คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 17 ไสหัวไปภายในหนึ่งนาที
ตอนที่ 17 ไสหัวไปภายในหนึ่งนาที
เสี่ยวจื๋อ?
มือของจับมือถือไว้ของหลงเซียวจึงค่อยๆจับแน่นมากขึ้น สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกกำลังมองทิวทัศน์ที่อยู่ข้างนอกหน้าต่าง จากนั้นก็ยืดตัวตรงแล้วทำเหมือนหลังของตัวเองเป็นสันเขา
ห้าปีที่ไม่ได้เจอกัน ในความทรงจำของเขา น้องชายคนนี้ยังคงเป็นคนที่ชอบหลบอยู่ข้างหลังตนเองแล้วคอยขอความช่วยเหลือ ดูๆแล้วตอนนี้เขาโตแล้วจริงๆ อีกอย่างยังชอบมายุ่งเรื่องของคนอื่นอีกด้วย
"จับตาดูเขาไว้" หลงเซียวจึงได้ออกคำสั่งอย่างเย็นชาขึ้น ให้จี้ตงหมิงตามรถของหลงจื๋อไปก่อน เขาอยากดูเหมือนกันว่าหลงจื๋อยังคิดอยากจะทำอะไรกันแน่?
นิ้วมืออันเรียวยาวของเขาเคาะบนโตะ หรือว่า เขาควรจะมองหลงจื๋อในด้านที่เปลี่ยนไป และเปลี่ยนความทรงจำที่คิดว่าน้องชายคนนี้จะเป็นยังไงๆ
ตอนนี้ รถของหลงจื๋อก็กำลังมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล ฉู่ลั่วหานดูออกว่าระหว่างทางจะได้เจออะไรบ้าง จึงได้ขมวดคิ้วขึ้นอย่างรุนแรง
"นายจะพาฉันไปไหน?" เสียงของฉู่ลั่วหานแหบพร่าเล็กน้อย เข่าสองข้างที่ยังเจ็บอยู่ ตอนนี้มันยังจะกดเส้นประสาทของเธออยู่ เธอรู้สึกเจ็บไปถึงกระดูกสันหลัง และรู้สึกเจ็บจนต้องขมวดคิ้วทรงสวยของเธอขึ้นแน่นๆ
หลงจื๋อจึงเบะปาก "พี่สะใภ้ใหญ่ สมองของพี่โดนกระทบกระเทือนตอนล้มหรือเปล่า? ระหว่างทางไปทำงาน พี่ยังจำไม่ได้อีกหรอ?"
ฉู่ลั่วหานจึงได้โน้มตัวไปข้างหน้า "จอดรถ! ฉันไม่ไปโรงพยาบาล"
"พี่ได้รับบาดเจ็บต้องไปโรงพยาบาลไปทำแผล พี่สะใภ้ใหญ่คงไม่อยากจะกลายเป็นพิการตั้งแต่ตัวเองยังสาวอยู่ใช่หรือไม่?"
หลงจื๋อพูดไปด้วยแล้วเร่งให้รถขับเร็วขึ้น เขารู้นิสัยของพี่สะใภ้ใหญ่ท่านนี้ดี แค่ช่วงเวลาสั้นสองวัน เขาก็ได้เจอมาแล้ว เธอหัวดื้อ เอาแต่ใจ ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร อยากจะให้เธอให้ความร่วมมือดีๆ งั้นก็คงจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
"หลงจื๋อ! ฉันสั่งให้นายหยุดรถ!" ฉู่ลั่วหานเห็นหลงจื๋อไม่เพียงแต่ไม่หยุด แต่กลับขับเร็วขึ้น เธอจึงยื่นมือไปตีเบาะที่เขาพิง "หลงจื๋อ!นายหยุดรถเดี๋ยวนี้! ได้ยินไหม!"
