คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 270 เล่นละครให้ศัตรูหลงเชื่อ
ตอนที่ 270 เล่นละครให้ศัตรูหลงเชื่อ
“ไม่จำเป็นหรอก เมื่อต้องการให้คุณแสดงฝีมือฉันจะบอกคุณ”
ได้ยินเขาเสนอตัวต้องการจะช่วย ปฏิกิริยาแรกของลั่วหานคือปฏิเสธ จริงๆเธอไม่อยากให้ตนเองพึ่งพาหลงเซียวจนเกินไป ไม่เพียงไม่ต้องการพึ่งพาเขาเท่านั้น ยังอยากใช้ความสามารถของตนเองช่วยเขาด้วย
เห็นได้ชัดว่าหลงเซียวคาดไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าลั่วหานจะปฏิเสธตรงๆแบบนี้ “บางทีรอคุณให้ฉันแสดงฝีมือมันก็อาจจะสายเกินไปนะ ตามนิสัยของคุณ ไม่ถึงกับรับไม่ไหว ก็ไม่ขอร้องให้ฉันช่วยแน่ๆ ฉันไม่อยากเห็นสถานการณ์อย่างนั้น”
เขาไม่อยากให้เธอเข้มแข็งเกินไป ถ้าภรรยาของเขาแข็งแกร่งเกินไป แล้วสามีอย่างเขาคนนี้ จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน?
ยังคงหวังว่าในเวลาที่เหมาะสมเธอจะหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังเขา เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกปกป้องก็พอ
ลั่วหานยักไหล่ “คุณคิดว่าจะทำอย่างไร?”
ทว่าหลงเซียวกลับโยนคำถามให้เธอ “ลองบอกวิธีของคุณซิ ในเมื่อคุณต้องการแก้แค้นให้ไป๋เวย ต้องมีแผนที่เหมาะสมอย่างแน่นอน พูดเถอะ”
ลั่วหานอมอาหารไว้ในปาก ค่อยๆเคี้ยวทีละนิดๆ ลูบริมฝีปากขึ้นลง สีหน้าค่อนข้างมีเล่ห์เพทุบาย ลำพองใจนิดๆ “ฉันไม่ชอบที่จะทำ จะทำให้คุณดู”
หลงเซียวยิ้มออกมา “โอเค!”
“เหมาที่นั่ง? ใครเหมาที่นั่ง? ให้เขาออกมา!”
ทั้งสองคุยกันและกินข้าวอย่างมีความสุข ฉับพลันเสียงการทะเลาะวิวาทกันก็ทำลายความเงียบสงบสวยงามในห้องอาหาร
น้ำเสียงต่อต้านดุดันของผู้หญิง ท่าทางเย่อหยิ่งมั่นใจในตนเอง ราวกับว่าตนเองเป็นเจ้าของที่นี่ ด่าบริกรแรงๆใส่หน้าโครมๆ
ลั่วหานหมุนแก้วในมือ กระตุกมุมปากเลิกคิ้วไปทางหลงเซียว “มีคนมาเตะสนามของคุณแล้ว เรื่องนี้คุณหลงจะทำอย่างไร?”
แววตาของหลงเซียวไม่ได้มองไปทางด้านข้างสักนิด ยังคงรักษาไว้ซึ่งความสุภาพสง่างาม “กับข้าวมาช้าไปหน่อย”
หืม? คนมาก่อความวุ่นวายให้หลงเซียว เพียงแค่กับข้าวหรอ?
นี่ถ้าให้คนอื่นมาได้ยิน จะต้องโกรธอย่างแน่นอน
ลั่วหานมองไปที่เคาท์เตอร์บริการที่ยุ่งวุ่นวาย สาวสวยในชุดเซ็กซี่แหวกอกกำลังโต้เถียงกับบริกร อีกทั้งยังมีท่าทางบุกรุกโดยตรง
“คุณผู้หญิง คุณเข้าไปไม่ได้นะ วันนี้คุณหลงเหมาที่นั่งแล้ว กรุณากลับเถอะ”
“คุณหลง? คุณหลงไหน ฉันไม่สนใจ วันนี้ฉันมาที่นี่แล้ว ต้องให้ฉันเข้าไป มิเช่นนั้นอีกสักครู่แฟนฉันจะเข้ามา ดูว่าสุดท้ายพวกคุณจะทำอย่างไร!”
