เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 266 พรุ่งนี้ไปเยือนถึงที่
“เข้าไป”
ทันทีที่อู๋เหวินกวงออกคำสั่ง องครักษ์ตระกูลอู๋ทั้งหมดก็เคลื่อนพลไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
พวกเขาแยกย้ายกระจายไปในทุกทิศทาง บุกเข้าไปในวิลล่าแห่งนี้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางความมืด พวกเขาเตรียมพร้อมค่อยๆ โอบล้อมวิลล่าหยุนติ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ Mr.X หลบหนี
หลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่ง อู๋เหวินกวงก็เริ่มเห็นวิลล่าของฉินเฟิงแล้ว เขาดีใจมาก ดวงตาเปล่งประกายความดุร้าย เขากำลังจะฆ่าคนแล้ว
แต่ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทางด้านหลัง เหงื่อออกเต็มหน้าพลางรายงานว่า “ท่านเจ้าบ้าน พวกเราได้สูญเสียไปห้าคน แล้ว แล้ว…”
“ห้าคน! แล้วอะไรอีก?”
สีหน้าอู๋เหวินกวงเปลี่ยนไปทันที
สูญเสียไปห้าคนโดยไม่ทันตั้งตัว
ล้อเล่นหรือเปล่า
นี่คือกองกำลังชั้นสุดยอดของเขานะ
“นอกจากนี้พวกเขายังบอกว่าเป็นผีผู้หญิงในเวลาต่อมา” คนรับใช้รายงานด้วยเหงื่อเต็มหน้าผาก
ความจริงเขาไม่ได้เชื่อ แต่ก็ต้านไม่ไหว ต่อมาต่างก็บอกว่าเป็นผีผู้หญิง
ครั้งนี้ไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว
“ผีผู้หญิง? ไร้สาระ! แม้ว่ามันจะเป็นเวลากลางคืน แต่ผีผู้หยิงจะมาจากไหน มันเป็นไปไม่ได้”
อู๋เหวินกวงบุ้ยปาก
ผีผู้หญิง
ไร้สาระ
“ประกาศคำสั่งออกไป ต้องมีคนอยู่ที่นี่ ไปตรวจสอบทันที”
อู๋เหวินกวงออกคำสั่ง
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับนิ่ง ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว หมายความว่าอะไร เขาไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้แล้ว ขณะที่กำลังจะดุด่าก็เห็นคนของตระกูลอู๋อ้าปากค้าง แล้วพูดอย่างแผ่วเบา “มีผี…”
จากนั้น
ก็ล้มลงกับพื้น
ดวงตาทั้งสองมีเลือดออก
“เกิดอะไรขึ้น?”
อู๋เหวินกวงมีสีหน้าเคร่งเครียดในทันที เขารีบเดินเข้าไปตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตของชายคนนั้น แต่พบว่าไม่รู้ว่าเสียชีวิตอย่างไร ดวงตามีเลือดออก ล้มลงกับพื้นโดยตรง
“ทุกคนมารวมตัวกัน.”