หลงจื๋อตั้งใจตะโกนเสียงดังและแสดงละครตบตา "พี่สะใภ้ใหญ่พูดอะไรนะ? ไอย่ะ หูของผมเป็นอะไรไป? ไม่ได้ยินที่พี่พูดเลย"
ฉู่ลั่วหานจึงกัดฟันไว้แน่นๆ และไม่ยอมไปโรงพยาบาล ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะหลงจื๋อ
ตอนที่รถจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ฉู่ลั่วหานจึงไม่ยอมลงจากรถ จากนั้นก็ใช้สายตาที่เย็นชา และมองหลงจื๋อด้วยความโมโห "หลงจื๋อ ทางที่ดีที่สุด ตอนนี้นายกลับไปทางเดิมเดี๋ยวนี้!"
หลงจื๋อจึงพยักไหล่ขึ้น จากนั้นก็โน้มตัวแล้วกำลังเตรียมตัวอุ้มฉู่ลั่วหานขึ้น เธอจึงรีบขยับไปนั่งอีกเบาะหนึ่ง และกำลังจะหลบเลี่ยงแขนของเขา
"พี่สะใภ้ใหญ่ ผมน่ะไม่เข้าใจจริงๆ พี่ก็เป็นหมอที่ถือว่าโด่งดัง ได้รับแผลเจ็บ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือทำแผล เหตุผลง่ายๆแค่นี้พี่ไม่เข้าใจหรือไง? ฉันกำลังสงสัยว่าใบอนุญาตที่จะได้มีอาชีพเป็นหมอ พี่ซื้อมาหรือเปล่า"
"ฉันเป็นหมอ ฉันรู้ว่าบาดแบบไหนต้องจัดการแบบไหน และแบบนี้ที่ไม่ต้องจัดการอะไรใดๆ ฉันไม่เป็นไร คุณชายสองตระกูลหลงวางใจเถอะ ขับรถ ส่งฉันกลับบ้าน!"
หลงจื๋อจึงยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ คิ้วดกดำทั้งสองข้างก็ค่อยๆกระตุกขึ้น จากนั้นก็รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก "เห้อๆ พี่สะใภ้ใหญ่ พี่จะให้ผมส่งพี่กลับบ้านโดยตรง? นี่ก็ตรงเกินไปและ…….ไม่รู้สึกละอายใจหรือไง?"
แย่แล้ว! ฉู่ลั่วหานกัดฟันตัวเองไว้แน่นๆกับท่าทางที่รู้สึกจุกของหลงจื๋อ พอเห็นแบบนี้ เหมือนจะไม่ไปก็ไม่ได้แล้ว
ไม่รอให้ฉู่ลั่วหานตอบสนองใดๆ หลงจื๋อก็ได้จึงได้เปิดแขนออก แล้วอ้อมฉู่ลั่วหานเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง!
ฉู่ลั่วหานแค่รู้สึกว่าเธอกำลังถูกฟ้าผ่าให้สมองของเธอช็อต!
"หลงจื๋อ! ฉันเป็นพี่สะใภ้นายนะ! ปล่อยฉัน! ปล่อย!"
หลงจื๋อจึงมองไปข้างหน้า ระหว่างแขนทั้งสองจึงมีผู้หญิงที่กำลังโวยวายที่ดิ้นไปดิ้นมา น้ำหนักเบาจนทำให้เขารู้สึกแปลกใจ ดูๆแล้วฉู่ลั่วหานน้ำหนักแค่ไม่กี่กิโลเท่านั้น พออุ้มแล้วเหมือนคนที่ไม่เคยกินข้าวอิ่ม
หลงจื๋อจึงก้าวขึ้นบันได จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "คุณหมอฉู่ หมอไม่แบ่งว่าเป็นชายหรือหญิง ยิ่งไปกว่านั้นฐานะที่มี เราจะแบ่งแยกไปทำไม?"
แต่ว่า มุมปากของหลงจื๋อค่อยๆกระตุกขึ้น ผู้หญิงที่โวยวายเหมือนสิงโตน้อย เขาจะต้องพัวพันกับเธออีกแน่นอน
หลงจื๋อเป็นหน้าตาหล่อเหลาที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ธรรมดาอุ้มฉู่ลั่วหานเข้าประตูมา ทำให้ดึงดูดคนไปสนใจไม่น้อย ตอนนี้สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังหลงจื๋อ เป็นผู้ชายหน้าตาสวยงามและน่าทำให้ผู้อื่นลุ่มหลงมากๆ
ทันใดนั้น พยายามและหมอทุกคนก็ได้จับจ้องไปยังผู้หญิงในอ้อมกอดของเขา!
