คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่28 ผู้ชายที่น่าดึงดูดใจคนใหม่ของโรงพยาบาล
ตอนที่28 ผู้ชายที่น่าดึงดูดใจคนใหม่ของโรงพยาบาล
“หมอฉู่!ห้องฉุกเฉินมีคนไข้ต้องการให้คุณช่วยเหลือ!”
ยังไม่ทันให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้อ้าปากพูด เสียงตะโกนของนางพยาบาลที่รีบร้อนก็ดังแทรกขึ้นมาซะก่อน ฉู่ลั่วหานพยักหน้าให้เขาไวๆก่อนจะรีบวิ่งออกไปทางห้องฉุกเฉิน
บนทางเดินที่ทอดยาว ร่างสูงโปร่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองร่างของหญิงสาวที่หายไปสุดทางเดินราวกับผีเสื้อสีขาว มุมปากยกขึ้นเบาๆอย่างอบอุ่น
ฉู่ลั่วหานจับสายหูฟังทาบเข้าที่อกของคนไข้เพื่อประเมินสถานการณ์ ตลอดทุกขั้นตอนล้วนขมวดคิ้วเข้มติดกัน
นิ้วบางๆกดลงบนหน้าท้องของคนไข้ ค่อยๆรู้สึกถึงสัญญาณชีวิตของผู้ป่วยที่มีอยู่อย่างน้อยนิด “ลิ้นหัวใจเสียหายหนัก ต้องเข้าผ่าตัดโดยด่วน !ติดต่อหมอแผนกศัลยแพทย์เร็ว!”
“รับทราบ!หมอเฉิน!ที่นี่…..”
คนไข้ถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดโดยหมอศัลยแพทย์ ฉู่ลั่วหานหอบหายใจ ค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน ขยับมือของตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะนิ่งไป
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนนั้นล่ะก็ เธอเองก็สามารถผันตัวเป็นศัลยแพทย์ได้เหมือนกัน สามารถใช้มีดผ่าตัด ระหว่างเส้นเป็นเส้นตาย ดึงชีวิตคนไข้ให้กลับมาอีกครั้ง
เปลือกตาปิดลงอย่างอ่อนแรง เสียงกรีดร้องที่ดังไม่มีที่สิ้นสุด ราวกับหายนะที่พยายามจะกลืนกินความคิดและเส้นประสาทสมองทั้งหมดของเธอ
นิ้วมือเล็กๆกำเข้าหากันแน่น นิ้วแต่ละนิ้วพยายามที่จะไม่จิกเข้าไปในเนื้อ แต่สุดท้ายก็เหลือเพียงแต่รอบลึกทิ้งไว้บนฝ่ามือขาวๆ
ชั้นเหงื่อบางๆไหลออกมาบนใบหน้าขาว เนื่องจากอารมณ์ปั่นป่วนและสถานการณ์ตึงเครียด ฉู่ลั่วหานรู้สึกว่าหัวใจตัวเองแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
พยายามดึงตัวเองออกมาจากหลุมความทรงจำ ฉู่ลั่วหานคลายมือออก พลางมองรอยแผลที่ตัวเองทำไว้บนฝ่ามือ
แม้แต่มุมปากยังรู้สึกเจ็บปวด
โชคชะตาอย่างงั้นหรอ
หรือคงจะเป็นแบบนี้สินะ ชอบล้อเล่นกับชีวิตคน
ฉู่ลั่วหานกลับห้องทำงาน จ้าวเหมียนเหมียนกับจี้ซือหยู่เองก็กลับมาจากห้องคนไข้พอดี ใบหน้าทั้งสองคนล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขท่วมท้น ราวกับกำลังคุยเรื่องสนุกๆกันอยู่
ฉู่ลั่วหานทิ้งตัวลง จ้าวเหมียนเหมียนพูดยิ้มๆด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เล็กน้อย “หมอฉู่ ยุ่งมาทั้งวันคงจะเหนื่อยจนปวดหัวไปหมด ฉันเองก็ถูกคนไข้ทำให้โกรธจนปวดหัวไม่แพ้กัน ก็เลยหาอะไรสนุกๆทำให้ตัวเองสดชื่นสักหน่อย อิอิ”
พูดพลาง จ้าวเหมียนเหมียนก็ยื่นมือถือไปด้านหน้าเธอ “เป็นไง ชัดมากใช่มั้ย ปาปารัสซี่สมัยนี้นี่ฝีมือไม่ตกจริงๆ แอบเข้าบ้านคนอื่นไปถ่ายรูปได้ แต่พูดตามตรง คฤหาสน์ของตระกูลหลงนี่ทั้งใหญ่โตทั้งหรูหรานะ!แต่คนมีเงินก็แบบนี้ล่ะนะ บ้านราวกับพระราชวัง ปราสาทแน่ะ!”
