คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 269 ผู้ชายทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงทำงานในบ้าน
ตอนที่ 269 ผู้ชายทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงทำงานในบ้าน
ห้องทำงานของหลงเซียวมักจะให้คนเข้ามาตลอดจากนั้นก็รู้สึกว่าสู้ไม่ได้โดยไม่รู้ตัว
และคนคนนั้นที่เหนือกว่าเสมอ ก็คือเทพหลงเซียว
ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยทั่วไป ฝ่ายร่วมมือที่สำคัญ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท หรือว่าพ่อของเขา
หลงถิงก้าวเท้าเข้าไปในห้องทำงานของหลงเซียว เสื้อสูทรีดเรียบช่วยเสริมร่างกายของเขาที่อายุเกินห้าสิบแล้ว แทบไม่เห็นรูปร่างที่สูงอายุเลย โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่สามารถมองทะลุผู้คนได้ทุกที่ทุกเวลา ที่นำมาสำรวจโดยละเอียดถี่ถ้วนอย่างเงียบๆเสมอ
แม้กระทั่งมองไปที่ลูกชายของตน เขายังคงไม่เปลี่ยนเป็นความเย็นชาเล็กน้อย ไม่สิ หรือเพิ่มความเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น
หลงเซียวเห็นคนที่เข้ามาเป็นพ่อ เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “พ่อ”
หลงถิงเลือกนั่งลงที่นั่งหลักในห้องรับแขกด้วยตนเอง ทันทีที่ส่งเสียงออกไปก็แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก ความไม่พอใจนี้เป็นการตำหนิมากกว่า “คุณมอบอำนาจการผลิตผลิตภัณฑ์ยาตัวใหม่ของหวาเซี่ยให้กับบริษัทฉู่ซื่อหรอ?”
หลงเซียวคาดการณ์ไว้แล้ว เขามาที่ห้องทำงานเพื่อหาเขาด้วยตนเอง ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“ถูกต้อง บริษัทฉู่ซื่อจะมีอุปกรณ์การผลิตที่ทันสมัยที่สุดของเยอรมนีประจำการอยู่ในโรงงานจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตในประเทศมีอำนาจสูงสุดในการควบคุมดูด้วยตนเอง”
นี่คือการอธิบายอย่างเป็นทางการของฝ่ายภาครัฐ แน่นอน หลงเซียวก็รู้ การอธิบายอย่างนี้ ไม่มีค่าพอสำหรับหลงถิงแน่ๆ
ดวงตาสีดำของหลงถิงลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ แต่ความโกรธแบบนั้น ตลอดทั้งปีถูกขัดสีคำพูดการกระทำให้เหมาะสมเพื่ออำพรางปิดบังที่จะออกมา คนรอบข้างจะมองไม่ออกถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขา ทว่าได้ถูกสยบลงด้วยพละกำลังของเขา
“บริษัทฉู่ซื่อเป็นบริษัทการค้าที่นำเข้าส่งออกธรรมดา ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตผลิตภัณฑ์ยา คุณให้โครงการที่สำคัญเช่นนี้แก่พวกเขา นี่เป็นการทำให้วุ่นวาย!”
พ่อลูกทั้งสองห่างกันกว่าสิบเมตร คนหนึ่งนั่งบนโซฟา คนหนึ่งยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทั้งสองคนลึกลับซับซ้อน แต่รอบคอบไม่มีช่องโหว่
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวประสานเข้าหากัน ข้อศอกวางอยู่บนที่วางแขนของเก้าอี้ทั้งสองข้าง ภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเองอย่างมาก ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำอะไรเลยสักนิด “ที่พ่อพูดนี่ก็คือ ฉันไม่ควรให้ มอบให้บริษัทฉู่ซื่อผลิตงั้นหรอ? บริษัทฉู่ซื่อเป็นบริษัทของภรรยาฉัน พูดตรงๆก็คือบริษัทของฉัน ฉันมอบอำนาจให้บริษัทของตนเอง จะเป็นการทำเรื่องวุ่นวายได้อย่างไร?”
