ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - ตอนที่ 511 ถูกเล่นงาน (๒)
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ มองดูนางกำนัลที่ผ่านไปมาเป็นครั้งคราวและลดเสียงลงตอบ “เมื่อครู่ที่ตำหนักเว่ยยาง เสิ่นซูเฟยบุ้ยใบ้ให้ข้าสนใจเซี่ยหยุนซีอยู่ตลอด ข้าจึงไม่ทันระวังว่าในน้ำชามียากล่อมนิทราผสมอยู่และดื่มไปเล็กน้อย”
เมื่อนางกำนัลได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักฝีเท้า รีบก้มหัวลงแล้วก้าวไปข้างหน้า “เช่นนั้นทำอย่างไรดี ที่หม่อมฉันที่ยาแก้พิษอยู่ นายท่านดูว่ามีประโยชน์หรือไม่?”
หยุนชางหัวเราะเบาๆ “ผงยากล่อมนิทรานี้ไม่ใช่ยาพิษ มันแค่ทำให้คนเห็นภาพหลอนเท่านั้น ยาแก้พิษไม่มีประโยชน์อันใด ที่พระราชวังแห่งนี้ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา สายลับไม่อาจเข้ามาได้ ที่ตำหนักเซียงจู๋ก็มีคนของเรามากมาย เจ้าไปหาชุดที่เซียงกุ้ยผินยังไม่เคยใส่ ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เจ้าให้ทุกคนระวังตัวเฝ้าอยู่โดยรอบ อย่าให้คนอื่นนอกจากรุ่ยอ๋องเข้ามาในตำหนักได้เด็ดขาด แม้ว่ายากล่อมนิทราจะไม่มีพิษ แต่ข้าก็น่าจะต้านทานฤทธิ์มันได้เล็กน้อยและไม่ได้เสียสติไปอย่างสมบูรณ์ หากเจ้าเห็นว่าข้ามีอะไรปกติก็เพียงลงมือทำให้ข้าสลบไปก็พอ”
“เพคะ” นางกำนัลผู้นั้นตอบเสียงเบา นางรู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงมาก นางจึงกัดริมฝีปากและเร่งฝีเท้าไปยังตำหนักเซียงจู๋
เมื่อเข้าไปในตำหนักเซียงจู๋ เพราะนางพยายามต้านทานฤทธิ์ยากล่อมนิทรา หน้าผากของหยุนชางจึงมีเม็ดเหงื่อผุดพรายออกมา นางกำนัลผู้นั้นรีบหยิบชุดสีม่วงออกจากหีบและสั่งให้นางกำนัลคอยเฝ้าดูบริเวณโดยรอบแล้วจึงกลับเข้าไปในตำหนักเพื่อช่วยหยุนชางแต่งตัวและประคองนางไปนั่งข้างเตียง
หยุนชางรู้สึกเพียงว่าดวงตาของนางค่อยๆ พร่ามัวราวกับว่ามีเมฆหลากสีกำลังเคลื่อนที่ไปมา หยุนชางส่ายหัวอย่างมึนงงก็เห็นเมฆนั้นกระจัดกระจายออกไป หนิงเชียนยืนอยู่ด้านหน้านาง
หยุนชางดีใจมากและรีบพูดว่า “เกรงว่าจะมีคนทำร้ายข้า เจ้าควรส่งคนไปที่ตำหนักไท่จี๋เพื่อแจ้งท่านอ๋องและให้เขามาที่นี่โดยเร็ว”
หนิงเชียนที่อยู่ด้านหน้าพยักหน้าแล้วจึงถอยออกไป หยุนชางพิงพนักหัวเตียงอย่างเหม่อลอย แต่กลับเห็นหญิงสาวสวมชุดนางกำนัลเข้ามา หยุนชางรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและรีบคว้ามือนางไว้ “เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
