คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 198 ดูท่าทางเธอจะคิดถึงฉันมาก
ตอนที่ 198 ดูท่าทางเธอจะคิดถึงฉันมาก
ดวงตากลมใสทอประกายวิบวับจากแสงแดดยามเช้า แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านผ้าม่านตรงหน้าต่าง เพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง “ใช่ ฉันอยากเป็นคุณนายของบ้านหลังนี้”
ชายหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามชะงักมือไป เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว โดยที่ไม่ได้ตอบอะไร
เพราะบางทีเวลาผู้หญิงคนนี้พูดอะไร อาจจะไม่ได้หมายความตามที่พูด เขาจึงต้องแน่ใจเสียก่อน
แอนน่าดื่มน้ำผลไม้ไปหลายอึก เธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่แฝงความรู้สึกบางอย่างของหลงเซียวด้วยความนึกสนุก ก่อนจะเอ่ยปากหยอกล้อ “คุณหลงคิดไปถึงไหนคะ? ฉันก็แค่เห็นว่าบ้านนี้ใหญ่โตหรูหรา ราคาคงอลังการเอาเรื่อง ถึงได้อยากเป็นเจ้าของก็แค่นั้น คุณเข้าใจว่าอะไรล่ะ?”
หลงเซียวหั่นเนื้อชิ้นเล็กเข้าปาก “นึกว่าเธอหลงรักฉันเข้าซะแล้ว”
คราวนี้เป็นแอนน่าที่พูดไม่ออก เธอกัดริมฝีปากตั้งตัวอยู่หลายวินาที “หลงตัวเอง! ฉันเนี่ยนะจะหลงรักคุณ? ฉันไม่ได้ตาบอดสักหน่อย”
หลงเซียวแอบค้อนในใจ “ไม่หลงรักฉันก็พิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่าเธอน่ะตาบอด”
คุณพระช่วย! หลงตัวเองอะไรขนาดนี้?
วันเวลาผ่านไปเหมือนน้ำไหล แอนน่าคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตในบ้านสลับกับโรงพยาบาลได้อย่างดี
นับตั้งแต่วันที่ทำการผ่าตัดเสร็จ เธอก็ใช้ชีวิตอย่างราบรื่นมาได้สิบวันเต็มๆ
เตียงคนไข้ถูกเข็นออกจากห้องICUอย่างปลอดภัย นั่นหมายถึงการผ่าตัดเป็นไปด้วยดี
สิบวันต่อมาในตอนบ่าย งานแถลงของโรงพยาบาลหวาเซี่ย โดยมีแอนน่าที่เป็นบทบาทสำคัญกว่าครึ่งชั่วโมงตลอดการให้สัมภาษณ์
ในระหว่างนั้น เวลาส่วนใหญ่จะเป็นการอภิปรายของประธานเฉินกับผู้อำนวยการแผนกโรคหัวใจ แอนน่าในเสื้อกาวน์สีขาวนั่งอยู่บนโซฟา เธอจะพูดเสริมบ้างในช่วงที่จำเป็นก็เท่านั้น แต่ทุกการพูดของเธอกลับสร้างเสียงฮือฮาได้ทุกครั้ง
“โรงพยาบาลหวาเซี่ยทุ่มเงินกว่าร้อยล้านหยวนเพื่อโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ คุณแอนน่าได้ให้เกียรติบินกลับมาที่ประเทศเราเพื่อเข้าร่วมโปรเจคนี้ รวมถึงทำการผ่าตัดจนสำเร็จได้เป็นเคสแรก ช่วยชีวิตคุณหลิวซึ่งเป็นคนงานกรรมกรที่ได้รับทุนทางการแพทย์เป็นจำนวนเงินก้อนใหญ่…”
“รูปลักษณ์ดั่งนางงาม ความสามารถทางการแพทย์ที่ทำให้ทุกคนต่างตะลึง ควีนแห่งวงการแพทย์ได้เปิดผ้าคลุมออกแล้ว เป็นเกียรติของโรงพยาบาลใหญ่ในเครือMBKที่ครองความเชื่อมั่นของคุณหมอคนสวยได้ จากที่ได้ทราบมา คุณแอนน่าจะเข้าร่วมโปรเจคนี้ด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน…”