ดวงตาของฉู่ลั่วหานหยีเข้าหากันแน่น บนหน้าจอ คือภาพคฤหาสน์เก่าแก่ของ ตระกูลหลง ดูงดงามไร้ที่ติ ด้วยการออกแบบชั้นหนึ่ง บนพื้นที่ทำเลที่ดีสุดๆ มองได้เห็นทั่วทั้งเมืองหลวง มีเพียงแค่หลังเดียวเท่านั้น
ส่วนภาพถัดไปก็คือ โม่หรูเฟยกำลังจับข้อมือของหยวนชูเฟิน สองคนกำลังเดินคุยกันอย่างสนุกสนานออกมาจากคฤหาสน์ โม่หรูเฟยสวมชุดเดรสยาวเรียบหรู แม้แต่การแต่งหน้าเข้มตามปกติก็ถูกเปลี่ยนเป็นแต่งหน้าอ่อนๆ ท่าทางนอบน้อมอ่อนโยน เหมาะกับตำแหน่งลูกสะใภ้
แน่นอน ว่าภาพเหล่านี้ไม่ได้สะกิดใจฉู่ลั่วหานมากนัก แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอแทบหยุดเต้นเหมือนโดนมีดเสียบเข้าตรงกลาง ก็คือภาพใบที่สาม
ในภาพ หลงเซียวเปิดประตูรถเบนท์ลีย์สีดำด้วยตัวเอง อย่างสุภาพบุรุษ อยู่ข้างหน้าประตูคฤหาสน์ รอต้อนรับคุณนายทั้งสอง
ฉู่ลั่วหานจ้องภาพครอบครัวแสนสุขตรงหน้านิ่ง ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่สวยงาม แม่สะใภ้ที่ดูใจดี และผู้ชายที่หล่อเหลา……
“ความสัมพันธ์ของ โม่หรูเฟยกับคุณนายหลงสนิทชิดเชื้อ ประตูของตระกูลหลงยินดีต้อนรับทุกเมื่อ”
ข้อความและรู้ภาพที่เหมือนเข็มนับพันเล่ม ทำลายเกราะป้องกันในใจฉู่ลั่วหานจนหมดสิ้น
หลงเซียวจะขอโม่หรูเฟยแต่งงานจริงๆใช่มั้ย
“หมอฉู่ หมอฉู่เป็นอะไรไป”
เห็นฉู่ลั่วหานอยู่ๆก็นิ่งไป จ้าวเหมียนเหมียนรีบยกมือขึ้นโบกไปมาตรงหน้าเธอ
ฉู่ลั่วหานเหมือนสะดุ้งตื่นจากฝัน ดันโทรศัพท์ตรงหน้าคืนหล่อนไป ประคองตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ “ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”
จี้ซือหยู่ สองคนต่างพากันมองหน้ากัน“หรือวันนี้คงจะทำงานเหนื่อยมากเกินไป ตั้งแต่เช้าก็ถูกเรียกตัวไปแผนกศัลยแพทย์ แถมยังมีห้องฉุกเฉินอีก”
จ้าวเหมียนเหมียนพยักหน้าเห็นด้วย “หมอฉู่เป็นแพทย์หญิงชั้นนำของโรงพยาบาลเราเชียวนะ แต่แพทย์ชั้นนำก็ต้องการพักผ่อน ต้องการคนดูแลเหมือนกัน หวังว่าหมอฉู่จะหาผู้ชายดีๆที่รักเธออย่างแท้จริงได้สักคน”
คำพูดนี้ ได้ยินไปถึงหูของฉู่ลั่วหานที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานอย่างไร้เรี่ยวแรงขยับไปไหน ขาสองข้างพิงเข้ากับกำแพง ฉู่ลั่วหานค่อยๆสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะควบคุมสติอารมณ์ไว้ได้
ช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายกว่าช่วงเช้านัก ฉู่ลั่วหานกลับมาจากห้องคนไข้ จางได้จุนยื่นแก้วกาแฟในมือส่งให้เธอ “เหนื่อยล่ะสิ ดื่มกาแฟสักหน่อย ช่วยผ่อนคลายอารมณ์”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้าขอบคุณ เพียงแต่รับแก้วกาแฟวางไว้บนโต๊ะ ไม่ได้ดื่มในทันที
“แหม หมอจาง พวกเราก็เป็นผู้หญิงตัวน้อยๆเหมือนกันนะ ทำไมฉันกับหมอจี้ถึงไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้บ้างน้า ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกัน อยากดื่มกาแฟผ่อนคลายอารมณ์บ้างจังเลย!”
