การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม - ตอนที่ 415
บทที่ 415 – ต้นกำเนิดของเธอคนนั้น
“ไม่สิๆ .. แล้วสิ่งมีชีวิตเทียมล่ะ! สิ่งมีชีวิตเทียมอยู่ไหน!”
เลทิเซียตะโกนออกมาด้วยความสับสน แต่เวโรเน่ไม่ได้รู้เรื่องราวแผนการช่วยเหลือคนสำคัญของเลทิเซียด้วย
ถามไปเธอก็คงตอบไม่ได้อยู่ดี.. ต้องถามคนที่รู้.. ใช่ เมอร์สัน เลทิเซียต้องตามหาเมอร์สันให้เจอก่อน
แน่นอนว่าหากเลทิเซียต้องการเธอเพียงตรวจสัมผัสรับรู้ พริบตาเดียวก็ขยายกว้างไปไกลจนครอบคลุมทั่วทั้งทวีปในทันที
การสัมผัสครั้งนี้ของเลทิเซียแทบจะรู้ทันทีว่าเมอร์สันอยู่ที่ไหน เลทิเซียไม่รีรออีกต่อไปเธอหายวับไปแทบจะทันที
หมายความว่าไงกันแน่ หรือว่าเมอร์สันถูกฆ่าทำให้แผนไม่สำเร็จอย่างงั้นเหรอ นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่!
ร่างของเลทิเซียปรากฏขึ้นอีกครั้งอยู่ที่ไหนไม่รู้ เธอไม่สนใจด้วยซ้ำ.. ทันทีที่เธอปรากฏตัวขึ้นแรงกดดันของเธอก็ระเบิดออกราวกับต้องการจะเรียกหาเมอร์สัน
เลทิเซียยืนอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่เป็นเหมือนโถงพระราชา เธอไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น ในตอนนี้เธอกำลังรู้สึกสับสนและงุนงง
อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความโกรธ.. ความโกรธที่มีต่อโลกใบนี้ ความพยายามตลอดห้าหกปีของเธอในอดีต..
แต่สิ่งที่ตอบรับเธอกลับไม่ใช่โลกใบใหม่ที่เธอต้องการให้เป็น แต่กลับยังเป็นโลกที่เหมือนเดิมทุกสิ่งอย่าง…
เลทิเซียกำหมัดแน่น เธอนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับรออยู่ตรงนั้น เลทิเซียสัมผัสถึงเมอร์สันได้ในตอนนี้
เขายังไม่ตาย แต่เขาอยู่ในปราสาทแห่งนี้ที่ไหนสักแห่ง แต่ในตอนนั้นประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออกคนที่วิ่งเข้ามาพอเห็นเลทิเซียนั่งอยู่บนเก้าอี้
“เจ้า… เป็นใครกัน?!”
ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นหน้าเลทิเซียแต่ก็เห็นว่ามีเงาดำๆ นั่งอยู่บนบัลลังก์ เลทิเซียที่เห็นชายคนนั้นเธอก็ขมวดคิ้ว
คนที่เดินเข้ามาห้องโถงไม่ใช่เมอร์สัน.. แต่ก็เป็นคนที่เลทิเซียเคยเจอมาก่อนแน่นอน.. เลทิเซียเงียบไปพักหนึ่ง
บางทีเจ้าหมอนี่อาจจะเป็นลูกน้องของเมอร์สันด้วยหรือเปล่า? น่าจะเป็นแบบนั้นการที่เมอร์สันมีปราสาทใหญ่ขนาดนี้อยู่น่าจะพิสูจน์ได้แล้วว่า
ตลอดห้าร้อยปีที่ผ่านมาเขาพัฒนาขนาดไหน แต่ถึงแบบนั้นเลทิเซียก็ไม่สนใจของพวกนี้แม้แต่น้อย
แถมเธอยังไม่มีอารมณ์จะมาต่อปากต่อคำกับคนอื่น สิ่งที่เธอต้องการเจอตอนนี้คือเมอร์สัน
“เมอร์สันอยู่ไหน?”
เลทิเซียจึงพูดเพียงคำสั้นๆ ชายคนนั้นที่ได้ยินคำพูดของเลทิเซียก็ประหลาดใจ..