"โอ้พระเจ้า! ผู้หญิงที่หนุ่มหล่อคนนี้อุ้มเข้ามาเป็นฉู่ลั่วหานที่อยู่ในแผนกอายุรกรรม?"
"คือเธอจริงๆ! คุณหมอฉู่ลั่วหาน! ไม่ใช่มั้ง? หรือว่านี่เป็นแฟนหนุ่มของฉู่ลั่วหาน?"
"ไม่มีทางเป็นไปได้หรือเปล่า? หนุ่มหล่อคนนี้เป็นน้องชายเธอก็ค่อยว่าไปอย่าง? ฉันได้ยินมาว่าฉู่ลั่วหานเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก ปกติก็เป็นคนที่เคร่งขรึม และคนอื่นก็มักจะไม่กล้าเข้าใกล้เธอ ถือว่าเป็นแม่ชีมิกจ้อในแผนกอายุรกรรม!"
ได้ยินคำว่าแม่ชีมิกจ้อ สี่คำนี้ หลงจื๋อจึงได้ก้มหน้าลงแล้วมองใบหน้าที่เขียวคล้ำของฉู่ลั่วหาน และไม่ได้มองนางพยาบาลที่แอบซุบซิบนินทากัน มุมปากของเขาจึงกระตุกยิ้มที่เบิกบานขึ้น "พี่สะใภ้ใหญ่ ชื่อเสียงของพี่ไม่เลวหนิ และยังมีฉายาที่ไม่เลวด้วย แม่ชีมิกจ้อ? เหอะๆ บ้าอำนาจจริงๆเลยนะ"
ฉู่ลั่วหานจึงทำใช้สายตาอันอาฆาตมองเขา "หลงจื๋อ ไม่งั้นนายก็ไสหัวไป ไม่งั้นก็หุบปาก!"
"ได้ๆๆ แม่ชีมิกจ้อพูดเองแบบนี้ ผมจะกล้าไม่ฟังได้ยังไง"
หลงจื๋อจึงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
ในห้องตรวจ
หมอเห็นว่าหัวเข่าและหน้าแข้งของฉู่ลั่วหานได้รับบาดเจ็บ ในมือที่จับสำลีแท่งไว้ที่เอาไว้ฆ่าเชื้อก็ได้หยุดชะงักลงไปชั่วขณะ "คุณหมอฉู่ แผลตรงเข่าซ้ายบาดเจ็บมาสองวันแล้วใช่ไหม?"
ฉู่ลั่วหานจึงพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไร
ฉู่ลั่วหานมีขาสองข้างที่มีความขาวผุดผ่อง หนึ่งข้างเขียวคล้ำ หนึ่งข้างม่วงช้ำ จากหัวเข่าขึ้นมาจนถึงน่อง แทบจะมองไม่เห็นผิวที่ดีเลย แผลเก่ายังไม่ทันได้หายดี ก็มีแผลใหม่เพิ่มขึ้นอีก ขาอันเรียวเล็กของเธอเหมือนสามารถจับแค่ครั้งเดียวก็เลอะได้ แทบจะดูไม่แข็งแรงเลยสักนิด
สายตาของหลงจื๋อจึงหรี่ลง ไอ้พวกสารเลวที่มันไปโวยวายที่โรงพยาบาลครั้งนี้ เขาต้องกำจัดให้มันสิ้นซากไปเลย!
หมอที่ทำแผลก็ได้เงยหน้าขึ้นแล้วมองหลงจื๋อที่กำลังทำสีหน้าที่เป็นห่วงและรู้สึกเจ็บปวดแทนเธอ จึงได้พูดขึ้นอย่างหยอกล้อ "คุณเกิดเป็นแฟนหนุ่มของคนอื่นได้ยังไง? แฟนสาวของคุณบาดเจ็บมาสองสามวันแล้วกลับพึ่งส่งมาโรงพยาบาลในวันนี้"
"คุณเข้าใจผิดแล้ว! เข้าไม่ใช่……."