จางได้จุนขมวดคิ้วบางๆ“พวกเธอน่ะหรอ ยังจะกล้าเรียกตัวเองว่าผู้หญิงตัวน้อยๆอีก ไปชะเง้อดูรองผู้อำนวยการคนใหม่มา คอจะหักแล้วใช่มั้ยล่ะ เห็นตัวจริงบ้างหรือยัง“
รองผู้อำนวยการคนใหม่หรอ หมายความว่า เขามาถึงแล้วสินะ
จ้าวเหมียนเหมียนเบ้ปาก“ไม่อยากให้กาแฟก็ไม่ต้องให้ ไม่เห็นต้องพูดจาประชดประชันกับพวกเราเลยนี่ยา!หมอจาง ระวังไว้เถอะ พวกเราช่วยหมอฉู่หาแฟนได้เมื่อไหร่ อย่ามาร้องไห้ก็แล้วกัน!”
สายตาของจางได้จุนมองไปทาง ฉู่ลั่วหาน จากนั้นก็ทำท่าเป็นดื่มกาแฟกลบเกลื่อนความขัดเขินบนหน้า
ฉู่ลั่วหานยิ้มขึ้นมาเงียบๆ แต่ไหนแต่ไร จางได้จุนแอบคิดอะไรกับเธอมาตลอดเลยหรอเนี่ย ถ้าคนที่ออฟฟิศรู้ล่ะก็ว่าเธอแต่งงานมาตั้งสามปีแล้ว แถมสามีของเธอก็คือผู้ชายที่พวกหล่อนเองก็อยากจะได้มาครอบครองอย่างหลงเซียว มันจะเป็นยังไงกันนะ
“หมอจ้าว กาแฟเธอดื่มแทนเถอะ ช่วงนี้กระเพาะฉันไม่ค่อยดี ไม่ดื่มกาแฟน่ะ” ฉู่ลั่วหานยกแก้วกาแฟไปวางบนโต๊ะของจ้าวเหมียนเหมียน พลางหันหน้ากลับไปที่จอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง
จางได้จุนเห็นดังนั้นก็รีบพูด“กระเพาะไม่ค่อยสบายหรอ เบิกยามาทานดีกว่ามั้ย”
จี้ซือหยู่รีบพูดแทรกออกไป“หมอจาง ไม่ต้องกังวลหรอก ระดับหมอฉู่ แล้ว เรื่องเล็กๆแค่นี้ก็แค่ case ขี้ปะติ๋ว!แต่ว่านะหมอฉู่ กระเพาะไม่ค่อยสบายแต่ตายังดีอยู่ใช่มั้ย ฮี่ๆ ขอรายงานข่าวสักหน่อย รองผู้อำนวยการคนใหม่ของพวกเราน่ะนะ เขาว่ากันว่าน่าดึงดูดใจมากกกกก!แค่กๆ แต่ฉันก็ยังไม่ได้เจอสักที”
ดูไปดูมาแล้ว รองผู้อำนวยการคนใหม่คนนี้ ท่าทางจะกลายเป็นประเด็นข่าวหลักของโรงพยาบาลไปซะแล้ว
จ้าวเหมียนเหมียนยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างไม่เกรงใจ ดื่มกาแฟไปก็ไม่วายที่จะหันไปพูดยิ้มๆให้จางได้จุน“หมอจางเลือกเก่งจริงๆนะ บังเอิญฉันชอบคาปูชิโน่ซะด้วย ครั้งหน้าใส่น้ำตาลมากกว่านี้จะดีมากเลยล่ะ!“
จางได้จุนตอบกลับอย่างหงุดหงิด“อ้วนขนาดนี้ยังจะกินหวานอีก กลัวจริงๆว่าจะขายไม่ออก”
“แหมๆๆ เรื่องนี้น่ะหมอจางไม่ต้องกังวลใจไป จ้องหมอฉู่ไว้ให้ดีเถอะ ถ้าหล่อนขายออกจริงๆล่ะก็ คุณก็คง…..ฮี่ๆ”
“อย่าเพิ่งตีกันจะได้มั้ย การประชุมตอนบ่ายจะมีการแนะนำรองผู้อำนวยการคนใหม่ พวกเธอช่วยใส่ใจกันหน่อย เรื่องผู้อำนวยการคนใหม่น่ะ พวกเธอรู้เรื่องบ้างมั้ย ตอนนี้อัตราการมอบหมายงานของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ไม่แน่วันนี้แค่เป็นรองก็เป็นรองผู้อำนวยการ ปีหน้าอสาจจะก็เป็นผู้อำนวยการจริงๆแล้วก็ได้นะ เรื่องนี้มันเกี่ยวกับอนาคตและหน้าที่การงานโดยตรงของทุกคน!”