แฟน?
ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ที่แท้ก็มีคนอยู่เบื้องหลัง!
“คุณผู้หญิง! คุณผู้หญิงคุณเข้าไปไม่ได้นะ!”
บริกรขัดขวางไว้ ยังคงอธิบายกีดกันไม่ให้เข้ามา ชุดเดรสยาวใหม่ทันสมัยในเวลานั้น ถือกระเป๋าHermèsรุ่นใหม่ล่าสุดเดินไปที่ห้องอาหาร ผู้หญิงยืนอยู่โคมไฟระย้าคริสตัล กอดอกมองไปที่แขกที่มีอยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น มุมปากยิ้มเยาะ
“ที่แท้นี่คือคุณหลง ฉันคิดว่าคุณหลงอะไร”
สายตาของลั่วหานมองอยู่ระหว่างคนทั้งสอง ใบหน้าของผู้หญิงที่แต่งหน้าหนัก หญิงสาวหน้าตาที่สะสวย มีเสน่ห์ไม่ด้อยไปกว่าดารา
หลงเซียวไม่แม้แต่จะคุยกับผู้หญิงอย่างนี้ ยังคงถือแก้วเหล้าของตัวเอง จิบไวน์ไปหนึ่งอึก หั่นสเต็กชิ้นเล็กๆ พูดกับลั่วหานว่า “อีกสักครู่กินเสร็จแล้วอยากทำอะไร?”
“คุณจัดการมาเลย ฉันจะฟังคุณ”
“โอเค ไปเดินเล่นที่สนามด้านนั้นกัน วิวสนามตอนกลางคืนก็ไม่เลว”
“ได้ เราไม่ได้เดินเล่นด้วยกันมานานแล้ว”
หญิงที่เห็นว่าตัวเองถูกเมินเฉย กัดฟันเดินบนรองเท้าส้นสูงไปที่ข้างโต๊ะอาหารของทั้งสองคน “คุณหลง คืนนี้ฉันกับแฟนของฉันต้องมารับประทานอาหารที่นี่”
หลงเซียวเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชาไปที่หญิงสาว “หื๊ม? แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
“คุณ! คืนนี้คุณเหมาที่นั่งที่นี่ ฉันต้องมากินข้าวที่นี่ คุณฟังไม่เข้าใจความหมายหรือไง?” หญิงสาวกอดอก ถอนหายใจ
ลั่วหานเห็นใจอยู่เงียบๆ กินสลัดผักชุดนั้นของตน “คุณผู้หญิง เปลี่ยนห้องเถอะ คืนนี้ที่นี่เป็นของฉันกับสามีฉัน”
หญิงสาวคนนี้ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรอ! กล้าเอะอะต่อหน้าหลงเซียว
ชิ!
“อย่าคิดว่ามีเงินก็สุดยอดแล้วนะ มีเงินก็ไม่สามารถลดทอนอำนาจของคนอื่นได้ ฉันต้องการนั่งที่นั่งนี้!” พูดจบ หญิงสาวก็เงยหน้าไปทางบริกร “มานี่ ฉันอยากสั่งอาหาร!”
ลั่วหานส่ายหัว บอกให้รู้ว่าเห็นใจหญิงสาว “ตอนนี้ฉันแนะนำว่าให้คุณออกไปเถอะ”
ด้านนี้กำลังโต้เถียงอยู่ ภาพเงาสีขาวของคนก็รีบเดินเข้ามาจากด้านนอก อย่างรวดเร็ว เร็วจนมองไม่ชัดว่าเป็นใคร
“เพี๊ยะ!”