นางกำนัลผู้นั้นโน้มตัวโค้งคำนับและเอ่ยเสียงเบา “ทุกอย่างเรียบร้อยดี หม่อมฉันจะช่วยพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้านะเพคะ”
หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย นางรู้สึกว่าเสียงของนางกำนัลฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็พยักหน้าเบาๆ ในสมองของนางก็เต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์ในตำหนักเว่ยยาง ดูเหมือนว่าจะมีคนใส่ยาลงในถ้วยของนาง หยุนชางคว้าผ้าปูที่นอนที่อยู่ข้างๆ แล้วดึงอย่างแรง นางยืนขึ้นและพึมพำ “มีคนต้องการทำร้ายข้า มีคนวางยาข้า เร็วเข้าๆ ไปหาท่านอ๋องเร็วเข้า ไปเรียกท่านอ๋องมาเร็วเข้าๆ”
นางกำนัลผู้นั้นรีบประคองหยุนชางและกระซิบว่า “พระชายาวางใจเถอะ หม่อมฉันส่งคนไปหาท่านอ๋องที่ตำหนักเว่ยยางแล้ว อีกไม่นานท่านอ๋องก็คงจะมาถึง ให้หม่อมฉันช่วยพระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเพคะ”
“อือ” หยุนชางรับคำ นางนิ่งไปครู่หนึ่งก็นั่งลงบนเตียงอีกครั้ง สมองของนางมึนงง หยุนชางเงยศีรษะขึ้นและมองไปยังนางกำนัลที่ตัวค่อนข้างสูงแล้วขมวดคิ้ว “แขนของข้าถูกลวก เจ้าไปเอายามาทาให้ข้าหน่อย”
นางกำนัลผู้นั้นทำหน้านิ่วคิ้วขมวดและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ในตำหนักเซียงจู๋ไม่มียาเพคะ หม่อมฉันช่วยพระชายาเปลี่ยนชุดก่อนแล้วจะไปขอยามาจากหมอหลวง” นางกล่าวและไม่รอให้หยุนชางตอบก็หยิบเสื้อผ้ามาวางเสื้อผ้าไว้บนเตียง และเอื้อมมือไปถอดเสื้อผ้าของนางออก
ทันทีที่สัมผัสมือของหยุนชาง หยุนชางก็ยืนขึ้นทันที นางขมวดคิ้วและตะโกนเสียงดังว่า “ทหาร ทหาร มีมือสังหารอยู่ที่นี่”
นางกำนัลผู้นั้นสีหน้าเปลี่ยนไปทันที นางโถมตัวใส่หยุนชาง หยุนชางยกเท้าขึ้นถีบ แต่ด้วยอาการมึนงง นางที่ยืนไม่มั่นคงกลับล้มไปด้านข้างแทน ทำให้หลบการโจมตีของนางกำนัลผู้นั้นพ้นไปได้ ทันทีที่สิ้นเสียงก็มีคนรีบเข้ามาทันที
หยุนชางได้ยินเสียงการต่อสู้ดังขึ้นจึงเขยิบตัวไปด้านข้าง นางนั่งลงกับพื้นพิงของและเงยหน้าขึ้นพยายามมองดูหน้านางกำนัลผู้นั้น
เพียงแต่นางกำนัลผู้นั้นมีวิทยายุทธ์ยอดเยี่ยม หลายคนก็ล้อมนางไว้แต่ก็จับนางไว้ไม่ได้และปล่อยให้นางหลุดมือไปได้
หยุนชางหอบหายใจและมองไปที่คนที่ช่วยชีวิตนางไว้ “เมื่อครู่นางกำนัลที่พาข้ามาที่นี่ล่ะ? นางหายไปไหน?”
“พระชายาเพิ่งให้นางส่งคนไปหารุ่ยอ๋อง เฉี่ยนหยุนกูกูจึงไปจัดการเพคะ” มีคนตอบขึ้น
หยุนชางมองดูพวกเขาด้วยความงุนงง นางขมวดคิ้วและเอ่ยว่า “คนเมื่อครู่นั่นเกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่บอกให้พวกเจ้าเฝ้าให้ดีหรือว่าอย่าให้ใครเข้ามา?”