ข่าวใหญ่นี้ว่อนไปทั่วทุกตรอกซอกซอยภายในค่ำคืน คนทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้ข่าวที่ว่าโรงพยาบาลหวาเซี่ยได้คุณหมอระดับควีนแห่งวงการการแพทย์มาร่วมงาน
เหตุนี้เอง ในวันถัดมาโรงพยาบาลหวาเซี่ยจึงมีคนไข้แห่กันเข้ามาตรวจมากกว่าปกติถึงสองเท่า คนไข้หลายคนถึงกับยอมทนปวดรอคิวที่หวาเซี่ยแต่ไม่ยอมไปรักษาที่อื่น
โรงพยาบาลหวาเซี่ยเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นสูงที่ถูกจับตามองมาตลอด ปัจจุบันมีการจัดแคมเปญโฆษณาระดับโลก ซึ่งหวาเซี่ยก็สามารถคว้าโควต้าตัวแทนชั้นนำของประเทศได้อย่างสบายๆ
จนแทบจะเทียบเท่ากับโรงพยาบาลรัฐระดับประเทศอีกสองแห่งในเมืองหลวงได้
สื่อต่างประเทศรายงานข่าวของแอนน่า แม้จะยากที่จะตัดสินได้ว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวลวง แต่ก็สามารถทำให้ทุกคนจับเธอและหวาเซี่ยมารวมเข้าด้วยกันได้ ชื่อเสียงของหวาเซี่ยโด่งดังได้เพราะเธอ ค่าตัวของเธอก็สูงขึ้นปรี๊ดเพราะหวาเซี่ย
แอนน่ากลายเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และกลายเป็นคนดังแห่งโรงพยาบาลหวาเซี่ย คำพูดที่ว่าดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืนก็คงจะประมาณนี้
LisaและCurretรู้สึกได้ว่าแอนน่ากำลังหงุดหงิด แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกสนุกที่ต้องคอยวิ่งหนีบรรดาเหล่าแฟนคลับเธอ
เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลทุกคนที่ได้เจอแอนน่า ต่างก็เข้ามายกยอปอปั้นสรรเสริญไม่ต่ำกว่าหนึ่งบทกลอน ตอนนี้ไม่ว่าแอนน่าจะไปที่ใด หมอทุกคนต่างก็รีบเข้ามาทักทาย และทันทีที่เธอเดินออกมา ก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจของคนเหล่านั้นตามมาติดๆ
“สวยจังเลยอะ! หน้าตาสวยขนาดนี้! พวกดารายังอาย!”
“หุ่นก็ดีนะ! แค่ใส่ชุดกาวน์ยังสวยได้ขนาดนี้! อิจฉาชะมัด!”
“แถมหมอแอนน่ายังขับเบนท์ลี่ย์มาทำงานด้วยพวกเธอรู้หรือเปล่าล่ะ? คนสวยขับรถหรูๆแพงๆ เท่จนอยากจะร้องไห้!”
พยาบาลสามสี่คนจับกลุ่มซุบซิบ “ถึงหมอแอนน่าจะเพิ่งมาโรงพยาบาลเราได้แค่สิบวัน แต่ออร่าเด่นกว่าผอ.เกามาตั้งแต่วันแรกแล้ว ตอนนี้หมอแอนน่าต่างหากที่ใครๆในนี้ต่างก็ยอมรับว่าเป็นดาวเด่นแห่งหวาเซี่ย”
“ก็แหงอยู่แล้ว! แค่หน้าตาก็สวยแซงหมอเกาไปเยอะ อายุน้อยกว่าแถมเก่งกว่า ที่สำคัญหมอแอนน่าเธออาศัยความสามารถตัวเองจริงๆ แต่ถ้าพูดกันตรงๆแล้วผอ.เกาถือว่าใช้เส้นสายเบาๆ”
หมอหลายคนเดินซุบซิบกันตามโถงทางเดิน เกาหยิ่งจือที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์บังเอิญได้ยินประโยคตอนท้ายเข้า ก็โกรธจนไฟลุก รองเท้าส้นสูงกระแทกกับพื้นเกิดเป็นเสียงตึกตึกไปหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ “ไม่มีงานการทำกันหรือไง!”