"หมอสั่งสอนได้ถูกต้องครับ ครั้งหน้าผมจะต้องส่งเป็นมาโรงพยาบาลเป็นลำดับแรก ลำบากหมอแล้วครับ"
"ยังจะมีครั้งหน้าอีก? ไอ้หนุ่ม นายพูดแบบนี้ เตรียมตัวที่จะโดนหักอกใช่ไหม?"
ฉู่ลั่วหานจึงกัดฟันไว้แน่นๆ "เขาไม่ใช่แฟนของฉัน!"
บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความน่าสงสัยขึ้นมาทันที
หลงจื๋อจึงกระตุกคิ้วขึ้น แล้วไม่ได้มองสายตาที่กำลังโมโหของฉู่ลั่วหาน ในใจกลับรู้สึกดีใจเบาๆ
หลังจากที่ทำแผลเสร็จ ฉู่ลั่วหานก็ไม่ยอมให้หลงจื๋อเข้าใกล้ตัวเองอีก!
ทีแรกเธอก็แค่รู้สึกอายุของหลงจื๋อยังน้อย เลยชอบขี้เล่นไปหน่อย แต่ว่าตอนนี้มาดูๆแล้ว ในใจของเขากลับไม่ได้คิดแบบนี้ "พี่สะใภ้ใหญ่ เข่าของพี่ยังมีแผล เดินเร็วขนาดนี้มันไม่ดีกับแผลนะครับ"
ฉู่ลั่วหานจึงรู้สึกโมโหมากจริงๆ จึงได้ยื่นนิ้วชี้ของตัวเองไปหยุดฝีเท้าของหลงจื๋อ "นายหยุด! ไกลจากฉันหน่อย!"
หลงจื๋อถูกเธอตะคอกใส่ จนต้องหยุดฝีเท้าลง จากนั้นก็ได้ใช้สายตาที่ยิ้มแย้มในการวัดระยะห่างของพวกเขาสองคน แล้วพูดขึ้นด้วยความอึดอัดใจ "พี่สะใภ้ใหญ่ นี่ก็ห่างจากสองสามเมตรแล้ว ยังไม่ไกลอีกหรอ?"
ฟันบนและล่างของฉู่ลั่วหานจึงได้เสียดสีกันแรงๆ "นาย เงาของนายอยู่บนเท้าของฉันแล้ว!"
หลงจื๋อ "……" จากนั้นก็ได้ก้มหัวลงมอง ดั่งที่คาด พระอาทิตย์ได้สอดส่องและทำให้เงาของเขายืดยาวขึ้น จึงได้ไปกระทบลงบนเท้าของเธอ จากนั้นก็มีจังหวะการเดินและขยับตัวของตัวเองตามไปด้วย
หลงจื๋อจึงหัวเราะออกเสียง "พี่สะใภ้ใหญ่ พี่จะคิดว่า…….มันจริงแบบนี้สิ?"
ที่แท้ก็อยากจะบอกว่าน่ารัก แต่พอดูจากสีหน้าของฉู่ลั่วหานแล้ว หลงจื๋อรู้สึกเขาพูดสองคำนั้นออกมาแล้ว เขาก็คงจะถูกฆ่าให้ตาย
"ใช่! ฉันเป็นคนที่รักสะอาด!"
เธอทิ้งท้ายด้วยคำๆนี้ ฉู่ลั่วหานจึงได้เดินลงบันไดไปอย่างโมโห ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจความเจ็บปวดเลยสักนิด
"พี่สะใภ้ใหญ่ พี่รอผมหน่อยสิ ผมขับรถส่งพี่กลับบ้านเอง!"
"ไม่ต้อง!"
