละ”
เจิ้งซิ่วหยาอึ้งพูดไม่ออก“ความหมายของฉันก็คือ คุณดูเหมือนนอกจากจับมีดผ่าตัดแล้วอย่างอื่นก็ทำไม่เป็นอีกเลย……เหอะๆ ขอโทษด้วย แต่ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”
ถังจิ้นเหยียนก็ไม่โกรธ เลื่อนสายตาไปมองอย่างไร้มารยาท“ผมยอมรับฟังความคิดเห็นของคุณ”
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้า“เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำแล้ว เอ้อ? รอเดี๋ยว แล้วคุณทำอาหารเป็นไหม? เอ่อ……วัตถุดิบที่บ้านฉันมีไม่เยอะ แต่คุณก็ลองไปดูหน่อยแล้วกัน ว่าสามารถเอามาผสมรวมกันได้ข้าวสักมื้อไหม ฉันหิวแล้ว”
ขณะที่บอกว่าหิว ก็แสดงสีหน้าทรมานเนื่องจากความหิวโซ มองถังจิ้นเหยียนด้วยสายตาน่าเวทนา
“เดี๋ยวผมจะลองไปดู”
ทั้งสองคน คนหนึ่งไปห้องอาบน้ำ คนหนึ่งไปห้องครัว
ถังจิ้นเหยียนเปิดตู้เย็นออกดู ตกใจกับของที่อยู่ข้างใน ตู้เย็นสองประตูขนาดใหญ่ ครึ่งหนึ่งล้วนแต่เป็นเหล้าเบียร์หลากหลายชนิด อีกครึ่งเป็นขวดค็อกเทล ช่องว่างที่เหลือเป็นพวกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ได้ใช้มานานมากแล้ว
มีเพียงแค่หนึ่งช่องเท่านั้นที่วางนมหนึ่งกล่องไว้ พอหยิบออกมาดู ก็ดันหมดอายุอีก
ถังจิ้นเหยียนรู้สึกพูดอะไรไม่ออกไปสักพัก ทำไมตู้เย็นของผู้หญิงคนหนึ่งถึงมีสภาพเป็นแบบนี้ได้นะ?
ในที่สุด เขาก็เห็นผลไม้ที่อยู่ข้างหลังกองถุงพลาสติกที่วางเละเทะสะเปะสะปะ แอปเปิ้ลกับลูกพีชสองสามลูก องุ่นหนึ่งช่อ ผลไม้ยังถือว่าสดอยู่
ยังดีที่มีไข่ไก่สองสามฟอง เนื้อกระป๋องที่ยังไม่ได้เปิดแถมยังไม่หมดอายุอยู่หนึ่งกระป๋อง
แล้วก็……บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกสองสามห่อ
ถังจิ้นเหยียนเพิ่งเริ่มตระหนักได้ ว่าการที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมันเป็นยังไง
เทียบกับตอนที่เจอเธอวันนี้ที่ตัวใส่กระโปรงยาวดูหลอกลวงสุดๆนั่น ถังจิ้นเหยียนส่ายหัวถอนหายใจเบาๆอย่างทำอะไรไม่ได้“สมแล้วที่เป็นตำรวจ อำพรางตาเก่งจริงๆ”
เจิ้งซิ่วหยาอาบน้ำเสร็จ เป่าผม นึกได้ว่าในบ้านมีผู้ชายอยู่หนึ่งคน จึงไปเปลี่ยนชุดทันที ต้องแต่งตัวให้ดูดีไม่ให้ขายหน้าจึงจะออกจากห้องนอนไปได้
ตลอดทั้งวัน ถังจิ้นเหยียนเห็นเธอที่เป็นกุลสตรีแต่งกายแบบคนต่างชาติ เธอนักเทควันโดผู้ที่มีพละกำลังแข็งแรง แล้วพอมาตอนนี้ก็ถูกเธอที่อยู่ในชุดนอนทำให้ตกใจอีก
ชุดนอนฤดูร้อนของเจิ้งซิ่วหยาเป็นสีดำ เป็นสีที่เยือกเย็นดูมีพลัง ตรงกลางอกปักรูปMcDull ทำให้ภาพลักษณ์ทั้งหมดดูพังทลายลงภายในชั่วพริบตา
“ว้าว!หอมจังเลย!ถังจิ้นเหยียนทำอะไรอร่อยๆเหรอ!ของในบ้านฉันสามารถทำอาหารที่หอมขนาดนี้ได้เลยเหรอ?!เป็นไปได้ยังไง?!!”
เจิ้งซิ่วหยาเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร เปิดฝาหม้อออก ทันใดนั้นเองกลิ่นหอมฟุ้งก็ลอยออกมาแตะที่จมูก!
ในหม้อคือซุปบะหมี่สีสันน่ากิน วัตถุดิบง่ายๆไม่ยุ่งยาก คิดไม่ถึงว่าจะถูกถังจิ้นเหยียนทำออกมาเป็นอาหารมื้อดึกที่หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว
เจิ้งซิ่วหยาพูดยกยอปอปั้นถังจิ้นเหยียนยกใหญ่“สมแล้วที่เป็นผู้ชายอบอุ่น!ทำอาหารได้สุดยอดมากๆ!ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!!”
