เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 55 ฉันไม่เหมือนกับเธอจริงๆ
บทที่ 55 ฉันไม่เหมือนกับเธอจริงๆ
ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ตกลง
จี้จิ่งเชินเลือกของในนิตยสารไปได้หลายอย่าง ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืน
“ใกล้มืดแล้ว ฉันกลับก่อนนะ เหมือนว่าพี่เนี่ยนเหยาจะไม่ค่อยชอบฉัน ไม่อยู่ที่นี่ดีกว่า”
เธอเหลือบตามองขึ้นไปข้างบน พร้อมยิ้มแล้วพูดว่า : “ฉันเองก็ไม่อยากทำให้คุณลำบาก”
พอจี้จิ่งเชินได้ยิน ก็ขมวดคิ้วซ้อนกัน
ตอนที่เขาออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็ได้สาบานว่าจะต้องพา “เทียนเทียน” กลับมา
บริษัทเอ็มไอกรุ้ปในมือของเขา แม้กระทั่งตำแหน่งนี้ก็สร้างขึ้นมาเพื่อเธอ
ในใจของเขา “เทียนเทียน” เป็นเหมือนน้องสาว เป็นเทพแห่งสวรรค์ที่ช่วยกอบกู้เขา และก็ยังเป็นคนสำคัญอีกด้วย
ตอนที่เขาร่อนเร่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เหมือนกับเป็นสถานที่อันมืดมน ก็มีแค่ “เทียนเทียน” ที่ใช้สองมือทำให้หมอกจางไปอย่างอ่อนโยน แล้วค่อยๆ ดึงเขาออกมา
ช่วงเวลาสั้นๆ เดือนหนึ่งที่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า กลายเป็นช่วงที่เขาต้องต่อสู้ดิ้นรนอยู่ตลอด
แต่ตอนนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเธอเจอ แต่ตัวเองก็ถูกบีบบังคับให้แต่งงานไปแล้ว
พอนึกถึงเรื่องแต่งงาน ในสมองของจี้จิ่งเชินก็ปรากฏภาพเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาขมวดคิ้ว เพื่อที่จะสลัดภาพนี้ออกไป
“ผมช่วยคุณจัดการเรื่องขั้นตอนสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยลืบซานเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเข้าไปเรียนได้ตลอด ผมจำได้ว่าตอนคุณเป็นเด็ก คุณพูดตลอดเลยว่าอยากไปเรียนใช่ไหม?”
เจียงหยู่เทียนยิ้มออกมา
เธอจะชอบเรียนได้ยังไง?
แต่ก่อนความสุขที่ได้ไปโรงเรียนก็คือการไปแกล้งเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าแสดงออกมา แม้แต่การยิ้มอย่างมีความสุขเลย
“มหาวิทยาลัยลืบซาน? ใช่มหาลัยของพี่เนี่ยนเหยาไหม?”
“อืม เธอเรียนคณะบริหารธุรกิจ ถ้าเธอไม่ชอบก็เปลี่ยนได้นะ”
“ไม่เป็นไร ฉันก็เรียนคณะบริหารธุรกิจนั้นแหละ อยู่ห้องเดียวกันดีแล้ว จะได้พัฒนาความสัมพันธ์”
เธอยื่นมือมาจับแขนของจี้จิ่งเชินด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“แต่ก่อนตอนฉันอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบรังแกฉัน ต่อมาพอฉันกับเธอได้คุยความในใจกันก็ดีขึ้น”
เจียงหยู่เทียนหรี่ตาลง แววตาดุร้ายก็แวบเข้ามา
จี้จิ่งเชินแอบเกิดความลังเลใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
“ไม่ใช่ว่าใครทุกคนจะมีจิตใจที่ดีเหมือนเธอ”
พอออกมาจากตระกูลจี้ เจียงหยู่เทียนก็ขึ้นรถไปด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
คนขับรถมองผ่านกระจกส่องหลังแล้วถามด้วยเสียงเบาๆ ว่า : “คุณเจี่ยง ต้องการจะกลับไหมครับ?”