หลงถิงทำเสียงไม่พอใจ เสียงฮึดฮัดนี้เหมือนต้องการระบายความกลัดกลุ้มออกมา เผอิญว่าคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นไม่ยอมรับ
“บริษัทฉู่ซื่อเป็นของคุณ? ชิ บริษัทฉู่ซื่อทำกิจการการค้าอะไร ฉันยังต้องบอกให้เข้าใจอีกหรอ? ชื่อเสียงของบริษัทฉู่ซื่อในสองสามปีนี้ ตกอยู่ในมือของเสิ่นเหลียวเปลี่ยนจนกลายเป็นอะไร ยังต้องให้ฉันเตือนสติไหม? ! คุณส่งมอบเวชภัณฑ์ให้แก่โรงงานอย่างนี้ ก็คือกำลังทุบยี่ห้อของหวาเซี่ย! ยี่ห้อของMBKอยู่!”
ข้ออ้างเช่นนี้ยิ่งไม่มีค่าพอให้หลงเซียวสนใจ “บริษัทฉู่ซื่อที่อยู่ในมือของเสิ่นเหลียวต้องเจอกับอะไร ทั้งหมดเป็นเรื่องของเขา ตอนนี้บริษัทกลับมาอยู่ภายใต้ชื่อภรรยาของฉัน เป็นทรัพย์สินที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันของเธอกับฉัน ฉันไม่สามารถยอมให้ใครมาทำให้มันเสียชื่อเสียงได้”
ถึงแม่ว่าจะเป็นพ่อ ก็ไม่ได้!
สำหรับสิ่งนี้ เขาไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำอีกแล้ว
“ดำก็คือดำ จะเป็นขาวไปไม่ได้ ฉันไม่เห็นด้วยที่คุณมอบสิทธิ์ในการผลิตให้กับบริษัทฉู่ซื่อ” จุดประสงค์ที่หลงถิงมาในวันนี้ ในที่สุดก็เผยออกมา
หลงเซียวหักนิ้วยาว “หืม? อย่างนั้นโดยความหมายของคุณ คนคนนี้ควรจะเป็นใคร?”
“แน่นอนว่าเป็นลุงของคุณกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของคุณ โรงงานของพวกเขาได้เตรียมอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดไว้แล้ว งานทั้งหมดทุกอย่างเตรียมการไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว โครงการนี้ก็เป็นของพวกเขา”
“ห๊ะ? เป็นของพวกเขา? พ่อลืมไปแล้วหรอ การค้าขายของลุงกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง ก็ไม่ได้ขาวสะอาด เปรียบเทียบก็คือสีดำฟอกให้เป็นสีขาว แกล้งทำจากดำให้เป็นขาว ดูเหมือนว่าน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น การผลิตผลิตภัณฑ์ยาต้องผ่านการตรวจสอบหลายครั้ง ขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อน ต้องควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด เป็นเพราะคุณมั่นใจว่าสามารถเซ็นชื่อและจำหน่ายยาได้สำเร็จ หรือคุณมีข้อมูลกับลุงและพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของคุณ?”
ข้อสังเกตนี้ พูดอย่างมีเหตุผลน่าฟัง คำพูดที่ชอบธรรม ไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด บ่งบอกชัดเจนว่าไม่ให้ตามความปรารถนาของหลงถิง
“ได้ฟังความหมายของคุณ ไม่ให้ออกมาอย่างแน่นอนใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ฉันไม่เต็มใจจะให้ เป็นเพราะพวกเขารับไว้ไม่ได้ ฉันมั่นใจว่าจะทำให้ผลิตภัณฑ์ยาออกจากด่านศุลกากรได้อย่างราบรื่น ยิ่งมั่นใจว่าจะได้รับใบสั่งสินค้า ฉันสามารถกู้คืนเงินทุนได้ในเวลาที่สั้นที่สุด ถ้าพ่อคิดว่าพวกเขาทำได้ดีกว่าฉัน ฉันก็ยังไงก็ได้”
หลงเซียวผายมือ ทั้งคู่ดูท่าทางผ่อนคลายมีความสุข
แต่ว่าคำพูดของเขา ประโยคที่สวยงาม ตรงประเด็น ทำให้หลงถิงพูดหักล้างเหตุผลไม่ออกสักคำ
หลงถิงอัดอั้นในใจ สีหน้าที่แสดงออกดูไม่ค่อยดี พูดอย่างอัดอั้นว่า “ทางที่ดีคุณอย่าทำให้ฉันผิดหวัง”
หลงเซียวยิ้มออกมานิดๆ “ฉันจะทำอะไร จำเป็นต้องไม่ทำให้ตนเองผิดหวัง”
“ตอนนี้คุณปีกกล้าขาแข็งแล้วจริงๆ!”