พอเห็นว่าเป็นเกาหยิ่งจือ หมอแต่ละคนก็รีบแยกย้ายจนวินาทีต่อมาไม่เหลือแม้แต่เงา
เหลือไว้เพียงนางพยาบาลประจำเคาน์เตอร์ เธอก้มหน้าลงแกล้งทำเป็นอ่านแฟ้มคนไข้
เมื่อกลับมาถึงห้องทำงาน บนโต๊ะเต็มไปด้วยหนังสือพิมพ์และนิตยสารประจำสัปดาห์ของโรงพยาบาล
“แม่งเอ้ย!”
เกาหยิ่งจือปัดหนังสือพิมพ์ลงพื้น รองเท้าส้นแหลมเหยียบลงบนรูปภาพของแอนน่าอย่างแรง!
พวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กล้าขึ้นมาเหยียบหัวเธองั้นหรอ?
ห้องทำงานของแอนน่า
Lisaหนักใจ “แอนน่า ทำแบบนี้มันคุ้มแล้วหรอ? เธอพยายามปิดบังตัวตนมาตลอด แต่ตอนนี้ทั้งประเทศมีแต่รูปกับข่าวของเธอ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเธอจะกลายเป็นคนสาธารณะ แล้วจะมีเรื่องปวดหัวมากมายตามมานะ”
แอนน่าดูรูปตัวเอง ที่มีตัวหนังสือสีดำเขียนพาดหัว ก็รู้สึกโมโห “ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย พวกเธออยู่ที่นี่แหละ”
พูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ยังไม่ทันที่ขาจะก้าวพ้น เงาสีดำของคนตัวสูงก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเตรียมจะเดินเข้ามา บดบังภาพเบื้องหน้าของเธอมิด
จากนั้นก็ตามมาด้วยกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบ
แอนน่าขมวดคิ้วแล้วเงยหน้าขึ้น ภาพตรงหน้าเป็นหลงจื๋อ รอยยิ้มของเขามีแววเหน็ดเหนื่อยแต่ยังคงความหล่อเหลาสดใส ริมฝีปากของเขาฉีกกว้าง ไม่ต้องบอกว่ารอยยิ้มนั้นกวนประสาทขนาดไหน
“แอนน่าเธอเดาได้ใช่ไหมว่าฉันจะมา ถึงได้ออกมาต้อนรับฉันล่วงหน้าแบบนี้? ใจตรงกันชัดๆ! ฉันรู้อยู่แล้วว่าระหว่างเราสองคนมันคือพรหมลิขิต ฟ้าลิขิตให้เราเป็นเนื้อคู่กัน!”
ตอนแรกแอนน่ารู้สึกรำคาญเพราะข่าว แต่การปรากฏตัวขึ้นของหลงจื๋อ ยิ่งทำให้เธออึดอัดจนหายใจไม่ออก น้ำเสียงของเธอทุ้มต่ำ แววตาเย็นยะเยียบมองไปที่เด็กหนุ่ม “คุณชายรองหลง มาที่นี่ทำไม?”