เจียงหยู่เทียนมองกลับไปยังคนขับ
“บ้านหลังนั้นที่จิ่งเชินให้ฉัน ฉันไม่ค่อยชอบการตกแต่งข้างใน ว่าจะรื้อทำใหม่ ช่วงนี้ไปโรงแรมก่อนละกัน”
“ให้พวกเขาหาโรงแรมห้าดาวให้ฉัน จองห้องชุดพิเศษเดือนหนึ่งให้ฉันอยู่”
พูดจบเธอก็เปิดแผ่นกั้นในรถ มากั้นเธอกับคนขับรถ
ข้างหลังมีเธอนั่งแค่เพียงคนเดียว เจียงหยู่เทียนเปิดดูรายชื่อที่เพิ่งติดต่อกันทางโทรศัพท์ไปเมื่อหนึ่งถึงสองเดือนที่แล้ว แล้วโทรออก
“ฮาโหล คุณเจี่ยง? ไม่ได้เจอกันนานเลย”
“คุณยังไม่ลืมฉันใช่ไหม? เพิ่งจะผ่านมาไม่กี่เดือนเอง” โฉนดบ้านก่อนหน้านี้ยังอยู่กับคุณใช่ไหม?
“เพื่อที่จะขโมยโฉนดของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าออกมา คุณรู้ไหมว่าฉันทุ่มเทไปเท่าไหร่? กลัวพวกเขาจะจับได้ จึงจำใจต้องออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”
“เงินที่คุณให้ฉัน จะพอใช้ได้ยังไง? แต่ตอนนี้ ฉันมีเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง”
“คุณลองเดาดูสิ? ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านจี้จิ่งเชิน แล้วก็เจอลูกสาวคุณด้วย!”
“คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เดียวกันฉันเป้ะๆ คุณว่ามันแปลกไหมล่ะ?”
“เงิน? ตอนนี้ฉันมีเงิน ที่ใช้ยังไงก็ใช้ไม่หมดอยู่แล้ว”
“ฉันต้องการอะไร เมื่อถึงเวลานั้นเดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
พอตัดสายโทรศัพท์ เจียงหยู่เทียนก็เลื่อนดูรูปในอัลบั้มโทรศัพท์ไปมา
จากนั้นได้เปิดไฟล์หนึ่ง ที่เก็บอยู่ในที่ลับสายตาที่สุด
พอเปิดขึ้นมา ก็เป็นรูปของเวินเที๋ยนเที๋ยนทั้งหมดเลย!
ทุกรูปเป็นรูปที่เธอตกอยู่ในที่นั่งลำบาก หรือตอนกำลังถูกรังแก!
มีรูปที่ตกลงไปในบ่อโคลน มีทั้งถูกคนคนรังแกจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แล้วก็มีโดนทำโทษให้ยืนอยู่ตรงระเบียงทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิด
คนที่ถ่ายรูปพวกนี้ทั้งหมดก็คือ เจียงหยู่เทียน!
เธอเริ่มดูตั้งแต่ต้นไปรอบหนึ่ง ใบหน้านั้นได้เผยรอยยิ้มอันโหดร้ายออกมา แล้วค่อยๆ เลื่อนดูรูปของเวินเที๋ยนเที๋ยนต่อไปเรื่อยๆ
“ช่างเป็นคู่เวรคู่กรรมจริงๆ! ดูสิว่าครั้งนี้จะมีใครมาปกป้องคุณได้!”
วันที่สอง พอเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินลงมาข้างล่างแล้วเจอจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ในห้องรับแขก
เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เสื้อกั๊กลายตรงสีน้ำเงินเข้ม ยืนอยู่หน้าหน้าต่าง กำลังก้มหน้าใช้มือติดกระดุมอยู่
“วันนี้ไปหาตระกูลจี้นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่เห็นเจียงหยู่เทียน จึงกลับไปมองจี้จิ่งเชินอย่างพิจารณาอีกครั้ง
ดูแล้วเจียงหยู่เทียนคงจะไม่ได้บอกฐานะของตัวเองกับเขา
พอนึกถึงเรื่องเมื่อวานก็ใจหาย
“คนเมื่อวานคือ……”
“เธอ คือ เจียงหยู่เทียน”
จี้จิ่งเชินมองเธอแวบหนึ่ง
“ไม่เหมือนกับคุณเลย”
แม้ว่าตอนเช้าจะทำใจมาดีแล้ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็คิดไม่ออกว่า เจียงหยู่เทียนไปรู้จักกับจี้จิ่งเชินตอนไหน?
