คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 199 เป็นไปได้ไหมว่าเธอก็คือลั่วลั่ว
ตอนที่ 199 เป็นไปได้ไหมว่าเธอก็คือลั่วลั่ว
แอนน่ารู้สึกวูบวาบที่ด้านหลัง ในสมองมีลางสังหรณ์บางอย่างผุดขึ้น ให้ตายเถอะ เมื่อกี้เธอรีบเกินไปจนไม่ทันมองว่าคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์เป็นหลงเซียว
ริมฝีปากเล็กค่อยๆเม้มเข้าหากัน หลังจากได้ยินเสียงของหลงเซียว ความโมโหก็พุ่งพรวดขึ้นมาในทันใด อีตานี่หลงตัวเองเข้าขั้นจริงๆเลย หนังหน้าก็หนากว่าที่คิดอีก “คุณหลง ฉันไม่รู้ว่าคนที่อยู่ด้านในคือคุณ ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่ขึ้น”
หลงเซียวยังรักษาท่าทีเมื่อสักครู่ยืนอยู่ด้านหลัง มือข้างนึงยัดใส่กระเป๋ากางเกง ร่างสูงใหญ่แม้จะยืนอยู่ข้างหลัง แต่รังสีอำนาจกลับเด่นชัดยิ่งกว่าตอนประจันหน้ากันซะอีก “นี่เป็นลิฟต์VIP ความหมายก็ตามชื่อ คนที่จะใช้โดยสารได้ต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งในระดับนึง คุณแอนน่า ผมควรจะเข้าใจว่าคุณสายตาไม่ดี? หรือแค่กำลังหาข้ออ้างให้ตัวเองอยู่ดีล่ะ?”
เขาพูดกับเธอโดยใช้โทนน้ำเสียงโทนเดียวกันตั้งแต่ต้นจนจบ กับคำเทศนายาวเป็นพรวนอย่างผู้ดีมีการศึกษา แต่ต่อให้จะฟังผ่านๆก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังเสียดสีจิกกัดเธออยู่
แอนน่ายิ้ม สายตามองไปยังตัวเลขที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามการเคลื่อนที่ของลิฟต์ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดที่ชั้นนึง รีบออกจากตรงนี้คงจะดีกว่า “ในเมื่อต้องเป็นคนมีระดับอย่างคุณถึงจะมีสิทธิ์ใช้ลิฟต์ตัวนี้ งั้นฉันขอออกไปก่อนแล้วกันค่ะ”
พูดจาเสียดสีกันสนุกมากไหม? คงไม่คิดว่าเธอจะสนใจเขาจริงๆหรอกนะ?
หลงเซียวมองตัวเลขหนึ่งที่เธอเพิ่งกดมีไฟสว่างขึ้น ชายหนุ่มขมวดคิ้ว จู่ๆก็เดินขึ้นมาตรงหน้าแอนน่าแล้วเข้าประชิดตัวอีกฝ่าย ก่อนจะโน้มหน้าลงมาสบตากับเธอ ภายในลิฟต์ตัวแคบๆ ลมหายใจของเขารดรวยรินลงบนตัวหญิงสาวราวกับกำลังจะกลืนกินเธอเข้า
“นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออก เธอเห็นถิ่นฉันเป็นอะไร? ฮืม?” เขาลากเสียงยาว นัยน์ตาลึกล้ำดั่งมหาสมุทรจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตที่แสนดื้อรั้นของหญิงสาว
แอนน่าสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคนตรงหน้า สัญชาตญาณสั่งให้เธอเบี่ยงตัวหลบออกมาด้านข้างเล็กน้อย “คุณหลง ทำไม? จะแกล้งฉันหรอ?”
ริมฝีปากของหลงเซียวขยับเล็กน้อย คล้ายยิ้ม คล้ายไม่ยิ้ม “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”
แอนน่ากัดริมฝีปาก จู่ๆก็คิดถึงข้อเสนอที่เขาเคยพูด ในใจก็พลอยหวั่นๆ เขาคงไม่คิดจะเอาจริงหรอกใช่ไหม?
ตอนนี้เอง ลิฟต์ก็หยุด หยุดอยู่ที่ชั้นที่เธอเพิ่งกดไปเมื่อครู่!