หลงจื๋อชูช่อดอกไม้ในมือ แล้วตั้งใจวางไว้ใต้จมูกของเธอ “เพราะรู้ว่าคุณแอนน่าได้สร้างประวัติศาสตร์การแพทย์ขึ้น แถมยังสร้างมูลค่าให้หวาเซี่ยอย่างมากมายมหาศาล ผมตั้งใจมาแสดงความยินดีกับคุณ แล้วอีกอย่างโรงพยาบาลหวาเซี่ยเป็นหนึ่งในกิจการของครอบครัวผมแอนน่าทำให้หวาเซี่ยเป็นที่จับตามาขนาดนี้ ไม่ว่าจะพูดยังไงผมก็ต้องมาขอบคุณคุณสิ”
“Lisaรับดอกไม้ แล้วส่งแขก”
“ได้แอนน่า”
Lisaเตรียมจะยื่นมือไปรับช่อดอกไม้ แต่หลงจื๋อชูแขนขึ้น Lisaวืดจนเกือบจะชนเข้ากับร่างเข้า
“อุ๊ย คนสวยผมบลอนด์ตาฟ้านี่ช่างรักซะจริง! ยังไงเนี่ยแอนน่า? เดี๋ยวนี้เขาฮิตซื้อหนึ่งแถมหนึ่งหรอ? ไม่เอาอ่ะ เป้าหมายของฉันชัดอยู่แล้ว ฉันจีบแค่เธอ ไม่ต้องส่งของแถม” หลงจื๋อส่งยิ้มกวนโอ๊ย มือใหญ่ดันLisaให้ออกไปอีกทาง
“คุณ แอนน่ายุ่งมาก ไม่มีเวลารับแขก เชิญกลับไปเถอะ” CurretรีบดึงLisaไว้ เขาเดินขึ้นไปตรงกลางระหว่างเธอกับหลงจื๋อ แล้วปกป้องLisa
“ที่แท้ก็แฟนกันนี่เอง ยินดีด้วย ขอให้มีลูกไวๆล่ะ” หลงจื๋อกระพริบตาใส่ แม้จะพูดจากวนประสาทแต่แฝงไปด้วยความน่ารักแบบเด็กน้อย
แม้แต่เวลาที่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาก็ให้ความรู้สึกที่เหมือนกำลังเถียงกับเด็กอยู่ก็ไม่ปาน
LisaกับCurretฟังภาษาจีนที่หลงจื๋อพูดสักครู่ไม่รู้เรื่อง แต่มือทั้งสองคนพวกเขาที่เกี่ยวคล้องกันอยู่ถูกหลงจื๋อดันออกไปเรียบร้อย
“แอนน่าเย็นนี้ว่างไหม? ฉันอยากเลี้ยงข้าว” หลงจื๋อเอ่ยปากชวนแบบตรงไม่อ้อมค้อม โมเมเอาว่าตัวเองมีสถานะเป็นอะไรสักอย่างของเธอไปแล้ว
แอนน่าเหล่มองดอกกุหลาบ พลันก็คิดไปถึงดอกกุหลาบที่วางเต็มบ้าน ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกหลอนดอกกุหลาบนิดหน่อย “ไม่ว่าง เชิญคุณชายรองหลงกลับไปเถอะ ส่วนดอกไม้ก็ขอให้คุณเอากลับไปด้วย”
แอนน่าหยิบกุญแจเตรียมจะออกไปเสียตอนนี้ เพราะยังมีเรื่องต้องจัดการ ไม่อาจจะเสียเวลากับหลงจื๋อได้อีก
หลงจื๋อเอาแขนพาดขวางประตูไม่ให้แอนน่าเดินได้ เขาโน้มตัวลงมามองหญิงสาวที่มีสีหน้าเคร่งเครียด “จะปฏิเสธก็ไม่ควรพูดตรงขนาดนี้หรือเปล่า? อย่าน้อยก็ในฐานะคนที่จริงใจกับเธอขนาดนี้”
แอนน่ามองบน ก่อนจะเงยหน้ามองหลงจื๋อ ใบหน้าของเขาทั้งเด็กน้อย แต่หล่อมากเช่นเดียวกัน ทั้งคิ้ว ตา จมูก ปากล้วนสมส่วนไปหมด ไม่พูดไม่ได้เลยว่าเขากับหลงเซียวหล่อเกินกว่าคนปกติทั่วไป
“คุณชายรองหลง ฉันจะไปหาพ่อของคุณ ในเมื่อคุณว่างขนาดนี้ ไปด้วยกันเลยเป็นไง?”
ได้ยินว่า สถานะในบ้านหลงถิงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เรียกว่าเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายของทุกคนในบ้านก็ว่าได้
สีหน้าของหลงจื๋อเปลี่ยนไปตามคาด “เธอจะไปหาพ่อฉันทำไม?”
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ต้องยุ่ง”
เธอปัดแขนของหลงจื๋อออกแอนน่าลอดร่างบางเดินออกไป แผ่นหลังของเธอสง่างามเป็นระเบียบเรียบร้อย เสียงของรองเท้าส้นสูงดังขึ้นตามจังหวะกระทบกับพื้น
“เดี๋ยวนะ! ไปเฉยๆเลยเนี่ยนะ! อย่าเพิ่งไปสิ!”