เธอพูดจบ ก็ยกตะเกียบมาคีบเส้นขึ้นมาสูดกินทันที!
เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกปากของเธอดูดเข้าไปทีละสองสามเส้น ทั้งหมดไหลพรวดเข้าไปในปากของเธอ
เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ“โอ้คุณพระ!ถังจิ้นเหยียนคิดไม่ถึงว่าจะต้มบะหมี่อร่อยขนาดนี้ แสดงว่าคุณจะต้องทำอาหารเก่งแน่ๆเลยใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนมองท่าทางกินตะกละมูมมามไม่สนภาพลักษณ์ใดๆของเธอ พลางพูดขึ้นอย่างหมดเรี่ยวแรง“พอได้ ต้องดูว่าเป็นอาหารแบบไหน ถ้าเป็นอาหารจีนก็ทำได้เยอะหน่อย เพราะว่าไม่ค่อยชอบกินอาหารฝรั่ง ก็เลยทำเป็นไม่ค่อยเยอะ อาหารญี่ปุ่นกับอาหารเกาหลีก็พอได้”
จู่ๆแววตาของเจิ้งซิ่วหยาก็เปล่งประกายขึ้นมา แววตาเป็นประกายมากกว่าโคมไฟระย้าบนหัวเสียอีก รีบเข้าไปควงแขนของถังจิ้นเหยียนเอาไว้ราวกับได้มาเจอกับคนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานโขอีกครั้ง“ถังจิ้นเหยียน!คุณนี่เหมาะสมจริงๆ!ใช่เลย คุณนี่แหละ!”
ถังจิ้นเหยียนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ“อะไร?”
เจิ้งซิ่วหยาพูดอย่างไม่อ้อมค้อม“เชฟขา!ฉันทำอาหารไม่เป็น คุณทำเป็น พอดีเลยคุณมาเป็นเชฟให้ฉัน นอกจากสัญญาคู่รักที่พวกเราคุยกันแล้ว ตอนนี้ฉันเชิญคุณให้มาเป็นเชฟของฉัน คุณสามารถมาห้องนี้เมื่อไรก็ได้ตามสบาย อยู่ตามสบาย อยากได้เงินเดือนอะไรก็……เอ่อ คุณดูเหมือนจะไม่ได้ขาดแคลนเงินทองอะไรขนาดนั้น สรุปง่ายๆก็คือ คุณมาเป็นเชฟให้กับฉันแล้วกัน!”
ถังจิ้นเหยียนแกะมือของเธอที่เกาะไหล่ของเขาไว้แน่นออก พูดอย่างเลี่ยงๆ“ขอโทษด้วยคุณเจิ้ง ผมเป็นหมอ งานยุ่งมาก ไม่มีเวลาแล้วก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากจะไปเป็นเชฟให้กับคุณหรอกนะ คุณไปเชิญคนที่เก่งเฉพาะทางกว่าผมดีกว่านะ”
“นี่ๆๆ คุณอย่าปฏิเสธตรงๆแบบนี้สิ!ฉันพูดจริงจังนะ!”
ถังจิ้นเหยียนแววตาแน่วแน่ น้ำเสียงไม่เปลี่ยนแปลง“ผมก็จริงจัง ผมปฏิเสธข้อเสนอของคุณด้วยความจริงจัง คุณเจิ้ง อาหารมื้อดึกนี้คุณกินต่อได้เลย ขอบคุณที่ช่วยผมในวันนี้”
พูดเสร็จก็เข้าไปในห้องนอน อีกทั้งยังกะไว้ว่าจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ก็จะไม่ออกมาจากห้องอีก
เจิ้งซิ่วหยาซดน้ำในหม้อไปจนหมดเกลี้ยงอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ก่อนจะพูดพึมพำกับตนเอง“ไม่ได้ ฉันจะต้องคิดหาวิธีให้เขามาทำอาหารให้ฉันกินให้ได้”
——
ยามเช้าตรู่ แสงอาทิตย์แรกยามรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง ผ้าม่านสีขาวบางค่อยๆพัดสะบัดผ่านมาตรงหน้า
มือของลั่วหานรู้สึกเจ็บปวด ผลกระทบจากความอ่อนล้ามากเกินไปที่หลงเหลือไว้ตรงมือขวายังคงกระตุ้นไประบบประสาทของเธออย่างรุนแรง ถ้าเกิดวันไหนเจ็บขึ้นมาก็เหมือนกับมีมีดกำลังทิ่มแทงอยู่ที่เลือดเนื้อข้างในของเธอ
รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยของคนที่อยู่ข้างๆ หลงเซียวจึงตื่นขึ้นมา
“ดีขึ้นแล้วยัง?”