“อันนี้ ไม่ใช่พ่อเคยพิสูจน์แล้วหรอ? หรืออยากพิสูจน์อีกครั้ง ฉันก็ยินดี”
คำหนึ่งคำกระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจมากเกินไป หลงเซียวหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ แต่ว่าไม่เหมือนกันกับหลงถิง
หลงถิงลุกขึ้นด้วยความโกรธ น้ำชาสักอึกก็ไม่ดื่ม ยืดอกยืนขึ้น แต่ถึงแม้ว่าจะยืนขึ้น ยังรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยกว่าลูกชาย พลังอำนาจแบบนั้น ความรู้สึกกดขี่แบบนั้น ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน แข็งแกร่งพอ ที่ทำให้เขากระวนกระวายใจ
กระวนกระวายใจอย่างมาก
“สำหรับฉู่ลั่วหาน คุณอย่าคิดว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว!”
พูดจบ หลงถิงก็กลับออกไปจากห้องทำงาน “ปัง” กระแทกประตูแล้วออกไป
เลขาด้านนอกทั้งสามคนลุกขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจจนแทบหยุดหายใจ ไม่กล้าสบตากับหลงถิง
ท่านประธานกรรมการโกรธมากขนาดนี้ ดูเหมือนว่าพ่อลูกทั้งสองคนไม่ค่อยจะมีความสุข
ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
ยังคิดว่าท่านประธานก็น่าจะโมโหอย่างมาก แต่คาดไม่ถึง ข้างในสงบเงียบมาก เหมือนกับว่าเมื่อกี้นี้ไม่มีอะไร หลงถิงไม่เคยมาที่นี่
หลงเซียวพิงพนักพิงเก้าอี้ ลูบไล้แหวนที่นิ้วนางอย่างละเมียดละไม แววตาเย็นชาเล็กน้อย ลึกซึ้งเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าไม่ได้คำนึงถึงลั่วหานในปีนั้น หรือว่าลั่วหานในตอนนี้ พ่อแม่ของเขามีท่าทีกีดกันเพียงแค่ตอนนี้เท่านั้น หลงเซียวรู้สึกได้ถึงการกีดกันของพวกเขา ไม่ใช่มุ่งไปที่ตัวของลั่วหานเองแล้ว แต่ต่อต้านการตัดสินใจของเขา การตัดสินใจทุกสิ่งทุกอย่าง
น่าสนใจจริงๆ!
——
ชั้นบนสุดของอาคาร ห้องอาหารฝรั่งเศส
ลั่วหานหมุนแก้วในมือ ไวน์ในแก้วใสส่งกลิ่นหอมอ่อนๆออกมา
ไวโอลินเสียงไพเราะล้อมรอบอยู่ในห้องอาหารหรูหรา มีดอกกุหลาบสวยงามสองสามดอกอยู่บนโต๊ะอาหาร บรรยากาศโรแมนติกและอบอุ่น
หลงเซียวถือมีดและส้อมในมือ สายตามองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มมุมปากอย่างอ่อนโยน “ชอบไหม?”