อู๋เหวินกวงรู้สึกร้อนใจ
มีปัญหา
พวกเขาจำเป็นต้องมารวมตัวกันในทันที
มิฉะนั้นจะเกิดเรื่องแน่
อย่างไรก็ดีเมื่อเขาตะโกนออกมาก็พบว่ารอบๆ ยังเงียบสงบ ไม่มีใครตอบสนอง เขาตกใจและเดินไปไม่กี่ก้าว แต่แล้วก็สะดุดกับอะไรบางอย่าง
พอก้มลงมองก็พบว่าเป็นศพ
“อู๋เสี้ยวเทียน”
อู๋เหวินกวงแค่มองก็รู้ว่าเป็นหลานชายของเขา แต่ตอนนี้เขาก็ล้มลงกับพื้น ดวงตาแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือด
และดวงตาก็ยังเบิกโพลง
เห็นได้ชัดว่าตกใจมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
อู๋เหวินกวงหวาดกลัวจนถอยออกไปก้าวหนึ่ง แล้วรีบวิ่งไปหาคนอื่นๆ แต่พบเพียงหนึ่งศพ สองศพ สามศพ สี่ศพ…ห้าสิบศพ
องครักษ์ตระกูลอู๋ที่พามาเสียชีวิตหมดแล้ว
อู๋เหวินกวงในฐานะผู้นำของตระกูลใหญ่ในหลินโจว ก็ยังหวาดกลัวเช่นกันในเวลานี้ ทุกคนตายหมดแล้ว
และในเวลานี้ ท่ามกลางความมืดได้ปรากฏจุดสีแดงเล็กน้อย และค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็เข้ามาใกล้ อู๋เหวินกวงหน้าถอดสี
เพราะมันเป็นผีผู้หญิงจริงๆ
เสื้อผ้าของเธอเป็นสีแดงเหมือนเลือดสดๆ ใบหน้าของเธอปกคลุมไปด้วยรอยแดง มีคราบเลือดทั่วร่างกาย ทุกย่างก้าวมีเลือดหยดลงมา ลมหนาวพัดมา เต็มไปด้วยความหม่นหมองและน่าสะพรึงกลัว
“คุณ…คุณ…”
อู๋เหวินกวงตกใจกลัวจนนอนกองอยู่กับพื้น
ภาพนี้มันแปลกประหลาดจริงๆ
“นี่คือบ้านของฉัน…”
วินาทีถัดมา ผีสาวชุดแดงเหมือนแวบผ่านไป ปรากฏขึ้นตรงหน้าอู๋เหวินกวง ใบหน้าของเธอมีรอยแผลจากใบมีด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ น่าสะพรึงกลัวที่สุด
“ผี…”
แม้จะเป็นอู๋เหวินกวง แต่ก็เตรียมตัวจะวิ่งหนีเมื่อเห็นภาพนี้เช่นกัน
มันน่ากลัวเกินไป
แต่ขณะที่เขาหันไปรอบๆ กริชเล่มหนึ่งก็แทงเข้าทะลุหน้าอกของเขาจากทางด้านหลัง อู๋เหวินกวงตัวแข็งทื่อ และในขณะเดียวกันก็มีอีกประโยคหนึ่งดังขึ้นมา
“ภารกิจที่ 51 เสร็จสมบูรณ์แล้ว”
มันเป็นเสียงของหลิวหลิน
“ที่แท้…ก็คือคน…”
อู๋เหวินกวงล้มลงไปที่พื้น แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขายังคาดเดาได้ว่าเป็นคน
แต่ภาพนั้นก็น่ากลัวเกินไป
วิ่งหนีโดยสัญชาตญาณ
หลิวหลินก้าวไปข้างหน้า แทงมีดเข้าไปอีก ให้แน่ใจว่าตายสนิทแล้ว จากนั้นก็กวาดล้างสนามต่อสู้ แล้วกลับไปที่สนาม ฉินเฟิงกำลังรอเธออยู่ที่นี่
“เทพสงคราม ภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว” หลิวหลินกล่าว
ฉินเฟิงมองดูหลิวหลินที่อยู่ตรงหน้า เธอสวมเสื้อคลุมโบราณสีแดง เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยรอยแผล ดวงตาแดงก่ำด้วยเส้นเลือด ภาพจำนี้เหมือนผีจริงๆ
“มาพูดถึงความรู้สึกกันเถอะ” ฉินเฟิงกล่าว
“มันเป็นวิธีที่แปลกใหม่ในการต่อสู้ และฉันก็นึกไม่ถึงว่าครูทหารจะมียากล่อมประสาทแบบนั้น เมื่อผสมกับการแต่งกายของฉัน ไม่ต้องออกแรงมากก็จัดการพวกเขาได้แล้ว”