โอบกอดไหล่ของเธอ หลงเซียวที่เพิ่งตื่นน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่เซ็กซี่ไม่น้อย มันช่างน่าดึงดูดเย้ายวนใจยิ่งนัก
ลั่วหานอดกลั้นความเจ็บปวดที่มือ พยักหน้าอย่างอารมณ์ดี“ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ใช่แล้ว มือถือของฉันล่ะ? เมื่อวานคุณปิดเครื่องเร็วเกินไป ฉันจะดูสักหน่อยว่ามีธุระอะไรบ้าง”
“ตื่นมาตอนเช้าสิ่งแรกที่ทำก็คือดูมือถือ คนที่เป็นสามีแบบผม ยังมีสเน่ห์สู้ไอ้หน้าจอ4.7นิ้วนั่นไม่ได้สินะ?”
หลงเซียวกระซิบข้างๆหูด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟัง คนที่ได้ฟังก็จะรู้สึกใจสั่นๆ เส้นผมของลั่วหานถูกเขารวบเอาไว้มาเล่นอยู่ในมือ นิ้วเรียวยาวที่รวบเส้นผมอยู่ ค่อยๆเข้าไปใกล้คอเธอทีละนิดๆ
ลั่วหานทำปากจู๋ หันหน้าสวยๆไปมองตาเขา“ควรจะลุกจากเตียงได้แล้วคุณหลง คุณต้องไปทำงานนะ”
เธอพูดเร่ง พร้อมกับเปิดมือถือดู
มือถือเพิ่งจะเปิดมาที่หน้าหลัก ข้อความหลายข้อความก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าทันที ต่อมาก็เป็นสายที่ไม่ได้รับอีกสองสามสาย
ของถังจิ้นเหยียน ของหลินซีเหวิน แล้วก็มีของคุณหมอคนอื่น
ล้วนแต่เป็นช่วงเวลาของเมื่อวานตอนค่ำทั้งสิ้น
คิ้วขมวดพันกัน ขณะที่ลั่วหานกำลังที่จะโทรกลับไปหาถังจิ้นเหยียนอยู่นั้น ในโทรศัพท์ก็มีข่าวของเมืองหลวงเด้งขึ้นมา
“คุณหมอฝีมือเยี่ยมทำการผ่าตัดปุบปับโดยที่ไม่ทันได้รับอนุญาต จนทำให้คนไข้เสียชีวิต จนถึงตอนนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับมา”
พาดหัวเขียนได้ค่อนข้างคลุมเครือ เนื้อหาข่าวก็เขียนอย่างระมัดระวัง เพียงแต่ว่า โรงพยาบาลH กับคุณหมอนามสกุลC แล้วก็ชื่อคนไข้จากในข่าวนำมารวมกันแล้ว ทันใดนั้นลั่วหานก็อ่านเข้าใจหมดทุกอย่างในทันที!
ขณะที่กำลังอึ้งตะลึงอยู่นั้น ลั่วหานก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว“หลงเซียว คนไข้ของฉันเกิดเรื่องแล้ว เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้”
ลุกขึ้นมาเร็วเกินไป ทำให้เลือดในหัวของเธอไหลลงไม่ทัน รู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง ภาพตรงหน้าของลั่วหานก็เห็นเป็นสีดำทึบไปหมด
หลงเซียวยื่นมือออกมาโอบเธอไว้“เรื่องใหญ่ขนาดไหนมันก็ไม่คุ้มกับการที่คุณจะเอาสุขภาพของตัวเองเข้าไปแลก นอนพักก่อนเถอะ”
เอาลั่วหานนอนลง แล้วห่มผ้าให้กับเธอ จากนั้นก็หยิบมือถือของตัวเองโทรออกไปที่เบอร์เบอร์หนึ่ง
สักพักก็มีเสียงกดรับสายดังขึ้น
ลั่วหานที่ในใจอยู่ไม่สุข กำลังลุกเป็นไฟ เกลียดตัวเองที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมานอนพัก ที่หูได้ยินเสียงเย็นชาแปลกๆของหลงเซียวดังขึ้นมา
“อือ”
“ให้ทนายมา”
“ใช่……ตรวจสอบให้ชัดเจน……ที่ฉันต้องการก็คือผลลัพธ์……รีบไปเดี๋ยวนี้!”
หลังพูดกับในสายไปอย่างง่ายๆแล้ว ก็หันสายตากลับมาพบว่าลั่วหานกำลังมองตนเองอย่างกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ หลงเซียวหยิกๆแก้มของเธอพร้อมกับพูดอย่างยิ้มๆ“เรียบร้อยแล้ว จัดการหมดแล้วล่ะ ตอนนี้คุณนอนพักได้แล้วนะ”
ลั่วหานแววตาเย็นชาเล็กน้อย“หลงเซียว นี่มันชีวิตของคนเลยนะ แถมคนไข้ ฉันก็เป็นคนเซ็นยืนยันการผ่าตัดเองด้วย ตอนนี้เขาตายแล้ว ฉันหลบหนีความรับผิดชอบไปไม่ได้หรอกนะ”
“หมอฉู่ ในโลกใบนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิด มีสายงานหนึ่งเรียกว่าทนายความ แล้วก็มีอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ที่คุณต้องทำตอนนี้ก็คือดูแลสุขภาพตัวเอง เรื่องอื่นให้ผมที่เป็นสามีจัดการเอง”