ยังไม่ได้ยินใครตอบ นางก็ได้ยินเสียงของเฉี่ยนหยุนดังขึ้น “เกิดอะไรขึ้น? เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงเอะอะ”
“เมื่อครู่มีนางกำนัลบอกว่าฮองเฮามีเรื่องจะพูดกับพระชายา พวกเราจึงไม่อาจขวางนางได้และได้แต่ปล่อยนางเข้ามา คิดไม่ถึงเลยว่านางจะเข้ามาทำร้ายพระชายา”
เหงื่อบนหน้าผากของหยุนชางไหลออกมาไม่หยุด นางกัดริมฝีปากและพูดว่า “เมื่อครู่เป็นชายที่แต่งตัวเป็นสตรี เข้ามาก็พยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าของข้าทันที หากเป็นไปตามแผนของเขาแล้วล่ะก็ เกรงว่าชื่อเสียงความบริสุทธิ์ของข้าจะถูกทำลาย”
เมื่อคนในห้องได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดเผือดลง หยุนชางกัดฟันและกระซิบว่า “เจ้าชื่อเฉี่ยนหยุนใช่ไหม เกรงว่าข้าจะทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้ามองเห็นใบหน้าของพวกเจ้าไม่ชัดแล้ว เจ้าทำให้ข้าสลบไปเถอะ”
เฉี่ยนหยุนได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงตัดสินใจลงมือทำให้หยุนชางสลบ
ทันทีที่ทำให้หยุนชางหมดสติไปก็ได้ยินเสียงบุรุษดังมาจากด้านนอก เฉี่ยนหยุนขมวดคิ้วและเดินออกมาจากตำหนักเซียงจู๋ก็พบรุ่ยอ๋องยืนอยู่ข้างนอกถัดจากนางกำนัลที่ตามหยุนชางมาเมื่อครู่ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับชางเอ๋อร์?”
สายตาของเฉี่ยนหยุนมองไปที่รุ่ยอ๋อง เมื่อเห็นว่าคนรับใช้สองคนด้านหลังเขาจับตัวคนผู้หนึ่งที่แต่งตัวด้วยชุดสตรี เพียงแต่เหมือนจะดูไม่ปกตินัก นางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “นี่คือ…?”
ลั่วชิงเหยียนเหลือบมองนางกำนัลที่ถูกจับอยู่ด้านหลังแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “เมื่อครู่ข้าเห็นเขารีบวิ่งออกมาจากตำหนักเซียงจู๋ ข้าดูแล้วไม่เหมือนกับนางกำนัลนักจึงได้จับตัวไว้”
สีหน้าของเฉี่ยนหยุนเปลี่ยนไป นางรู้ว่าคนผู้นั้นเพิ่งเข้าไปเล่นงานหยุนชาง ดวงตาของเขาแผ่รังสีสังหารออกมา “ใช่ คนผู้นี้หนีออกมาจากตำหนักของเราเพคะ”
พูดจบแล้วนางก็มองไปที่ลั่วชิงเหยียนและใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะให้ข้าตรวจดูว่าท่านได้แปลงโฉมมาหรือเปล่าได้หรือไม่เพคะ?”
ลั่วชิงเหยียนได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว ดวงตาที่เขาจ้องไปที่เฉี่ยนหยุนแฝงแววเย็นชา เฉี่ยนหยุนจึงรีบกล่าวว่า “เมื่อครู่มีคนปลอมตัวเป็นนางกำนัลเข้ามาทำร้ายพระชายา หม่อมฉันจึงไม่อาจประมาทได้อีก”
เมื่อลั่วชิงเหยียนได้ยินสิ่งที่เฉี่ยนหยุนพูด สีหน้าของเขาก็ยิ่งเย็นเยียบลงไปอีก เขาก็หันไปมองผู้ที่ปลอมตัวเป็นหน้ากำนัลด้วยสีหน้าตึงเครียดและขมวดคิ้วมุ่น “ตรวจดูเถอะ”
เฉี่ยนหยุนรีบยกมือขึ้นสำรวจตำแหน่งขอบใบหน้า หลังจากสัมผัสเบาๆ เล็กน้อยนางก็รีบดึงมือกลับและหลีกทางให้ “เชิญท่านอ๋องตามหม่อมฉันมา เมื่อครู่ตอนที่อยู่ที่ตำหนักเว่ยยาง พระชายาถูกวางยากล่อมนิทราในชาของนาง หม่อมฉันรีบนำพระชายากลับมาที่ตำหนัก เมื่อครู่พระชายามีอาการเห็นภาพหลอน หม่อมฉันจึงทำให้นางหมดสติไป”
“ทำให้หมดสติงั้นหรือ?” ลั่วชิงเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกายเย็นชา