แอนน่าสบตาเขาด้วยรอยยิ้มถือดี “คุณหลง ฉันถึงแล้ว หลีกทางหน่อยค่ะ”
หลงเซียวยังคงยืนคร่อมร่างเธอไม่ขยับ ประตูทางด้านหลังค่อยๆเปิดออก แต่เขาไม่ได้สนใจแต่อย่างใด ริมฝีปากเผยยิ้มร้าย ดวงตาสีดำสนิทยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไร “จะรีบทำไม? หรือว่าเธอกลัวอะไร?”
แอนน่าถูกร่างสูงไล่ต้อนจนหลังเธอแนบชิดกับมุมผนังลิฟต์ แสงจากนอกประตูลิฟต์ส่องเข้ามาที่แผ่นหลังกว้าง สะท้อนเป็นเงามืดที่บริเวณด้านหน้าของชายหนุ่ม ทำให้โครงหน้าของเขายิ่งเด่นชัดเป็นมิติมากขึ้น ยิ่งอยู่ในแสงสลัว ความหล่อกับรังสีดุดันของเขาก็ยิ่งปิดไม่มิด
“มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัว ในเมื่อคุณหลงใจกว้างขนาดนี้ งั้นก็ขึ้นไปด้วยกันเลยก็ได้ รบกวนกดปิดลิฟต์ให้ที ขอบคุณมาก”
เธอยกยิ้ม จู่ๆก็เปลี่ยนเป้าหมายของตัวเองในเสี้ยววินาที ก็แค่แข่งกันว่าจะใครหน้าด้านกว่าไม่ใช่หรอไง? เธอเองก็ทำได้เหมือนกัน
ยังไงซะช่วงนี้ประสบการณ์ที่เขาได้เรียนรู้มาจากลู่ซวงซวงกับหลงจื๋อ ก็พอจะเอามาใช้งานได้อยู่
หลงเซียวยื่นแขนไปดันผนังลิฟต์ ก่อนจะโน้มตัวลงมองแอนน่า ริมฝีปากยกยิ้มบางๆ “ไหนบอกมาซิ ว่าเธอมาทำอะไรที่นี่?”
จู่ๆแอนน่าก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เวลานี้แผงอกของหลงเซียวอยู่ระดับสายตาเธอพอดี ทุกลมหายใจเข้าออกในตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นฮอร์โมนที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของชายหนุ่ม ดวงตาของเธอแข็งทื่อ พยายามปรับบรรยากาศไม่ให้อึมครึม “มาหาพ่อคุณ ไม่เกี่ยวกับคุณ”
หลงเซียวก้มต่ำลงมาอีก จมูกของเขาสูดกลิ่นแชมพูหอมๆที่ออกมาจากเส้นผม กับกลิ่นครีมอาบน้ำที่มาจากกายของหญิงสาว นอกจากนี้…กลิ่นแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นยารักษาขนานดีที่เขาคุ้นเคย!
ในเสี้ยววินาที ทุกอย่างก็ผิดเพี้ยนไปหมด เหมือนชายหนุ่มกำลังตกลงสู่ห้วงแห่งความอ่อนโยน ทั้งเสียง ทั้งกลิ่นแอลกอฮอล์ เหมือนผู้หญิงคนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน!
เหมือนจะเป็นเธอคนนั้น! เป็นเธอคนนั้นจริงๆ!
ดวงตาของชายหนุ่มเริ่มปรากฏเส้นเลือด ร่างสูงค่อยๆหดตัวลง มือที่ดันกำแพงค่อยๆกำแน่น ลมหายใจติดๆขัดๆ จิตใจกระสับกระส่าย อารมณ์หลากหลายถาโถมเข้ามาดึงสติของเขาออกไป
แอนน่า? ลั่วลั่ว?
ราวกับเงาของผู้หญิงทั้งสองคนซ้อนกันไปมา เส้นประสาททุกส่วนเริ่มบีบตัวแน่น
ปวด ปวดหัว!
แอนน่าเห็นสีหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนไปก็ทำอะไรไม่ถูก หัวใจของเธอเต้นตึกตัก เขาปวดหัวใจอีกแล้วใช่ไหม?