หลงจื๋อตะโกนเรียก แต่ร่างบางเดินไปไกลแล้ว เขายัดช่อดอกไม้ลงมือCurret “ขอให้ครองรักกันนานๆ!”
ทั้งสองสบตากัน “…”
หลงจื๋อรีบก้าวขาฉับๆตามเธอไป แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว ประตูลิฟต์ปิดลงต่อหน้าต่อตา
นี่มันบ้าชัดๆ! ผู้หญิงคนนี้ไปหาพ่อเขาทำไม?
“เสี่ยวจื๋อ? ทำไมมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้? ไม่สบายตรงไหนหรอ?” เกาหยิ่งจือเพิ่งประชุมเสร็จพอดี ขณะกำลังเดินกลับก็เจอเข้ากับหลงจื๋อ
หลงจื๋อไม่ได้รู้สึกชอบหน้าเกาหยิ่งจือนัก เขาตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ “หัวใจไม่สบาย ไม่งั้นฉันมาแผนกหัวใจไหมล่ะ?”
“หัวใจ? หัวใจผิดปกติตรงไหน? มากับฉัน เดี๋ยวฉันตรวจให้”
ชายหนุ่มยัดมือทั้งสองข้างลงกระเป๋ากางเกง เงยหน้ามองหน้าจอลิฟต์ก็เห็นโฆษณาโปรโมทดาวเด่นของหวาเซี่ย ในนั้นฉายรูปถ่ายของแอนน่า
หลงจื๋อทำปากขมุบขมิบ “พี่หยิ่งจือ ได้ยินว่าตอนนี้ถ้ามาหาหมอแผนกหัวใจ ก็ต้องมาหาเธอคนนี้ ฉันมาหาเธอล่ะ”
เกาหยิ่งจือเห็นรูปถ่ายของแอนน่า ก็หลุดขำ “เสี่ยวจื๋อ อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกของคนบางคนหลอกเอาสิ ยิ่งเป็นผู้หญิงสวยด้วยแล้ว ยิ่งหลอกคนอื่นเก่ง”
หลงจื๋อร้องเสียงอ๋อคำนึง ก่อนจะมองไปยังเกาหยิ่งจือ “หรอ? ฉันว่าพี่ก็สวยอยู่นะ”
ที่ด้านหลังของเกาหยิ่งจือมีผู้ช่วยตามมาอีกหลายคน จึงไม่เหมาะจะต่อล้อต่อเถียงกับหลงจื๋อ เธอส่งยิ้ม “เสี่ยวจื๋อ แอนน่าเป็นหมอที่ถูกเชิญมาเป็นพิเศษ เธอไม่ต้องคล้องป้ายชื่อ ไม่รับตรวจคนไข้ เธอมีส่วนร่วมแค่ทำโปรเจค”
หลงจื๋อยักไหล่ “งั้นก็ยิ่งดีเลยสิ เพราะฉันก็เป็นคนไข้ที่ถูกเชิญมาเป็นพิเศษ”
พูดจบ ลิฟต์ก็ขึ้นมาพอดี หลงจื๋อก้าวขายาวเข้าไปข้างใน โดยที่สายตาไม่แม้แต่จะมองเกาหยิ่งจืออีก
——
รถเบนท์ลี่ย์สีดำจอดอยู่ด้านหน้าบริษัทMBK แอนน่าเดินฉับๆเข้าประตูกระจก
ในใจของเธอร้อนรุ่ม ก้าวแต่ละก้าวของเธอทั้งเร็วทั้งรีบ หลังจากเดินเข้าประตูมาก็เห็นลิฟต์กำลังเปิดรออยู่พอดี ขาเรียวก้าวเข้าไปด้านในในเสี้ยววินาทีที่ประตูกำลังจะถูกปิด
หลังเข้ามาข้างใน แอนน่าจึงรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องนัก
เธอเงยหน้าขึ้นช้าๆ ทันใดนั้นจึงเห็นสัญลักษณ์สีทองเขียนคำว่าVIPแปะอยู่บนประตูลิฟต์
แม่เจ้า! อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?
“รีบขนาดนี้ ดูท่าทางเธอคงคิดถึงฉันมาก”
เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายลอยขึ้นเหนือหัวจากด้านหลังดังไปทั่วทั้งลิฟต์