หลงจื๋อจึงตามไปต่อ "พี่สะใภ้ใหญ่อย่าโกรธสิ พี่ดุขนาดนี้ ใจที่เหมือนกระจกของเค้าก็ใกล้จะแตกสลายแล้ว"
"แตกไปก็ดี"
หลงจื๋อไม่ย่อท้อ จู่ๆเขาก็สังเกตเห็นว่า ฉู่ลั่วหานที่ดูเหมือนจะเย็นชา จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นเหมือนที่ทุกคนรู้กันแล้วเป็นคนที่ไม่ควรจะที่เข้าหา แต่ในทางกลับกัน เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้น แต่น่ารักมากๆ
หลงจื๋อจึงยื่นมือไปจับแขนของฉู่ลั่วหานไว้ จากนั้นก็มีเสียงบางอย่างแทรกขึ้น_____
"คุณชายสอง"
หลงจื๋อและฉู่ลั่วหานก็ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน พอเห็นจี้ตงหมิงกำลังพลิกข้อมือแล้วยืนอยู่ตรงหน้ารถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่ง และก็ได้อมยิ้มเบาๆพลางมองสองคนนี้ ฉู่ลั่วหานจึงได้เดินขึ้นหน้าเหมือนถูกไฟช็อต เพื่อที่จะหลบเลี่ยงมือของหลงจื๋อ
หลงจื๋อจึงได้เกาๆผมของตัวเอง "ผู้ช่วยจี้ คุณมาที่นี่ได้ยังไง?"
จี้ตงหมิงจึงโค้งตัวลงเพื่อทำการทักทาย "ได้ยินมาว่าที่นี่มีคนมาโวยวายและสร้างเรื่องที่โรงพยาบาล และผู้เสียหายก็คือคุณผู้หญิงของเรา ดังนั้นผมเลยมาดู"
หลงจื๋อจึงได้เงยหน้าขึ้นแล้วแสยะยิ้มอย่างเย็นชา "คุณผู้ช่วยจี้ทำงานช้าเกินไปหรือเปล่า? คนเขาไปกันหมดแล้ว เรื่องนี้ทุกอย่างมันเคลียร์กันหมดแล้ว คุณนี่มันได้เรื่องจริงๆ"
ผู้ช่วยจี้จึงได้พูดขึ้นด้วยความเคารพ "ผมบกพร่องต่อหน้าที่เองครับ คุณผู้หญิงครับ ขึ้นรถเถอะครับ"
ฉู่ลั่วหานจึงพยักหน้า "ได้ รบกวนคุณผู้ช่วยจี้ไปส่งฉันหน่อย"
หลงจื๋อจึงเป่าลมออกจากจมูก "ผมก็จะกลับด้วย"
ฉู่ลั่วหานจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดิบดี "คุณกลับบ้านคุณ ฉันกลับบ้านฉัน มาสร้างเรื่องสร้างปัญหาทำไม?"
จี้ตงหมิงจึงขับเคลื่อนรถไปข้างหน้า ฉู่ลั่วหานที่นั่งอยู่เบาะหลัง อยากจะเอ่ยปากถามขึ้นหลายครั้งว่าหลงเซียวเป็นคนสั่งให้เขามาหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ไม่หน้าด้านพอที่จะเอ่ยพูดแบบนั้นขึ้น
"คุณผู้หญิงครับ ถึงแล้วครับ"
ตลอดทางเธอก็ได้เหม่อลอย นึกถึงเร็วขนาดนี้เลยหรอ?
ฉู่ลั่วหานจึงถูกจี้ตงหมิงพยุงลงจากรถ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองประตูใหญ่ของวิลล่า แล้วเธอก็ได้ตั้งใจกัดริมฝีปากไว้แน่นๆ
"คุณผู้หญิงครับ คุณพักผ่อนดีๆนะครับ มีอะไรก็โทรมาผมได้ตลอด"
"อืม"
ดังนั้น ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ก็แค่เป็นเรื่องที่เลขาของเขามาถามสารสุขดิบกับตัวเองเท่านั้นใช่ไหม?
ใช่ ยังไงมันก็เทียบเท่าโม่หรูเฟยไม่ได้หรอก ทุกอย่างเขาก็มักจะเป็นฝ่ายกระทำและออกแรงเอง คงอยากจะปกป้องเธอให้หลุดพ้นจากทุกอย่างด้วยตัวเองจนใจขาด
พอครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสามปีนี้ ฉู่ลั่วหานก็แค่รู้สึกเจ็บใจจนแทบจะหายใจไม่ออก
พอเข้าประตูไป เธอเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ ฉู่ลั่วหานจึงได้หันหลังแล้ว แล้วสะดุ้งตกใจ
โม่หรูเฟย?!