แต่เธอพอมองออกว่า จี้จิ่งเชินชอบเจียงหยู่เทียนมาก
ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดมาโดยตลอดจริงๆ สินะ
“ฉันไม่เหมือนเธอจริงๆ”
พูดจบ เธอก็กำมัดแน่นแล้วหันหลังเดินขึ้นข้างบน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว นอกจากครั้งก่อนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเมาเหล้า นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ยินน้ำเสียงประชดประชันของเธอแบบนี้
“คุณจะไปไหน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่หยุดก้าวเท้าเดินต่อ
“จะกลับไม่ใช่หรอ? คงจะกลับไปแบบนี้ไม่ได้สินะ?”
พูดจบก็เดินเข้าห้องไป
บ่ายสามโมง เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินก็มาถึงบ้านตระกูลจี้เรียบร้อย
ฉวีช่วยฉินใส่ชุดสีเทาเข้ม จิบชาแล้วจึงพูดออกมาอย่างช้าช้า
“ครั้งนี้ที่ฉันเรียกพวกเธอมา เพราะว่าใกล้จะถึงวันเกิดครบรอบหกสิบปีของพ่อเธอแล้ว”
สีหน้าจี้จิ่งเชินไม่ได้แสดงออกอะไร แถมดูเยือกเย็น
“เกี่ยวอะไรกับผมละ?”
ฉวีช่วยฉินฉีกยิ้มที่แข็งทื่อออกมา ไม่ได้ตอบอะไรเขาแต่หันหน้ามาทางเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เธอเพิ่งจะแต่งงานเข้าตระกูลจี้มา งานเลี้ยงครั้งนี้เชิญแขกมาหลายคน ห้ามพูดว่าฉันไม่ได้ดูแลเธอ การจัดงานครั้งนี้จะให้เธอเป็นคนรับผิดชอบการเตรียมงาน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ : “ฉันหรอ?”
“อืม ก็แค่งานเลี้ยงงานหนึ่งเอง ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ แต่งงานมาแล้วเธอจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ จริงไหม?”
ฉวีช่วยฉินลุกขึ้นยืน เอามือหยิบพัดขึ้นมาพัด
“งานนี้ให้เชิญมาเฉพาะแขกที่อยู่ในรายชื่อ เรื่องอื่นๆ เธอเตรียมเองละกัน”
“งานนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อ ห้ามมีข้อผิดพลาด อย่าทำให้ตระกูลจี้ต้องขายหน้า”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกรายชื่อดู ในนั้นมีญาติพี่น้องห่างๆ ของตระกูลจี้ แล้วก็มีคนนอกตระกูล รวมๆ แล้วไม่ถึงหนึ่งร้อย แต่ก็ประมาณเจ็บสิบแปดสิบคนได้
เธอไม่เคยเตรียมงานเลี้ยงมาก่อน แม้กระทั่งเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เป็นทางการก็ยังไม่เคยเข้าร่วมเลย
จะเตรียมงานยังไงดีล่ะ?
แต่ฉวีช่วยฉินแสดงอำนาจที่ดูน่ากลัวให้เธอดู ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้แต่ตอบตกลงไปแต่โดยดี
“รับทราบค่ะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ
“ตระกูลจี้ไม่มีคนอื่นแล้วหรอ? ถึงให้เธอมาทำ?”
สีหน้าของฉวีช่วยฉินดูจริงจัง แล้วพูดด้วยเสียงดุเดือดว่า
“จี้จิ่งเชิน ฉันให้โอกาสเธอแสดงความสามารถ หรือจะให้คนอื่นๆ คิดว่า ภรรยาของจี้จิ่งเชินทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง คงเป็นได้แค่หนอนในข้าวใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วมากกว่าเดิม แล้วหัวเราะเยาะออกมา
“จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ที่พวกคุณต้องการนะ……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว!”
เพื่อที่จะหยุดคำพูดของจี้จิ่งเชิน เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบรายชื่อแขกที่อยู่บนโต๊ะ
“งานเลี้ยงนี้ เดี๋ยวฉันเตรียมงานเอง!”
จากนั้นก็เดินออกไป จี้จิ่งเชินดึงเธอไว้ด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น
“คุณปัญญาอ่อนรึไง? ไปรับปากเธอทำไม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันมาสะบัดแขนของเขา
“คุณจะมาเป็นห่วงฉันทำไม?”
“ทำไมไม่ไปเป็นห่วงเจียงหยู่เทียนล่ะ?”