หลิวหลินยังคงตกใจอยู่ในตอนนี้
เธอเองก็คิดไม่ถึงว่าจะสามารถปฏิบัติการได้อย่างนี้ ปลอมเป็นผีมาหลอกคน
มันฟังดูไร้สาระมาก
แต่ตอนนี้ภารกิจได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญยังอยู่ที่ยากล่อมประสาท นี่คือยากล่อมประสาทของหวังเถ่ หากโปรยไว้รอบๆ ล่วงหน้า ภายในหนึ่งชั่วโมงจะไม่กระจายหายไป เพราะมันทำจากเห็ดพิษ สามารถทำให้เกิดภาพหลอนได้
คนเหล่านั้นหวาดกลัวเธอจากจิตใต้สำนึก ส่วนใหญ่เป็นเพราะผลมาจากยากล่อมประสาทนั้น
มันส่งผลกระทบต่อประสาทของพวกเขา
“นี่เป็นบทเรียนแรกที่ผมสอนให้กับคุณ คุณจะสามารถประมาทในการต่อสู้ไม่ได้ ชีวิตของทหารก็คือชีวิต อย่าเติมเข้าไปเหมือนเป็นก้อนหิน หากคุณมีวิธีการอื่นใดที่ดีกว่านี้ก็เอามาใช้ มันคือกลอุบายในสงคราม”
“ค่ะ”
หลิวหลินรีบพยักหน้า
วันนี้ได้สอนบทเรียนให้เธอจริงๆ ถ้าเป็นเธอมันจะเป็นเรื่องยากที่จะซุ่มโจมตีคนกลุ่มนั้น
แต่ตอนนี้ได้ใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อฆ่าศัตรู
“มีรอยแผลมากมายบนใบหน้าของคุณ เสียใจไหม?” ฉินเฟิงถามอีกครั้ง
“ไม่เสียใจเลย”
หลิวหลินส่ายหน้า
หลังจากที่เธอตัดสินใจแล้ว จะไม่เสียใจอีก นี่คือนิสัยของเธอ
“สาวน้อย คุณยังเด็กอยู่ จะเสียโฉมไม่ได้ เอานี่ไป”
ฉินเฟิงโยนกล่องพลาสเตอร์ยาให้เธอ
“อะไรน่ะ?”
“เซี่ยยวน รู้จักใช่ไหม เป็นหมอที่ดีที่สุดในต้าเซี่ยเลย เขาเป็นคนผสมขึ้นมา เอามันไปใช้ คืนนี้ทาไว้ พรุ่งนี้ก็จะดีแล้ว นี่เป็นเพียงกลยุทธ์พิเศษในสนามรบ วันข้างหน้าหากอยู่ในสนามรบจริง จะต้องวิเคราะห์ให้มากกว่านี้และตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร”
ฉินเฟิงกำชับหลิวหลิน แล้วบอกให้หลิวหลินกลับไป
ส่วนโต๊ะหินนี้ก็เหลือเพียงฉินเฟิงและหวังเถ่ หวังเถ่เดินออกมาจากความมืดพร้อมกับคนคนหนึ่ง แล้วโยนลงกับพื้น “ใต้เท้า นี่คือคนของตระกูลหลิน”
“Mr.X ผมเป็นแค่คนรับใช้ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย”
เขาคือหลินชิว สมาชิกของตระกูลหลิน
เขาถูกส่งไปที่ตระกูลอู๋เพื่อลงมือจัดการ แล้วจึงติดตามตระกูลอู๋มาโดยตลอด
เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งก่อน แค่รออยู่ด้านนอก แต่เมื่อรู้ว่าตระกูลอู๋ถูกทำลายก็คิดจะหนีไปทันที แต่ก็ยังถูกจับโดยคนคนนี้
จับมาที่นี่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของ Mr.X ผู้โหดเหี้ยม
“ตระกูลอู๋ถูกทำลายจนสิ้นซากแล้วใช่ไหม”
หลินเฟิงสวมหน้ากาก นั่งยองๆ ลงกับพื้นแล้วถามขึ้น
“ใช่ๆๆ”
หลินชิวพยักหน้าซ้ำๆ
“กลับไปบอกหลินเย่าตุงและโจวจือเชียนว่าตระกูลอู๋ตายหมดแล้ว พรุ่งนี้ผมจะไปฆ่าพวกเขาถึงที่ ให้พวกเขาเตรียมพร้อมรับความหวาดกลัว” ฉินเฟิงพูดอย่างเย็นชา