ฉับพลันเสียงตบก็ดังออกมา เสียงดังมาก ทำให้เห็นกำลังที่ใช้ไปไม่น้อย
“คุณอยากตายหรอ!”
หื๊ม? เสียงคุ้นๆ
ลั่วหานกับหลงเซียวมองไปทางชายที่ยื่นมือไปตบ สิ่งที่เห็นคือเกาจิ่งอาน
“คุณ……คุณตบฉันหรอ? ที่รัก คุณตบฉันได้ยังไง?”
หญิงสาวที่ถูกตบจนหน้าแดงไปครึ่งหน้าก็ร้องไห้น้ำตาหยดติ๋งๆอย่างน้อยใจ มองไปที่สีหน้าเย็นชาของเกาจิ่งอานอย่างน่าสงสาร หัวใจเยือกเย็นอย่างมาก
“ตบคุณยังนับว่าเบาไป! รีบไปขอโทษคุณหลงกับคุณนายหลง!”
เกาจิ่งอานจับแขนเรียวของผู้หญิงและดึงเธอไปด้านข้างที่หันหน้าเข้าหาลั่วหาน “ขอโทษด้วย ที่รบกวนความสุขในการทานข้าวของท่านทั้งสอง ฉันจะให้เธอขอโทษพวกคุณเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวงงไปหมด มองไปที่เกาจิ่งอานอย่างตกตะลึง แววตาจ้องมอง “คุณ……ทำไมคุณทำอย่างนี้? ฉัน……”
“เพี๊ยะ!!”
เกาจิ่งอานตบด้วยหลังมือไปอีกหนึ่งที “ยังไม่ขอโทษอีก!”
คราวนี้ใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของหญิงสาวแดงไปหมด เขียวด้วย น้ำตาไหลพรากเปียกไปหมด หัวใจเย็นเฉียบจนจะเป็นน้ำแข็ง “ฉัน……ก็แค่อยากทานอาหารกับคุณที่นี่ ผิดอะไร? ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคนเหมาที่นั่งเป็นเขา! เขามีสิทธิ์อะไรมาเหมาที่นั่งพวกเราก็เลยไม่สามารถกินข้าวที่นี่ได้!”
ลั่วหานเบ้ปาก หัวเราะเยาะในใจและดูการแสดงที่ดี “คุณชายเกา ตบผู้หญิงน่าจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายควรจะทำ”
ร่างกายสูงใหญ่ของเกาจิ่งอานยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร “ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เรื่อง สมควรโดนตบ”
หญิงสาวกัดฟันน้ำตาไหล “จิ่งอาน……”
“ขอโทษสิ! ฉันให้คุณขอโทษพวกเขาเดี๋ยวนี้! ตอนนี้!”
เกาจิ่งอานดุด่าด้วยความโกรธ หญิงสาวกลัวจนตัวสั่น บีบคำออกมาจากไรฟันด้วยเสียงต่ำ “ขอโทษค่ะ”
หลงเซียวนั่งหลังตรงมาตลอด ในที่สุดเสียงทุ้มก็กล่าวอย่างเฉยเมยว่า “พอแล้ว พาผู้หญิงของคุณออกไปจากที่นี่ อย่ามารบกวนอารมณ์ในการทานข้าวของภรรยาฉัน”
เกาจิ่งอานยิ้มเล็กน้อย “คุณชายหลง วันนี้รบกวนอารมณ์ในการทานอาหารของท่านทั้งสอง วันหลังฉันจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับทั้งสองท่านด้วยตนเองอย่างดี เมื่อถึงเวลาได้โปรดไปเป็นเกียรติด้วย”
ทันใดนั้นสายตาของเขาก็หยุดลงที่ลั่วหาน “ฉันเลือกผู้หญิงที่มีวิสัยทัศน์ไม่ดี หากว่ามีความคิดได้ครึ่งหนึ่งของคุณฉู่ วันนี้ก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น”
หลงเซียวยังคงหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม “ประธานเกา อย่ามาเปรียบเทียบผู้หญิงเลอะเทอะกับภรรยาของฉัน ภรรยาของฉันไม่โกรธ ไม่ได้หมายความว่าสามีอย่างฉันจะไม่ถือสา”
เกาจิ่งอานหัวเราะแก้เก้อ “คุณชายหลงพูดถูก! อย่างนั้นทั้งสองท่านทานอาหารให้มีความสุขเถอะ พวกเราลาก่อน”
หลงเซียวไม่ได้สนใจเขาอีก ลั่วหานพยักหน้านิดๆ
เกาจิ่งอานดึงหญิงสาวทั้งหน้าแดงทั้งสองข้างลากออกจากห้องอาหารไป
ห้องอาหารได้คืนบรรยากาศที่เงียบสงบกลับมา รอยยิ้มบนริมฝีปากของลั่วหานเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง “ละครครั้งนี้เกาจิ่งอานกำกับเองแสดงเอง คิดจะทำอะไรกัน?”