จี้ซือหยู่เตือนอย่างจริงจังราวกับข้าศึกกำลังบุกเข้ามา จ้าวเหมียนเหมียนกัดแก้วกระดาษในมือ แตะๆแขนของฉู่ลั่วหาน“หมอฉู่ ถ้ารองผู้อำนวยการคนใหม่ เลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการล่ะก็ ไม่แน่เธออาจจะได้เลื่อนเป็นรองผู้อำนวยการแทนก็ได้นะ !ตื่นเต้นมั้ย”
ฉู่ลั่วหานก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยา “มีเวลาว่างขนาดนี้ เอาเวลาไปคิดดีกว่ามั้ยว่าคนไข้หมายเลขสามสิบเนี่ยจะจัดการยังไงดี”
“โอ้โห!เคสเจ้าปัญหานั่นน่ะนะ……”
ตามมาด้วยเสียงโอดครวญของจ้าวเหมียนเหมียน จากนั้นช่วงพบปะสังสรรค์ยามบ่ายของออฟฟิศแห่งนี้ก็จบลง
มีการประชุมที่แผนกเวลาบ่ายสามโมง หมอทุกคนต่างพากันทยอยเข้าห้องประชุมไป และไม่วายที่จะพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาและความสามารถของรองผู้อำนวยการคนใหม่เสียงดังให้แซ่ด มีเพียงแต่ฉู่ลั่วหานเท่านั้นที่ยังคงติดใจอยู่กับข่าวของหลงเซียวกับโม่หรูเฟย ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอะไรทั้งนั้น
เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าห้องประชุมไปไม่กี่ก้าว มือถือฉู่ลั่วหานก็ส่งเสียงดังขึ้น
“หมอฉู่รบกวนคุณไปที่ห้องผ่าตัดหมายเลข 1 โดยด่วน แพทย์ผ่าตัดต้องการความช่วยเหลือ”
จ้าวเหมียนเหมียนได้ยินเสียงข้างในจากมือถือก็ขมวดคิ้วเข้ม“อะไรกัน ทำไมแผนกศัลยแพทย์ยังจะเรียกเธออีก เธออยู่แพทย์อายุรกรรมแท้ๆ เรื่องผ่าตัดจะช่วยได้มากแค่ไหนกันเชียว”
ฉู่ลั่วหานไม่มีเวลาอธิบาย ตอบกลับประโยคหนึ่ง“ฉันร่วมประชุมด้วยไม่ได้แล้วล่ะ เธอช่วยแจ้งรายละเอียดที่ประชุมกับฉันทีหลังก็แล้วกัน” พูดจบก็รีบวิ่งออกไป
ไม่รู้ว่าเสียงของใครพูดขึ้นมาเบาๆว่า “ว่ากันว่า เมื่อก่อนหมอฉู่เคยเป็นหมอศัลยแพทย์ถือมีดผ่าตัด ไม่รู้พักหลังทำไมถึงย้ายมาอยู่แผนกอายุรกรรมได้ ”
จ้าวเหมียนเหมียนได้ยินดังนั้นก็ไม่วายพูดขึ้น“ไม่จริงน่า!มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ”
ฉู่ลั่วหานเปลี่ยนชุดผ่าตัดสีฟ้าเรียบร้อย เดินเข้าห้องผ่าตัดไป แพทย์ผ่าตัดกำลังทำการผ่าตัดซ่อมแซมหัวใจของคนไข้ ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆเพิ่งเห็นเธอเดินเข้ามา ก็รีบให้เธอเข้ามาช่วยรับช่วงต่อ
แต่ฉู่ลั่วหานยังคงสงสัย ทำไมต้องเป็นเธอด้วย รู้ๆกันอยู่ว่าแผนกศัลยแพทย์คนเยอะขนาดไหน
ถึงแม้จะมองไม่เห็นหน้าของแพทย์ผ่าตัด แต่แค่มองนิ้วของเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามีฝีมือ มีฝีมือระดับที่ว่าทำให้ฉู่ลั่วหานมั่นใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นว่าเขาคนนี้คือแพทย์วัยกลางคนที่ผ่านสนามรบมาไม่น้อย ความลึกของบาดแผล การเย็บ ความไว เรียกได้ว่ายิ่งกว่าไร้ที่ติ!