“คุณหลง เป็นยังไงบ้าง? ปวดหัวใจใช่ไหมคะ? หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายสมอง ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น” สองมือเล็กจับแขนของเขาแน่น พยายามดึงความสนใจให้เขาไม่คิด
มือใหญ่เลื่อนลงมาจับหัวไหล่ของแอนน่า ทันใดนั้น ร่างสูงใช้แรงทั้งหมดดึงเธอเข้ามากอดเธอ แขนแข็งแรงโอบกอดร่างเธอทั้งร่างไว้ในอ้อมกอดแน่น เสียงทุ้มต่ำเหมือนคนละเมอ เขาหลับตาสนิทข่มความเจ็บปวดที่หัวใจ “ลั่วลั่ว…เธอคือลั่วลั่วใช่ไหม?”
แอนน่าอยากผลักเขาออก แล้วตบไอตัวนี่จนกว่าเขาจะตั้งสติได้ แต่ น้ำเสียงที่ปกติแสนจะเย็นชาอวดดี เวลานี้กลายเป็นอ่อนแอหมดทางสู้ เหมือนเด็กน้อยที่กำลังตามหาพ่อแม่ที่พลัดพราก เธอเห็นแบบนั้นก็ทนไม่ไหว “คุณหลง…”
“เรียกชื่อฉัน” เขาตัดบทแอนน่า ร่างสูงยังคงกอดแอนน่าไว้แน่นอย่างเอาแต่ใจ เขาสูดกลิ่นบนตัวของเธอจนเต็มปอด ไม่นับกลิ่นกลิ่นดอกพุดซ้อน เธอคนนี้เหมือนกับคนรักที่หายไปของเขาแทบทุกอย่าง
แม้แต่ส่วนสูง ก็เหมือนกับลั่วลั่วแบบเป๊ะๆ
เขาโอบกอดเธออย่างคนโลภที่กำลังบ้าคลั่ง อดจะเอาเธอมาเป็นตัวแทนลั่วลั่วที่เขารักไม่ได้
แอนน่ากัดฟันกรอด “คุณหลง ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณ อย่าทำแบบนี้”
เสียงของเธออ่อนยวบ บางทีคงเป็นเพราะเสียงอ่อนโยนของเขาที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก หลงเซียวในตอนนี้น่าหลงใหลเหลือเกิน แอนน่ากลืนน้ำลาย หัวใจของเธอในตอนนี้ก็เต้นแรงไม่แพงกัน
ชายหนุ่มล็อคคางลงบนหัวไหล่เล็ก “เรียกฉันหลงเซียว”
เอาแต่ใจจริงๆ
แอนน่ากัดฟัน เอาเถอะ ตอนนี้เขาคือคนป่วย เธอควบคุมอารมณ์ที่ไม่ปกติของตัวเอง จากนั้นเอาตัวแนบชิดกับอ้อมอกของชายหนุ่ม ก่อนจะเรียกเขาเสียงอู้อี้ “หลงเซียว…”
ร่างสูงนิ่งไปในทันใด ตัวเขาในตอนนี้แนบชิดกับเธอจนไม่เหลือช่องว่าง แขนแข็งแรงกอดเธอแน่นขึ้นจนแทบอยากจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน ทั้งคู่โอบกอดกันอย่างกระหายรัก “เรียกอีก”
เสียงของเขาเย็นชาแต่ซื่อสัตย์เผด็จการแต่ลึกซึ้ง ทำให้เธอปฏิเสธไม่ลง
แอนน่ากัดริมฝีปาก ทำตามที่เขาต้องการ “หลงเซียว หลงเซียว หลงเซียว…”
เธอเรียกชื่อของเขาแผ่วเบา อีกครั้งและอีกครั้ง ราวกับกำลังเรียกชื่อคนรักอยู่ ยิ่งเรียกก็ยิ่งคล่องปาก ความรู้สึกก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ความเจ็บปวดที่หัวใจในที่สุดก็คลายลง คิ้วเข้มที่ขมวดแน่นค่อยๆคลายปมออก แขนแข็งแรงรัดตัวเธอไม่ปล่อย ชายหนุ่มยังคงหลับตาอยู่ “บางที เธอนั่นแหละที่เป็นยารักษาฉัน”
แอนน่าช้อนสายตาขึ้น ศีรษะชนเข้ากับคาง เธอสบตาชายหนุ่มอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณล้อเล่นอะไร? ฉันกับภรรยาคุณก็แค่เสียงเหมือนกัน อย่าสับสนสิ แล้วก็เมื่อกี้ที่ฉันทำตามที่คุณต้องการ ก็เพราะคุณนั่นแหละ คุณเป็นคนไข้ฉัน แล้วฉันก็ไม่อยากให้คุณมาตายในลิฟต์ ฉันไม่รู้จะอธิบายกับคนอื่นยังไง”
หลงเซียวปล่อยเธอออก มือใหญ่จับคางเธอไว้ เขาอยากจะฉีกใบหน้าเธอออกจริงๆ อยากรู้นักว่าข้างในจะเป็นใบหน้าของใครอีกคนหรือเปล่า!
