ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 32 พูดความจริงไม่ได้ตั้งใจ
สายตาอาธิปก็สื่อความตะลึงใจเช่นกัน และมองมาที่ฉัน แล้วก็แนะนำผู้ชายคนนั้นคร่าว ๆ ให้ฉันได้รู้จัก
ผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าของสวนยาสมุนไพรนี้ ชื่อว่า หลิวอีเหิง เป็นลูกชายตระกูลแพทย์ เนื่องจากว่าเขาสนใจเรื่องทำอาหารและยาสมุนไพรมาก จึงมาปลูกเลี้ยงยาสมุนไพรพวกนี้
ส่วนผู้หญิงที่สง่างามนี้ก็คือภรรยาของเขา เด็กอายุขวบกว่า ๆ นั้นก็คือลูกชายของเขา
ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ฉันรู้สึกกังวลใจ เรื่องที่ฉันท้อง ฉันพยายามมาเท่าไร ถึงหลอกอาธิปได้ ดีไม่ดีหลิวอีเหิงอาจจะเผลอพูดความจริงออกมาก็ได้ ถึงตอนนัน ฉันจะทำยังไงดี
ฉันกังวลมาก เลยหันหน้าไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือให้คุณกวิน หวังว่าเขาจะช่วยฉันได้
ในขณะเดียวกัน คุณนายหลิวก็ยกน้ำซุปหมึกพุทราเข้ามา ยิ้มเป็นมารยาทและบอกฉันว่า “คุณดารัณคะ ลองชิมดูนะคะ ตอนที่ฉันอุ้มท้องลูกชายฉัน ฉันชอบทานน้ำซุปเมนูนี้มาก รสชาติมันอาจจะแปลก ๆ นิดนึง แต่สามีฉันเติมยาสมุนไพรพวกนี้เข้าไป มันมีประโยชน์มากเลยนะคะ ลูกของคุณดารัณอายุครรภ์เท่าไรแล้วคะ”
ฉันตื่นเต้นจนเหงื่อจะแตก ยิ้มให้เขาแล้วบอกว่า “ทีแรกได้หกสัปดาห์แล้วค่ะ แต่พอดีฉันกับอาธิปยังไม่พร้อมเลี้ยงลูก เลยทำแท้งไปแล้วค่ะ”
พอได้ยินที่ฉันพูด เขาก็ตกใจ และมองหน้าฉัน พูดแบบไม่ค่อยมั่นใจว่า “แต่คุณดารัณดูไม่เหมือน…..”
“คุณนายหลิวครับ ลักษณะของคุณดารัณแบบนี้คืออาการท้องหลอกหลังทำแท้ง อีกสักพักก็ดีขึ้นแล้วครับ แต่ต้องยอมคุณหลิวและคุณนายหลิวจริง ๆ นะครับ เก่งวิชาแพทย์แผนจีนมาก แค่ดูจากรูปร่างหน้าตาก็วินิจฉัยวาเหตุได้” คุณกวินนั่งดื่มชาอยู่ ในที่สุด เขาก็ได้พูดช่วยฉันไว้สักที
ในขณะนั้น หลิวอีเหิงก็หลิ่วตาลง และยิ้ม ๆ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่คุณนายหลิวนั้นก็ยังไม่เชื่อ เหมือนเขารู้สึกว่าอาการของฉันไม่น่าจะใช่ท้องหลอก เขาก็ยิ้ม ๆ แล้วคุยเรื่องอื่นกับฉันต่อ
กว่าจะทานข้าวกันเสร็จ คือไม่ง่ายเลยจริง ๆ คุณหลิวคุยกระซิบกับภรรยาเขา และภรรยาเขาก็มองมาที่ฉัน ดูเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง เห็นเธอพยักหน้า แล้วก็เดินออกไป
คุณหลิวหันหน้าไปที่อาธิป แล้วบอกอาธิปว่า “คุณอาธิปนาน ๆ มาที ผมได้จัดยาสำหรับบำรุงร่างกายให้คุณดารัณ เดี๋ยวรับไปทานรักษาสุขภาพไว้ รอท้องลูกคนที่สองก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกครับ”
อาธิปพยักหน้า และมองมาที่ฉัน สีหน้าไม่สื่ออารมณ์อะไรเลย ทันใดนั้น ฉันเดาไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
เพราะว่าฉันเดาใจเขาไม่ถูก ฉันอยู่เงียบ ๆ จนตอนกลับบ้านกัน ไม่กล้าพูดอะไร
ตอนขึ้นรถกลับบ้านกันก็มืดแล้ว เฉียวจิ่นเหยนยังไงก็ไม่ถูกใจกับฉัน เขาเร่งให้อาธีปรีบส่งฉันกลับบ้าน เขาเห็นหน้าฉันแล้วก็หงุดหงิด
ฉันไม่ได้ถือสากับเขา ฉันรู้ว่าเขายังมีธุระต่อ ก็เลยลงจากรถ แล้วว่าจะไปเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านเอง
อาธิปก็ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกให้ฉันกลับบ้านดี ๆ แล้วพวกเขาก็ขับรถออกไปเลย
ฉันมีเรื่องคาใจ กลับบ้านไปก็นอนไม่หลับ ว่าจะโทรปรึกษากับคุณกวิน แต่ตอนนี้เขาก็อยู่กับอาธิป โทรหาเขาก็ไม่ได้ ฉันเลยไปหาน้ำทิพย์ที่ไทม์บาร์เลย
ฟ้ามืดแล้ว ลูกค้าทยอยมากันแล้ว
น้ำทิพย์เห็นหน้าฉันอย่างกับเจอผี พูดดุเดือนกับฉันว่า “ไม่พักผ่อนที่บ้าน มาที่นี่ทำไม”
“มาคลายเครียด!!!” ฉันตอบไปสั้น ๆ แล้วก็หาที่นั่งนั่งลง
เธอก็จับหน้าผาก และอารมร์ร้อนขึ้น บ่นฉันว่า “คุณดารัณคะ คุณเพิ่มไปแท้งลูกมาได้กี่วันเองคะ กรุณาดูแลตัวเองให้ดี ๆ ได้ไหมคะ กลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว!!”
ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน ฉันมองหน้าเธอ แล้วบอกว่า “ขอน้ำส้มแก้วดิ มาเมาท์กัน”
“ฉันไม่ได้อยากคลายเครียด!!” พูดเสร็จ เธอก็เดินไปที่เค้าน์เตอร์
ฉันนั่งท้าวคางไว้ ดูคนเข้า ๆ ออก ๆ ในใจนั้นคิดแต่เรื่องวันนี้ วัตถุประสงค์ที่อาธิปพาฉันไปที่สวนยานั่นคืออะไร หรือว่าเขาเกิดความสงสัยแล้วว่าฉันไม่ได้ทำแท้งจริง ๆ