“เจ้ารู้จักท่านพ่อได้ยังไง?”
“พ่อ.. พ่อเหรอ.. หรือนายเป็นสิ่งมีชีวิตเทียมงั้นเหรอ?!”
เลทิเซียตกใจ เธอกวักมือหนึ่งครั้งร่างของชายคนนั้นราวกับถูกดึงเข้ามาอย่างไร้ทางต้าน เขาไม่สามารถหลบหลีกหรือต้านทานได้เลย!
ชายคนนั้นคือคนที่เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนเวทมนตร์มาพร้อมกับเลทิเซีย ถึงจะจำชื่อไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่ก็เป็นคนที่เคยช่วยเธอจากการโดนผีหลอก
“เจ้าทำอะไร!”
ชายคนนั้นตกใจพยายามจะปลดปล่อยพลังออกมาพร้อมกับดิ้นรน แต่ทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ ร่างของเขาลอยมาอยู่ในมือของเลทิเซียอย่างง่ายดาย
พลังของเลทิเซียครอบคลุมร่างกายอีกฝ่ายทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็ไม่เจออะไรที่เป็นสิ่งมีชีวิตเทียมเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่!”
เลทิเซียสบถออกมาพร้อมกับปาชายคนนั้นกลิ้งลงไปบนพื้น ความอดทนของเลทิเซียในที่สุดก็หมดไป
“เมอร์สัน หากนายไม่มาหาฉันภายในสามวินาที ฉันจะฆ่าลูกนายซะในตอนนี้”
เลทิเซียพูดแบบนั้น แต่ในตอนนั้นเองเมอร์สันก็พลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของเลทิเซียในลักษณะคุกเข่าเขาก้มหน้าลง
ไม่กล้ามองหน้าเลทิเซียแม้แต่น้อย ทุกอย่างมองดูเหมือนช้าแต่วินาทีที่เลทิเซียปรากฏตัวขึ้นพึ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ
สำหรับเมอร์สันในตอนนี้ไม่ได้มีรูปร่างที่ต่างไปจากเดิมเหมือนเมื่อห้าร้อยปีก่อนเลยแม้แต่น้อย… เขาในตอนนี้ .
ยอมสวามิภักดิ์ต่อเลทิเซียทั้งใจแล้ว ตั้งแต่ที่เลทิเซียหยุดสงครามเมื่อห้าร้อยปีก่อนด้วยพลังของเธอคนเดียวผนึกคนทั้งทวีปลง
ทำให้พลังของทุกสิ่งมีชีวิตในระดับชั้นต่างพากันโดนปิดกั้นพลังไปจนหมด เพียงแค่นั้นเมอร์สันก็มั่นใจว่า
เลทิเซียเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมาแล้ว.. ทำไมเขาจะไม่ยอมก้มหัวให้ล่ะ
แม้สำหรับเมอร์สันนั้นจะไม่ได้เจอเลทิเซียมามากกว่าห้าร้อยปี แต่สำหรับเลทิเซีย พวกเธอพึ่งเจอกันเมื่อไม่นานมานี้เท่านั้น
ดังนั้นพอเห็นอีกฝ่ายที่ก้มหัวให้โดยสิ้นเชิงแบบนี้ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่เลทิเซียไม่สนใจเรื่องนั้นเลย
“สิ่งมีชีวิตเทียมอยู่ไหน.. แล้วใครคือผู้หญิงที่นายเลือก”
“เรื่องนั้น….”
ในขณะที่เมอร์สันกำลังคิดว่าจะอธิบายยังไงดีนั้นเอง ด้านหน้าห้องโถงก็มีคนปรากฏขึ้นพร้อมกับพูด..
“มีอะไรกันเหรอ..?”
เสียงนี้ทำให้เมอร์สันหันกลับไปมองแทบจะทันที แต่เลทิเซียไม่ได้สนใจจะหันไปมองด้วยซ้ำ.. แถมเธอในตอนนี้ยังรู้สึกหงุดหงิดมาก
ยกมือขึ้นชี้ไปทางคนคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้น แต่ว่าเมอร์สันก็ลุกขึ้นมาขวางเอาไว้พร้อมกับพูดขึ้น
“ท่านเลทิเซีย เรื่องนี้ข้าอธิบายเองได้!”