“แน่นอน ชอบมาก”
หลงเซียวเหมาที่นั่งประจำ หลงเซียวเลือกท็อปเชฟมา นอกจากนี้ยังมีการแสดงไวโอลินสดที่จัดขึ้นเป็นพิเศษโดยหลงเซียว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบ
หลงเซียวหั่นสเต็กเนื้อนุ่มอย่างละเมียดละไม ยื่นแขนข้ามโต๊ะอาหารส่งไปที่ปากของลั่วหาน ลองชิมอันนี้”
ลั่วหานอ้าปาก กินเนื้อสเต็ก เคี้ยว หยอกล้อในสายตา “คาดไม่ถึงจริงๆ ครั้งก่อนที่เรากินข้าวที่นี่ยังตาต่อตาฟันต่อฟัน ตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง”
หลงเซียวหั่นสเต็ก มีดกับจานมีเสียงเล็กน้อย “ครั้งก่อน? พวกเราตาต่อตาฟันต่อฟันกันหรอ? ทำไมฉันจำไม่ได้? ฉันจำได้แค่คุณแอนน่า เย่อหยิ่ง ตรงไปตรงมากับฉันจริงๆ”
“อันที่จริง เวลานั้นฉันกับคุณ ก็ไม่ใช่ทำเช่นนั้นออกมา……เอาเถอะ ฉันยอมรับ เสน่ห์ของคุณหลงเอาชนะแอนน่าได้จริงๆ ดังนั้นไม่เกี่ยวว่าจะเป็นแอนน่าหรือฉัน ก็รักคุณ”
“ฉันรู้” รอยยิ้มที่สบายๆ การแสดงออกที่เป็นธรรมชาติบนใบหน้า ค่อนข้างจะหลงตัวเองมากเลยจริงๆ
“คุณรู้ได้อย่างไร?”
“ฉันเชื่อในเสน่ห์ของตนเอง ผู้หญิงไม่สามารถต้านทานได้”
“ชิ! คุณหลงกลายเป็นเทพที่หลงตัวเองไปแล้วจริงๆ”
“คุณนายหลงชมเกินไปแล้ว ฉันจะพยายามต่อไป”
“ชิ! จริงๆเลย……” ลั่วหานยิ้ม ไม่ได้พูดออกมาแต่แสดงออกด้วยรอยยิ้ม
ท่านเซียวยกแก้วไวน์ขึ้น แววตาอบอุ่นต่างกับครั้งก่อนราวกับคนละคน “ชนแก้ว”
ชั่วขณะที่เงยหน้า ลั่วหานใจลอยไปแป๊บหนึ่ง ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคือสามีของเธอ ราวกับการมีอยู่ของตำนานที่โดดเด่นนี้คือสามีของเธอ คิดๆแล้วก็มีความสุขจริงๆ
สิ่งที่ฟุ้งเฟ้ออันนี้ ดูเหมือนเธอจะไม่น้อยหน้าไปกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ
“ชนแก้ว”
ทั้งสองคนชนแก้วกัน ของเหลวสีแดงสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นต่างคนต่างดื่ม
“เดี๋ยว! ตอนนี้หัวใจคุณยังไม่ฟื้นฟูกลับเหมือนเดิม อย่าดื่มเหล้าน่าจะดีกว่า” ลั่วหานเฉลียวฉลาด นึกถึงสภาพร่างกายของหลงเซียว รีบยื่นมือไปแย่งแก้วเหล้าของเขา
ทว่าระหว่างที่เธอยื่นมือมาหลงเซียวก็ดื่มหนึ่งอึก “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ฉันมียาดี ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
“ยาดีอะไร?”
ทำไมผู้เชี่ยวชาญอาวุโสไม่รู้ว่ายังมียาดี?