“ฉันบอกว่าเธอคือยารักษาฉัน ไม่ได้บอกว่าเป็นคนรักสักหน่อย คิดมากไปแล้ว”
คนรักของเขามีแค่คนเดียว และนั่นไม่ใช่เธอ
แอนน่าหัวเราะ “งั้นก็ช่างมันเถอะคุณหลง เพราะฉันไม่สนใจจะผูกมัดกับคุณอยู่แล้ว”
หลงเซียวลุกขึ้นยืนใหม่ ราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เธอคิดว่าตัวเองจะหนีฉันพ้นหรอ? ไร้เดียงสาจริง”
ว่าจบ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ชายหนุ่มก้าวขายาวออกจากลิฟต์ ทิ้งเอาไว้เพียงเงาแผ่นหลังสูงใหญ่
ลิฟต์ขึ้นมาอีกชั้น แอนน่าถึงได้ตั้งสติกลับมา
จู่ๆอ้อมกอดก็รู้สึกโหวงๆ ความรู้สึกผิดหวังถาโถมเข้ามาในจิตใจ หญิงสาวขมวดคิ้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ?
เมื่อกี้อัตราการเต้นของหัวใจเธอผิดปกติ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้?
ปรับอารมณ์เสร็จ แอนน่าจึงเดินเข้าห้องทำงานของหลงถิง
แอนน่าขอให้หลงถิงหยุดการรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับเธอโดยสื่อไว้แต่เพียงเท่านี้ และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาต้องยกระดับป้องกันความเป็นส่วนตัวของเธอ
ไม่เช่นนั้น เธอจะถอนตัวออกจากโปรเจค
หลงถิงนั่งอยู่ในห้องทำงานท่านประธานที่ตกแต่งสไตล์คลาสสิก ชายสูงอายุยิ้มอย่างคนใจดี “ได้ ฉันจะทำตามที่เธอต้องการ คุณแอนน่าที่ฉลาดหลักแหลม ฝีมือการแพทย์สุดวิเศษอย่างจับตัวได้ยาก ฉันชื่นชมเธอมาก”
แอนน่ายิ้มอ่อน กล่าวขอบคุณเสร็จ จึงเดินจากไป
หลงถิงตอบรับเธอด้วยความรวดเร็ว การเจรจาของเธอครั้งนี้ใช้เวลาเพียงห้านาทีเท่านั้น
ทุกคนที่ทำงานในออฟฟิศท่านประธานเมื่อได้เห็นแอนน่าต่างก็พากันซุบซิบ ทุกคนชื่นชมความสวยของเธอไปต่างๆนาๆ แอนน่าได้ยินจนรู้สึกรำคาญหูไปแล้ว
“คุณแอนน่าบังเอิญจัง”
ขณะที่กำลังรอลิฟต์ ร่างบางสวยสง่าก็เดินออกมาจากลิฟต์พอดี เรือนร่างสุดเซ็กซี่สวมชุดเดรสที่ช่วยขับรูปร่าง กลิ่นน้ำหอมชาแนลฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ เธอคือโม่หรูเฟย
แอนน่าพยักหน้าทักทาย “คุณโม่”
โม่หรูเฟยยิ้มกว้าง “มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
“ทำธุระค่ะ แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว” เธอตอบกลับง่ายๆ
อายไลน์เนอร์สีดำกรีดตวัดหางขึ้นเพิ่มความโฉบเฉี่ยว เครื่องสำอางแต่งแต้มลงบนใบหน้าทั้ง360องศาอย่างประณีตไร้ที่ติ เธอส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้ “ดูท่าทางจะมาหาคุณลุงนะคะ เหอะ ฉันก็มาหาเขาเหมือนกัน จริงสิ ฉันกับพี่เซียวใกล้จะจัดงานแต่งกันแล้วนะคะ หวังว่าจะได้รับคำอวยพรจากคุณ”
อ้อ?