“ฉัน.. บอกให้นายพูดตอนนี้!”
ความโกรธเลทิเซียเริ่มพุ่งสูงขึ้นเพียงคำพูดของเธอก็ทำให้เมอร์สันหน้าเปลี่ยนสีถอยหลังไปหลายก้าว..
แต่ถึงแบบนั้นก็ยังยืนบังเอาไว้ … แต่คนด้านหลังเองพอได้ยินเสียงของเมอร์สันที่เรียกเลทิเซียก็ตกใจไม่ต่างกัน
“เลทิเซียงั้นเหรอ.. เลทิเซียอย่างงั้นเหรอ!”
คนคนนั้นพูดขึ้นพลางเดินเข้ามาด้วยความตกใจ เรียกชื่อเลทิเซียราวกับรู้จักกันมาก่อน จนแม้แต่เลทิเซียเองก็ยังต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
คนคนนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง.. เธอเดินมาทางที่เลทิเซียอยู่ แม้จะมีความมืดบดบังอยู่ แต่สำหรับเลทิเซียแล้ว.. มันกลับไม่เสามารถขวางกั้นได้
พอเลทิเซียเห็นใบหน้าตรงหน้า.. เธอก็ผุดลุกขึ้นแทบจะทันที ใบหน้าแบบนี้เธอจำได้แม่น… เธอจำได้แม่นเลยคนคนนี้..
แม้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกใบนี้เลทิเซียจะเคยเห็นหน้าคนคนนี้เพียงครั้งเดียวในชีวิตแล้วไม่เคยพบใครอีกเลยก็ตามที
“เธอ….มัน..!”
เลทิเซียที่ลุกขึ้นก็ถอยหลังกลับไปหลายก้าว.. และเลทิเซียเองก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน.. พอเธอเห็นใบหน้าของคนคนนี้…
ความจริงจากที่เธอสัมผัสมาตอนเจอกับอาจารย์เวโรเน่ในปัจจุบัน.. ทุกสิ่งทุกอย่างหลอมผสานกันและประกอบเป็นรูปร่างของเรื่องราวบางอย่าง
เลทิเซียเดินถอยหลังไปหลายก้าว.. พร้อมกับก้มลงมองไปที่เมอร์สันก่อนจะพูด
“เมอร์สัน.. อย่าบอกนะว่า…”
เลทิเซียถอยหลังจนสะดุดขาตัวเองจนล้มลงไปนั่งกับพื้นสีหน้าของเลทิเซียในยามนี้ไม่รู้เลยว่ามันแย่ขนาดไหน
แต่ถึงแบบนั้นผู้หญิงคนนั้นที่เห็นใบหน้าเลทิเซียชัด ดวงตาของเธอก็ปริ่มไปด้วยน้ำตา.. เธอวิ่งเข้าไปหาเลทิเซียแทบจะทันที
แต่เมอร์สันกลับยกมือขวางเอาไว้พร้อมกับกดร่างของเธอคนนั้นลงพื้น..
“เอลร่า.. อย่าเสียมารยาท..กับนายท่านของข้า…”
“เจ้า..พูดบ้าอะไรของเจ้าเมอร์สันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ? นั่นมันเลทิเซียนะ เลทิเซียที่หายตัวไปนานตั้งแต่หลายปีก่อนนะ! นายท่านบ้าบออะไรของเจ้า! เจ้าเมาหรือไง? เลทิเซียน่ะเป็น.. ลูกของเราไม่ใช่หรือไงกัน!”
วินาทีที่คำพูดนั้นดังออกมาจากปากของอีกฝ่าย.. สติของเลทิเซียแทบจะดับลงทั้งที่เธอมีความสามารถการต้านทางจิตที่สูงส่ง
แต่ถึงแบบนั้น.. ถึงแบบนั้น ….
“อย่าบอกนะ…. เมอร์สัน… ฉัน… ฉัน… เป็นคน…”
“สร้างตัวเองขึ้นมา?!”