“คุณไง”
หลงเซียวขยับร่างกายส่วนบน เข้าไปใกล้ๆเธอนิดหนึ่ง หนึ่งคำที่มีเลศนัย พูดออกมาช้าๆ
“ตอนนี้ท่านเซียวยิ่งนานวันยิ่งมีเทคนิคเย้าแหย่แกล้งแซวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องกลับมาพิจารณาใหม่จริงๆ”
ต้องจำใจยอมรับ ลูกไม้เล็กๆน้อยแบบนี้กับผู้หญิง ไม่มีความต้านทานสักนิด
“ฉันแซวผู้หญิงของตัวเองเท่านั้นแหละ” แววตาเจ้าเล่ห์ของเขาเป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ดึงดูดผู้คน
“ชิ! อย่าลำพองใจไปเลย คุณหลง”
ลั่วหานกังวลว่าตนเองจะตกหลุมพรางของหลงเซียวจริงๆ จากนั้นก็ไม่สามารถออกไปได้อีก เล่ห์เหลี่ยมของชายคนนี้ ช่างร้ายกาจซะจริงๆ
กระวนกระวายใจซะที่ไหนกัน!
“ใช่แล้ว คุณให้บริษัทฉู่ซื่อผลิตผลิตภัณฑ์ยาให้กับโรงพยาบาลหวาเซี่ย ทำแบบนี้ พ่อคุณจะเห็นด้วยหรอ?”
“ฉันช่วยภรรยาของตนเอง ยังจำเป็นให้ใครมาเห็นด้วยหรอ? คุณเห็นด้วยก็พอ”
ลั่วหานเบ้ปาก “ผู้ชายทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงทำงานในบ้าน เรื่องราวภายนอก ฉันต้องฟังจากคุณ”
หลงเซียวค่อนข้างพอใจกับประโยคนี้ “ฉันให้เยนเซินช่วยจัดการบริษัทฉู่ซื่อให้ก่อน รอให้มั่นคงแล้วคุณค่อยรับช่วงต่ออีกที”
“คุณชายกู้? อึ่ม……ฉันก็หาคนได้แล้ว พรุ่งนี้เธอก็จะไปบริษัทฉู่ซื่อ ในฐานะประธานดูแลจัดการบริษัทฉู่ซื่อแทนฉัน”
ให้ตำแหน่งประธานกับคนอื่นเลยหรอ?
“คนที่คุณไว้ใจได้ก็ดีแล้ว”
“คุณไม่ถามหรอว่าใคร?”
วางใจเกินไปหรือเปล่า?
“โอเค ใคร?”
ไม่ได้เต็มใจจะถามจริงๆ เหมือนเป็นการทำกิจวัตรให้เสร็จ
“เธอชื่อไป๋เวย ลูกสาวของตระกูลไป๋ที่เคยมีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิง แต่เมื่อปีที่แล้ว เสิ่นเหลียวใช้อำนาจมืดฆ่าคนของตระกูลไป๋ มีเพียงเธอเท่านั้นที่หลบซ่อนอยู่ที่ต่างประเทศ”
หลงเซียวบีบส้อมที่อยู่ในมือ หยุดชะงักไป หลังจากนั้นก็กินข้าวต่ออย่างปกติ “อย่างนี้……”
“เวลานั้นไป๋เวยอยู่ที่อเมริกา หลังจากได้ยินข่าวนี้ก็กระวนกระวายใจอย่างมาก เกิดโรคหัวใจเฉียบพลัน เป็นฉันที่ช่วยเธอไว้”
“พูดอย่างนี้ ไป๋เวยตอนนี้กลับประเทศ เพื่อมาตามแก้แค้นเสิ่นเหลียวใช่ไหม?”
ตระกูลไป๋ หลงเซียวรู้จักแน่นอน ตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพล สาบสูญไปภายในชั่วข้ามคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังปิดคดีไม่ได้
ที่แท้ ก็เป็นเช่นนี้
“ใช่ บัญชีแค้น จะไม่สามารถตอบกลับได้อย่างไร?”
หลงเซียวเท้าข้อศอกบนโต๊ะ มองลั่วหาน “คุณต้องช่วยเธอหรอ?”
ลั่วหานใจสั่นเล็กน้อย ยังคงที่จะเลือกพูดไปตรงๆว่า “อืม ฉันอยากช่วยเธอ”
“โอเค ฉันจะช่วยคุณ”