โม่หรูเฟยทำไมถึงมานั่งอยู่ในบ้านได้!
โม่หรูเฟยที่ใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนจึงนั่งอยู่บนโซฟาแล้วนั่งข้อยขา บนโต๊ะจึงมีแก้วไวน์สีแดงวางอยู่หนึ่งแก้ว ขอบของแก้วมันรอยลิปสติก
พอเห็นฉู่ลั่วหานเดินเข้ามา โม่หรูเฟยจึงกอดอก จากนั้นก็พิงอยู่บนโซฟา
"น่าภูมิใจมากสินะ! ฉู่ลั่วหาน!"
โม่หรูเฟยพูดขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา ลิปสีแดงตรงแก้วก็ถูกมองข้ามไป เพราะว่าคำดูถูกของเธอ เธอมองสีหน้าของฉู่ลั่วหาน เหมือนเธอเป็นคุณผู้หญิงตัวจริงที่จับสามีของตัวเองที่ไปแอบมีคนอื่นข้างนอก
ฉู่ลั่วหานจึงพึมพำเสียงเบา จากนั้นก็โยนกระเป๋าถือลงบนโซฟา "เธอน่าภูมิใจกว่า ที่กล้าบุกรุกเข้ามาในบ้านของคนอื่นแบบนี้!"
โม่หรูเฟยจึงยิ้มขึ้น เธอจึงเขย่าแก้วไวน์แดง "ฉันอยากจะบอกเธอว่าเธอยังไม่รู้เรื่องอะไรอีกหรอ? นี่เป็นบ้านของใครกันแน่ ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน!"
เธอจึงเล่นกุญแจในมือของตัวเอง และตั้งใจให้ฉู่ลั่วหานดู
และกุญแจดอกนั้นที่ดูคุ้นเคย กลับเป็นของหลงเซียว!
"โอ้ย ถ้าที่นี่ไม่มีคุณผู้หญิงที่เหมาะสมก็ยังจะไม่ดี เธอดูสิ บ้านที่ดีขนาดนี้ จะกลายเป็นอะไร? ฉู่ลั่วหาน เธอแต่งงานกับพี่เซียว ก็คงจะเป็นจุดบกพร่องที่สุดในชีวิตของเขา!"
ข้อต่อกระดูกตรงข้อมือของฉู่ลั่วหานขาวซีด เธอยันชั้นวางโบราณไว้เพื่อที่จะลดความหนักหน่วงตรงน่องขาของเธอ เธอรู้สึกเจ็บปวดใจจนเหมือนแรงทั้งหมดของเธอหมดไป แค่อยากจะทรุดลงบนพื้นแรงๆ…….
หลงเซียวไม่รักเธอ เกลียดเธอ ต่อต้านเธอ แต่ว่าอย่างน้อย บ้านหลังนี้เป็นพื้นที่สำหรับแค่พวกเขาสองคน สามปีมานี้ ไม่เคยมีบุคคลที่สามเข้ามาเลยสักคน
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกดีที่มีต่อหลงเซียวที่หลงเหลือเล็กน้อย ก็ถูกลบล้างไปแล้วใช่ไหม?
หลงเซียว คุณเกลียดฉันมากขนาดนี้เลยหรือไง?
ในใจของฉู่ลั่วหานเหมือนถูกมีดบาดจนรู้สึกเจ็บปวดมาก จากนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้น จากนั้นเธอก็ใช้ท่าทีที่เธอเป็นคุณผู้หญิงที่บ้านนี้ แล้วมองโม่หรูเฟย จากนั้นเธอจึงยิ้มอ่อนๆขึ้น "เสียดายจริงๆ เธอไม่มีแม้แต่การที่ได้เป็นจุดบกพร่องในชีวิตเขาเลยสักนิด เธอคงทำได้เพียงพึ่งความหน้าด้านของตัวเองแล้วยืนอยู่ตรงนี้
อีกอย่าง โม่หรูเฟย สิ่งสกปรกที่เธอเคยทำมา ถ้าไม่อยากจะให้ฉันแฉทุกอย่างออกมา ฉันให้เวลาเธอหนึ่งนาที ไสหัวออกจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!"