คนที่ฉลาดใครจะมองไม่ออก การตบหน้าเมื่อกี้ การทะเลาะในสถานที่ เพียงแต่เป็นละครอีกฉากหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคุณภาพ
ดูเหมือนหลงเซียวจะอิ่มแล้ว วางมีดและส้อมลง ทำเสียงผิดหวังเล็กน้อย “เกาจิ่งอานอยากให้ฉันเห็นความบริสุทธิ์ใจของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ผิดแนวทาง แล้วก็ใช้ผิดกาลเทศะ”
ลั่วหานสงสัยอยู่ในใจ “หืม? ทำไมเกาจิ่งอานจึงทำดีกับคุณ? เท่าที่ฉันรู้ ตระกูลเกาอยู่เมืองหลวงก็มีอิทธิพลไม่น้อย และอีกอย่างตอนนี้เขาก็เป็นประธานของบริษัทอึนเคอ ไม่คุ้มที่จะตีค่าตัวเองให้ต่ำเพื่อมาเอาใจคุณแบบนี้ใช่ไหม?”
หลงเซียวหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดมุมปาก “บริษัทอึนเคอมีหนึ่งโครงการ จำเป็นต้องยืมความสามารถของฉัน และโครงการนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ตอนนี้เขามีความสามารถเพียงเล็กน้อย เพียงแค่แสดงต่อหน้าฉันให้ตายใจเท่านั้น”
ลั่วหานยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม “ดังนั้น วันนี้เขาทำให้ตายใจสำเร็จแล้วใช่ไหม?”
หลงเซียววางผ้าเช็ดปากลง มองภรรยาแล้วหัวเราะ “คุณภรรยา คุณอยากรู้ไหมว่าการทำให้ลาตื่นเต้นอยู่ตลอดวิธีที่ดีที่สุดอะไร? ให้เขาแขวนอาหารไว้ข้างหน้า ให้เขาเฝ้ารออยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถให้เขาทำแผนชั่วได้สำเร็จ ถึงเวลาที่เหมาะสมก็ให้ประโยชน์ที่ล่อตาล่อใจสักหน่อย”
ลั่วหานวางมีดกับส้อมลง ดวงตาเป็นประกาย “คุณสามี คุณนี่ร้ายกาจจริงๆเลย”
“การประเมินค่านี้ ฉันถือว่าเป็นคำชม” บางคนคาดไม่ถึงแน่นอนว่าจะยอมรับ ยังยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน ไม่สามารถหน้าด้านได้อีกแล้ว
“ฉันล่ะยอมแพ้เลยจริงๆ! คุณหลง”
“ฉันชนะเพราะคุณ คุณนายหลง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เดี๋ยวนะ ฉันอยากถามนิดหนึ่ง ทำไมคุณถึงมุ่งเป้าไปที่เกาจิ่งอาน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความขัดแย้งโดยตรงกับคุณเลยนะ?