จะแต่งงานแล้ว?
“งั้นก็ดีค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ” แอนน่ากล่าวอวยพรโดยไม่แยแส สำหรับเธอแล้วนี่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
“ขอบคุณค่ะ คุณแอนน่าก็จะต้องมีความสุขเช่นกัน”
แอนน่าส่งยิ้มไม่ยินดียินร้ายให้ ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินเข้าลิฟต์ เธอสูดหายใจลึก แต่งงาน? คงใช่ เธอกับเควินเองก็กำลังจะแต่งงานไม่ใช่หรือไง?
เธอนวดขมับ จิตใจรู้สึกกระสับกระส่าย
ลงไปได้ชั้นนึงลิฟต์ก็ถูกเปิดออก มีคนเข้ามาใหม่ แอนน่าถอยหลังไปครึ่งก้าว เป็นผู้หญิงสามคนกำลังพูดคุยกันเดินเข้ามา
“เมื่อกี้เห็นโม่หรูเฟย แทบไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้เธอสวยกว่าในทีวีอีก อย่างว่าละนะ กำลังจะแต่งให้ซีอีโอแล้วนี่ ออร่าเจิดจ้าขึ้นไม่น้อยเชียว”
“เขาสองคนจะแต่งงานกันจริงๆอ่ะ? แต่ในใจซีอีโอมีแค่ภรรยาที่เสียชีวิตไปนี่นา? แถมยังป่วยเพราะภรรยาจนตอนนี้ก็ยังรักษาไม่หายอีก เฮ้อ”
“อย่างที่คนเขาพูดกันนั่นแหละ ถ้ายังตัดคนเก่าไม่ขาด คนใหม่ก็คงไม่เข้ามาแทนที่ แต่คนตายไปแล้วจะเอาอะไรมาสู้กับคนเป็นที่ยืนอยู่ตรงหน้าล่ะ?”
เสียงวิจารณ์ของคนทั้งสามยังคงดำเนินต่อไป แอนน่ายิ้มอ่อน ก็คงใช่ หลงเซียวรักภรรยาเก่ามากมายนาดนี้ ก็คงไม่สามารถจะจมอยู่กับอดีตไปได้ตลอดชีวิต
หญิงสาวส่ายหัว ดึงความรู้สึกมาอยู่ที่จุดศูนย์กลาง เธอเริ่มสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆของหลงเซียวตั้งแต่เมื่อไหร่?
เวลานี้ ณ ห้องทำงานหลงเซียว
จี้ตงหมิงโค้งคำนับ “บอส สืบมาได้แล้วครับ คุณแอนน่าเคยรักษาตัวที่โรงพยาบาลในอเมริกาช่วงระยะเวลานึง ซึ่งตรงกับช่วงที่คุณนายหายตัวไป แต่ทางโรงพยาบาลล้างประวัติคนไข้จนเกลี้ยง จึงแน่ใจได้เพียงแค่คุณแอนน่าเคยได้รับการรักษาเป็นระยะเวลานานอยู่พอสมควร ส่วนรายละเอียด คาดว่ามีใครบางคนพยายามปกปิด ทำให้สืบไม่พบครับ”
ยิ่งประวัติถูกล้างออกไป ก็ยิ่งแน่ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หลงเซียวเงียบไปหลายนาที นิ้วเรียวขยับเม้าท์ ก่อนจะนิ่งไป “ยิ่งนับวันฉันยิ่งรู้สึกว่า เธอมีบางอย่างที่ฉันรู้สึกคุ้นเคย เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความรู้สึกนี้ ฉันมักจะแยกไม่ออกว่าตกลงเธอคือลั่วลั่ว หรือว่าแอนน่า”
จี้ตงหมิงบอกใบ้อย่างระมัดระวัง “เป็นไปได้ไหมครับว่าเธอก็คือคุณนาย? เพียงแต่รูปโฉมเปลี่ยนไป?”