การผ่าตัดกินระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมง ฉู่ลั่วหานช่วยแพทย์ผ่าตัดเช็ดเหงื่อไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง แต่ว่าในใจกลับเคารพชื่นชมเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
การผ่าตัดเสร็จสมบูรณ์ราบรื่น คนไข้ถูกนำตัวออกจากห้องผ่าตัด ฉู่ลั่วหานที่กำลังจัดอุปกรณ์ผ่าตัดให้เข้าที่เข้าทาง เสียงดังฟังชัดของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างๆหูอีกครั้ง
“หมอฉู่”
แพทย์ผ่าตัดดึงหน้ากากลง หน้าที่เต็มไปด้วยน้ำเหงื่อ ยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยน
เขาเองน่ะหรอ ผู้ชายที่เจอหน้าแผนกผู้ป่วยอาการสาหัส ก็คือเขา
“หมอฉู่ ลำบากคุณแย่เลย”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนนุ่มนวล น่าฟัง ได้ยินแล้วสบายหูเป็นอย่างมาก
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะวัยรุ่นขนาดนี้ เมื่อครู่ฉันเห็นวิธีการของคุณ คิดว่าคุณเป็นหมอวัยกลางคนแล้วซะอีก ” ฉู่ลั่วหานพูดตามความคิดตัวเองออกไปตรงๆ ไม่วายที่จะกวาดตามองผู้ชายตรงหน้า ไม่พูดไม่ได้ เขาเป็นคนที่โดดเด่นมาก
อยู่ๆชายหนุ่มก็ยิ้มขึ้นมา“สิ่งที่ทำให้ใครสักคนมีฝีมือ ไม่ใช่อายุ แต่เป็นจำนวนครั้งของการผ่าตัด ”ทุกครั้งที่เขาพูดมักจะมีรอยยิ้มอ่อนๆติดอยู่ด้วยเสมอ ถึงเรื่องที่กำลังพูดอยู่จะเต็มไปด้วยการเชือดเฉือนฟาดฟันก็ตามที
“ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ผมชื่อถังจิ้นเหยียน เพิ่งมาใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”
ฉู่ลั่วหานพิจารณาชื่อนี้อย่างถี่ถ้วน ถังจิ้นเหยียน ทำไมชื่อคุ้นๆ เหมือนกับได้ยินที่ไหนมาก่อน
“สวัสดีค่ะหมอถัง ฉันชื่อฉู่ลั่วหาน”มือนุ่มนิ่มเล็กๆยื่นออกไปข้างหน้า จับมือกับเขาพอเป็นพิธี
“คุณคงแปลกใจมาก ว่าทำไมผมถึงเรียกคุณมาช่วยโดยเฉพาะ”หลังจากที่เดินออกมาจากห้องผ่าตัด ถังจิ้นเหยียนถามเธอออกไปยิ้มๆ
“แน่นอน แล้วก็ คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไงกันคะ”ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เขาก็เรียกชื่อเธอออกมาได้อย่างมั่นใจไม่มีผิดเพี้ยน คำถามๆนี้อยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาในหัวเธอ
ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ทำไมถึงเหมือนรู้จักเธอดีนัก
ถังจิ้นเหยียนยักไหล่เล็กน้อย “อยากรู้รึเปล่าล่ะครับ”
ฉู่ลั่วหานเบ้ปากเล็กน้อย ถึงจะมีความสามารถ หน้าตาก็ไม่เลว แต่สกิลการพูดยังต้องฝึกฝนอีกหน่อยนะ
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากรู้”