ช่วงนี้เกาจิ่งอานผิดปกติมาก แทนที่จะเป็นซุนปิงเหวินนั่น ลั่วหานมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี
ปากบางของหลงเซียวประกบลง “ครั้งหนึ่งเขาอยากจะได้ภรรยาของฉันอย่างเปิดเผย ความขัดแย้งอย่างนี้ยังไม่เพียงพอใช่ไหม?”
“ชิ! จริงๆคุณก็หึง……ตอบสนองช้าเหลือเกิน”
แต่ว่า เธอดีใจมาก
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลงเซียวหายไป พูดด้วยน้ำเสียงสุขุมน่าเกรงขาม “ไม่เพียงแค่นั้นแน่นอน เกาจิ่งอานกำลังวางแผนลับ ร่วมมือกับตู้หลิงเซวียนเพื่อโจมตีตลาดหุ้นของMBK ถึงแม้ว่าเขาจะแก้ไขได้ทันเวลา ตัดขาดความเกี่ยวข้องกับตู้หลิงเซวียน แต่การลงโทษเพียงเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”
“อืม? อย่างนี้เอง”
“ยังมีอีกอย่าง เกาหยิ่งจือกับคุณหลุดออกจากความเกี่ยวข้องกันไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถรับใช้ตระกูลเกาได้โดยตรง อย่างนั้นก็ทำให้เขาสั่นสะเทือนเล็กน้อย”
อ๋อ!
สามีของเธอ ชนะใจเธอ……จริงๆเลย!
——
“ท่านประธาน หลงเซียวนั่นแสดงออกว่าอย่างไร? โครงการนี้ พวกเราจะเริ่มดำเนินการได้ตามกำหนดไหม? ขืนล่าช้าต่อไปอีก เกรงว่าจะก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก ตอนนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายรายเริ่มกระสับกระส่ายเล็กน้อยแล้ว”
“เกาจิ่งอานคีบบุหรี่ในมือ ควันลอยเป็นเกลียว ด้วยอาการกลัดกลุ้มของเขา “ตอนนี้หลงเซียวต้องการสอนบทเรียนให้กับฉัน ฉันไม่มีวิธีที่ดีกว่า”
ด้วยการถอนหายใจ มีความเสียใจ เสียดาย ยิ่งโทษตนเองมากขึ้น
เขาไม่ควรฟังคำพูดของตู้หลิงเซวียน ตอนนี้คิดอยากจะถอยก็ทำไม่ได้แล้ว
หลงเซียว……คำสองคำนี้ไม่ง่ายที่จะไปแตะต้อง เขาลืมไปได้อย่างไรนะ!
เฮ้!
งั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร? หลงเซียวนั่น ยังไม่มีวิธีอื่นใช่ไหม?”
เกาจิ่งอานสูบบุหรี่หนึ่งที ค่อยๆพ่นควันออกมา “ไม่มี รอไก้แค่ข่าวคราวทางด้านนั้น”
เขาได้แจ้งให้ทราบแล้ว เชื่อว่าหลงเซียวจะเข้าใจ แต่ไม่รู้ว่าหลงเซียวจะแสดงท่าทีอะไรออกมา
“อาคุน ความรู้สึกถึงการถูกเหยียบย่ำ มันไม่สบายใจอย่างมากเลย!”
เกาจิ่งอานกดบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่ กดอย่างแรง บุหรี่ที่เหลือครึ่งมวนถูกเขาบีบจนแหลกเป็นชิ้นๆ
“ท่านประธาน ตอนนี้หลงเซียวยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียบ พวกเรากับบริษัทหลายรายในเมืองหลวงต้องพึ่งจมูกหายใจ ทุกคนหน้าชื่นอกตรม น่าอึดอัดมากจริงๆ”
เกาจิ่งอานถอนหายใจ “เรื่องเล็กไม่ยอมอดทน จะเสียงานใหญ่ แจ้งฝ่ายการเงิน ด้วยชื่อส่วนตัวของฉัน บริจาคเงินหนึ่งล้านให้กับโรงพยาบาลหวาเซี่ย……ไม่ก็ เงินทุนสิบล้าน ไปตอนนี้เลย”