ขอสายลมพารักคืนใจเธอ - บทที่ 31 คุณท้องแล้ว
ฉันเดินเล่นไปตามถนนพื้นปูก้อนหิน เห็นผู้ชายคนนึง อายุประมาณสามสิบห้าปี กำลังตัดกิ่งไม้อยู่กับเด็กคนหนึ่ง
เห็นฉันเดินมา ผู้ชายคนนั้นก็หยุดทำงานแล้วทักทายกับฉันว่า “สวัสดีครับ”
ฉันก็ยิ้มแล้วตอบไปว่า “สวัสดีค่ะ”
เด็กคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาเพิ่งจะเดินได้ พอเห็นฉัน ก็ดิ้นหนีออกจากมือพ่อ แล้วเดินเตาะแตะมาหาฉัน เด็กคนนี้ไม่กลัวคนแปลกหน้าจริง ๆ
เพราะยังพูดไม่ได้ หนูน้อยนี่ก็ทำตาโต ๆ มองหน้าฉัน แล้วยื่นดอกไม้สีเหลือในมือมาให้ฉัน
น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน ฉันเลยอดไม่ได้จะยื่นมือไปอุ้มเขา แต่ผู้ชายคนนั้นห้ามฉันไว้ว่า “คุณท้องแล้ว อย่าอุ้มเขาเลย เด็กซน เดี๋ยวเกิดอันตราย”
ฉันอึ้ง และมองไปที่ผู้ชายอย่างตกใจ จึงถามเขาว่า “คุณ…..” ดูออกได้ยังไงว่าฉันท้อง
แต่ฉันไม่ได้พูดคำถามออกมา
แล้วเขาก็พูดต่อว่า “คุณไม่ตกต้องตกใจครับ ผมมีวิชาหมอนิดหน่อย ดูจากสีหน้าของคุณ แล้วก็เมื่อกี้สังเกตุเห็นคุณคอยระวังท้องอยู่โดยไม่รู้ตัวตอนที่เดินเล่นมาทางนี้ ผมเลยคิดเอาเองว่าคุณน่าจะอุ้มท้องอยู่น่ะครับ”
ฉันพยักหน้า และรู้สึกต้องยอมคนเก่ง ๆ พวกนี้จริง ๆ
“วิวในสวนนี้สวยพิเศษจริง ๆ นะคะ” ฉันพูดขึ้นมา “เหมือนเป็นสวนผักเลย”
ผู้ชายคนนั้นก็หัวเราะ และบอกฉันว่า “จริง ๆแล้ว ที่นี่เป็นสวนยาสมุนไพร ในนี้มียาสมุนไพรประมาณ 2000 กว่าชนิด บางชนิดก็ใกล้สูญพันธุ์แล้ว ก็เอามาปลูกเลี้ยงไว้ที่นี่หมด”
ฉันตะลึงใจ และตั้งใจสังเกตดู จริงอย่างที่เขาพูด ไม่ค่อยมีผักอะไรเลย แต่มีพืชแปลก ๆ อยู่เยอะแยะ และก็เห็นมีต้นกระบองเพชรต้นสูงๆ อยู่ต้นหนึ่ง
“ตอนแรก ที่นี่มีชื่อว่าสวนยาสมุนไพร อากาศชองเมืองเจียงเฉิงดีตลอด เหมาะสำหรับปลูกพืชสมุนไพร ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวมพืชสมุนไพร จำนวนมีไม่เยอะ แต่สายพันธุ์ก็ยังปลูกเลี้ยงไว้อยู่” ผู้ชายคนนั้นเก็บกิ่งไม้ให้เรียบร้อย พูดกับฉันจบแล้วก็เตรียมตัวพาเด็กออกไปจากที่นี่
เดินไปไม่กี่ก้าว ผู้ชายคนนั้นก็หันหลัวมาบอกฉันอีกว่า “คุณดารัณคะ อย่าอยู่ในสวนนี้นานเกินนะครับ ยาบางชนิดจะไม่ดีต่อคนท้องครับ”
ฉันอึ้งอีกรอบ พอหันหน้าไปก็เห็นเขาพาลูกเดินออกไปแล้ว เขารู้จักฉันเหรอ
ไม่นาน อาธิปก็เดินออกมาหาฉัน ชณะนั้น ฉันกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ริมลำธารเล่นกับมด อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมาว่า “ไปเถอะ”
ฉันกำลังดูมดอย่างเคลิ้ม ๆ อยู่ จู่ ๆ เขาออกเสียงมากะทันหันแบบนี้ ฉันตกใจจนเกือบตกลงลำธาร ดีที่เขาตาไวมือเร็ว ดึงตัวอยู่ได้ทัน ฉันเลยไม่ได้ตกลงไปในลำธาร
เขาขมวดคิ้วตาหล่อ ๆ พูดว่า “ไม่มีสมองหรือไง”
ฉันตั้งสติได้แล้ว ก็ยิ้มให้เขา แล้วบอกว่า “ดูเพลินไปหน่อย”
เขาไม่พูดอะไร แล้วก็หันตัวเดินไป
ฉันรู้สึกว่าสองวันนี้ ความรู้สึกที่อาธิปมีต่อฉันผิดไปจากปกติ รู้สึกว่าไม่ได้เย็นชาเหมือนเมื่อก่อน
ฉันตาหลังเขาไป และฉันก็รวบรวมความกล้าในตัวขึ้นมา แล้วถามเขาว่า “สวนยานี้ไม่ใช่ร้านอาหารเหรอคะ”
“อืม” เขาพูดแค่คำเดียว เหมือนไม่อยากให้ฉันพูดมาก
เขาเดินเร็วมาก เดินไปไม่นานเราก็มาถึงห้องทานข้าวกันแล้ว กับข้าวก็ออกมาครบแล้ว จากทีแรกมีแค่เราสามคน เพิ่มมาอักหนึ่งครอบครัวสามคน
ผู้ชายกับเด็กก็คือสองคนที่ฉันเจอในสวนเมื่อสักครู่นี้ ส่วนผู้หญิงก็คือภรรยาของผู้ชาย
พอเห็นฉัน ผู้ชายก็ยิ้ม และบอกกับภรรยาเขาว่า “ไปเอาซุปหมึกพุทราในห้องครัวมาให้คุณดารัณลองชิมดูครับ เมนูนี้มีประโยชน์ต่อคนท้องดี”
ฉันตกใจ และก็ยิ้มบอกชอบคุณเขา เฉียวจิ่นเหยนไม่พอใจ และบ่นว่า “ลูกเสียไปแล้ว จะเป็นซุปดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
อาธิปมองหน้าฉัน ฉันรู้สึกใจไม่ดี กลัวว่าอาธิปจะฟังอะไรออกจากคำพูดของผู้ชายคนนั้น ฉันเลยรีบมองหน้าอาธิป และบอกว่า “อาธิปยังไม่ได้แนะนำคุณผู้ชายนี้ให้ฉันได้รู้จักเลยนะคะ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก แลดูเหมือนฉันก็เป็นภรรยาที่ดีเหมือนที่ชาวบ้านเขาเป็นกัน